รีวิว : Toyota ปล่อย “หมัดเด็ด” โมเดล Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) หวังครองตลาดมากขึ้น ด้วยไลน์อัพที่ถูกเติมเต็ม (ชม Clip & Gallery)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยกทัพสื่อมวลชนไทย ร่วมพิสูจน์ความ “แจ๋ว” ของ Toyota Fortuner อีกครั้ง เพราะเค้าเพิ่งเปิดตัว “ของใหม่” รุ่นปรับโฉม พร้อมชูจุดเด่นใหม่ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ∑4 ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่ทำให้ “Fortuner เป็นรถอเนกประสงค์เพียงแบรนด์เดียว ที่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ให้เลือกถึง 2 รุ่นเครื่องยนต์ ซึ่งจะดียังไง เรามีบทสรุปให้ในท้ายบทความ

Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุง กับไฮไลต์เด็ด พิชิตตลาด

ทริปนี้เริ่มต้นที่จุดนัดพบ Toyota Driving Experience Park ย่านบางนาตราด ตามด้วยการรับฟังสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์ ซึ่งรายละเอียดทางกายภาพก็จะประมาณว่าเติมความสดใหม่ให้ภายนอก และภายในทั้ง 2 รุ่น ตามด้วยออพชั่นความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ “การเปลี่ยนระบบเบรกเป็นดิสก์ 4 ล้อมาให้ในทุกรุ่น” รวมถึงการใส่ “ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ∑4 ในรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร” และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Toyota Fortuner ก้าวหน้าเหนือคู่แข่งอีกขั้น ด้วยการเป็นรถอเนกประสงค์เพียงแบรนด์เดียวที่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ให้เลือกอย่างครบครันถึง 2 รุ่นเครื่องยนต์”

Toyota Fortuner

 

โยกซ้ายขวา หน้าทิ่ม ตูดโด่ง  ด่านแรกของ Toyota Fortuner

จากจุดนัดพบเราเปิดวาร์ปในชั่วอึดใจมา โผล่กลางป่าเขาที่ไร่ทองสมบูรณ์แถวๆ อ. ปากช่อง บนสนามออฟโรดขนาดย่อมๆ เพื่อ “ลองของ” ใหม่ ที่ติดตั้งมาให้ ซึ่งด้วยสภาพสนามที่ค่อนข้างโหดเบาๆ “เราก็จะใช้โหมด L4 และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดในโหมด Manual เกียร์ 1” และ “รอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ราว 1,000 – 1,500 รอบต่อนาที” เพื่อเมามันส์สำหรับเส้นทางวิบาก

ตั้งแต่ “จุ่มหัว” จากจุด Start ลงทางชัน ก็จะมี เนินสูง-ต่ำ และเนินเอียง ให้ระบบได้แสดงประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ซึ่งมีระบบ DAC – Downhil Assist Control คอยช่วยโดยแทบจะไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากแค่ประคองพวงมาลัยไปตามทิศทาง เพราะระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วขณะลงแบบอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันเมื่อจอดคาบนทางลาดชัดก็จะมีระบบ HAS – Hill Start Assist Control คอยช่วยหน่วงระบบเบรกป้องกันรถไหลย้อนกลับ ในช่วงจังหวะยกเท้าจากแป้นเบรก มาแตะคันเร่ง เพื่อให้ออกตัวได้ง่ายๆ อย่างไม่ต้องกังวล

นอกจากนี้ในสถานีที่เป็นเนินสลับที่ตั้งใจให้ล้องข้างใด ข้างหนึ่ง “แขวนลอย” กลางอากาศ ระบบ A-TRAC หรือ Active Traction Control ก็จะทำหน้าที่ลดแรงขับของล้อข้างที่หมุนฟรี และส่งกำลังไปยังล้อที่อยู่บนพื้นถนน เพื่อให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าถ้าเป็นการลุยแบบออฟโรดเบาๆ สไตล์นี้ล่ะก็ บอกเลยว่าไปได้ “สบาย” แทบไม่ต่างอะไรจากรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรขับเคลื่อน 4 ล้อเลยทีเดียว

 

ตังค์มี Teen หนักก็จัดใหญ่ แต่ถ้า “ไม่” นี่แหละคือ “ทางเลือกที่ดี”

“ตามนั้นเลยครับกับโปรยหัวข้างต้น” เมื่อได้ลองขับบนถนนปกติทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนอวัยวะเบื้องต่ำ ค่อนข้างหนัก เพราะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ที่มีกำลังทั้งแรงม้า และแรงบิดมากกว่า ก็จะสามารถตอบสนองได้ดีกว่า รวมถึงช่วงล่างที่ “ตึงๆ” กว่า  ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ซึ่งมีแรงม้า แรงบิดน้อยกว่า ก็ต้องเป็นไปตามสภาพ

อีกทั้งข้อดีก็ระบบขับเคลื่อนที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ทั้งความเร็วต่ำ-สูง นอกจากช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน และการขับขี่แล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้นอีกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาคือความรู้สึกในการขับขี่ ที่แบบว่าชัดเจนเลย ถึงความนุ่มนวลที่มีมากขึ้น ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าสิ่งนี้เกิดจากเหตุผลอะไร เราขอแนะนำให้ “ตามไปดูในคลิปตอนท้าย” นะครับ

 

ราคารถใหม่ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์)

รุ่น 2.8V 4WD ราคา 1,649,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น  2.8V ราคา 1,579,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.7V ราคา 1,569,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.4V 4WD ราคา 1,499,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.4V ราคา 1,419,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.4G M/T ราคา 1,239,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD (สี White Pearl CS/Black Top) ราคา 1,779,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD ราคา 1,759,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD (สี White Pearl CS/Black Top) ราคา 1,709,000 บาท

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD ราคา 1,689,000 บาท

 

ชม Clip : Toyota Fortuner

 

ชม Gallery : Toyota Fortuner