Review : หล่อหรู เชื่องมือ New BMW 5 Series (G30) รุ่น BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury 2017 พร้อม ราคา 3.8 ล้านบาท

โพสต์เมื่อ 19th พฤษภาคม 2017 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย iAMCAR Team

ขุนแผนเยอรมัน New BMW 5 Series 2017 รหัสตัวถัง G30 เปิดตัวในไทยเมื่อต้นปี 2017 ด้วยกัน 2 รุ่น BMW 530i M Sport เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมชุดแต่ง M Aerodynamic และ BMW 520d Luxury เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร มิติตัวถังขยายขึ้นกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย น้ำหนักตัวลดลงจากรุ่นเดิมถึง 100 กก.ด้วยเทคโนโลยี BMW Efficient Light Weight การกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลหน้า-หลัง ควบคุมได้ดังใจ รวมถึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง และค่า cd ที่ต่ำเพียง 0.22 กับค่าตัวในรุ่น BMW 530i M Sport ราคา 4,399,000 บาท ส่วน BMW 520d Luxury ราคา 3,899,000 บาท

ภายนอกปราดเปรียว หรูหรา

ภายใต้แนวคิดการออกแบบ BMW Efficient Light Weight เน้นการใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง แต่น้ำหนักเบา ซึ่งเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กก.ทีเดียว ไฟหน้าแบบ LED โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางขับขี่ ทั้งการเพิ่มแสงในมุมอับขณะเข้าโค้ง ทั้งยังปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติได้ไกลถึง 500 ม.

โดยใน BMW 530i M Sport จะติดตั้งซันรูฟเป็นมาตรฐาน การตกแต่งแบบ M Sport ฝากระโปรงหลังเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ล้อแม็ก M ลาย Double Spoke ขนาด 19” พร้อมยางแบบ Run Flat ส่วนในรุ่น 520d Luxury จะมีระบบช่วยปิดประตูแบบผ่อนแรงเป็นออปชั่นให้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะตกแต่งด้วยโครเมียม และล้อแม็กขนาด 18” ลาย W Spoke พร้อมยาง Run Flat เช่นเดียวกัน

ชุดแต่งพิเศษ M SPORT

ชุดแต่ง M Sport โดดเด่นชวนหลงใหลอย่างเด่นชัดตั้งแต่ส่วนหน้ารถ อาทิ ช่องดักลมที่ดูกร้าวแกร่งซึ่งช่วยเสริมความโดดเด่นสะดุดตาชุดแต่ง M aerodynamics และล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ Double-spoke ภายในโดดเด่นด้วยพวงมาลัยหนังในแบบ M ส่วนหลังคากระจกเปิดปิดด้วยไฟฟ้า และกระโปรงหลังพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ

ภายในหรูล้ำเต็มฟังก์ชั่น

ห้องโดยสารออกแบบด้วยเทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) เสริมการเก็บเสียงเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดของผู้โดยสาร เบาะนั่งหนังแท้ Dakota มีให้ทั้งสองรุ่น ในรุ่นเบนซินจะตกแต่งด้วยอลูมิเนียม Rhombicle และแถบโครเมียม รุ่นดีเซลจะเป็นลายไม้ Fineline Ridge และแถบโครเมียม มาพร้อมหน้าจอดิสเพลย์ขนาด 10.25 นิ้ว ปุ่ม iDrive พร้อมระบบสัมผัส เหนือชั้นกับระบบสั่งการด้วยมือ Gesture Control (เทคโนโลยีจาก Series 7) และติดตั้งระบบ Navigation มาให้ด้วย พิเศษกว่าในรุ่น 530i M Sport จะให้ระบบเสียงชั้นนำรอบทิศทาง Harman Kardon รวมถึงระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

เครื่องยนต์

BMW 530i MSport

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้าที่ 5,200-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,450-4,800 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้ 250 กม./ชม.อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.5 กม./ลิตร และปล่อยมลพิษ CO2 เฉลี่ย 129 กรัม/กม.

BMW 520d Luxury

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20 กม./ลิตร ปลดปล่อย CO2 เฉลี่ย 132 กรัม/กม.

ทั้งสองรุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ  Steptronic 8 สปีด โดยที่ BMW 530i M Sport จะมาพร้อมกับช่วงล่าง  และระบบเบรก M Sport เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Test Drive

ครั้งนี้ BMW Thailand ได้จัดสถานที่ให้สื่อมวลชนได้ทดสอบกันที่สนามบินขนงพระ ณ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอน์ คันทรี่คลับ ตัดเรื่องของ Road Test ออกไปก่อน โดยเซ็ตสถานีไว้ให้ 3 ฐานคือ Handling Course (530i M Sport&520d), Slalom Time Trial (520d) และ Parking Assistance (530i M Sport)

Handling Course : ลองเทียบคาแร็กเตอร์ทั้ง 2 รุ่นบนเส้นทางแบบมินิเซอร์กิต ได้ลองทั้งเร่ง เบรก การควบคุม เลนเชนจ์ โค้งกว้าง โค้งลึก แน่นอนว่า BMW 530i M Sport ได้เปรียบตรงช่วงล่างแบบ M มีความกระชับกว่าประมาณนึง ส่วน BMW 520d Luxury ความจริงแล้วช่วงล่าง การบังคับควบคุมก็ตอบสนองอย่างเพียงพอแล้วในรถยนต์ระดับนี้ หน้าคม น้ำหนักพวงลัยตึงมือกำลังดี รับรู้อาการตอบสนองของรถได้น่าพอใจมากทีเดียว เพียงแต่ในตัวเบนซินนั้นชุดแต่ง M Sport จึงค่อนข้างได้เปรียบเมื่อทดสอบบนสถานีนี้

Slalom Time Trial : บีเอ็มดับเบิ้ลยู จัดสถานีนี้ให้มีการแข่งขันจับเวลากันนิดหน่อย โดยเซ็ตสถานีให้ขับสลาลอมไป-กลับ เฉพาะ BMW 520d Luxury คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่มีเทคโนโลยี Efficient Light Weight น้ำหนักตัวลดไป 70 กก.จะตอบสนองได้ดีขึ้นค่อนข้างชัดเจน รู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมแม้จะเป็นซีดานไซส์ขนาดนี้ก็เถอะ

Parking Assistance : ระบบช่วยการถอยจอด ถูกพัฒนาให้ล้ำขึ้น จากเดิมที่เมื่อเรากดปุ่มให้สแกนช่องว่าง จากนั้นปล่อยพวงมาลัยให้รถทำงานหาเหลี่ยมเข้าช่องว่างของมันเองโดยเท้าเรายังต้องควบคุมเบรกอยู่ แต่ BMW530i M Sport (มีเฉพาะรุ่นนี้) ไฮเทคกว่านั้น สามารถปล่อยทั้งพวงมาลัย และเท้าออกจากแป้นเบรกได้เลย ระบบจะกะเหลี่ยมเข้าจอด (ทั้งขนาน และเข้าซอง) และเบรกรวมถึงใส่เกียร์ให้เอง เพียงแค่ว่าเมื่อสแกนพบช่องจอดแล้ว ต้องกดปุ่มระบบนี้แช่ไว้ จนกว่าการถอยจอดจะเสร็จสมบูรณ์

หลังเสร็จการทดสอบในสนามที่จัดไว้ เราได้มีโอกาสลองขับบนถนนจริงละแวกเขาใหญ่อีกกว่า 20-30 กม.ในรุ่น BMW 520d Luxury การตอบสนองของตัวรถชัดเจนมากกว่าในสนามเสียอีก เห็นคันใหญ่ขนาดนี้แต่หน้าคม คุมพวงมาลัยง่าย น้ำหนักพวงมาลัยประทับใจทีเดียว ไม่หนักไม่เบาไป มั่นใจสุดๆ เวลาเข้าโค้ง อัตราเร่งตอบสนองทันใจเผลอแป๊ปเดียวขึ้นไป 100 กว่ากม./ชม.แล้ว ช่วงล่างออกสไตล์นุ่มนิดๆ แต่หนึบกำลังดี

สรุปสั้นๆ แม้จะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นก่อน (F10) อยู่บ้าง แต่นี่คือโมเดลเชนจ์ใหม่ทั้งหมดในเจนเนอเรชั่นที่ 7 (G30) ขนาดถูกขยายขึ้นจากเดิมในทุกๆสัดส่วน โดยให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักลงจากรุ่นเดิม โดยรุ่นเบนซินทำได้ 100 กก.รุ่นดีเซล 70 กก.ซึ่งผลลัพธ์บอกเลยว่าขับได้เชื่องมือ นุ่มนวล หนึบ พร้อมออปชั่นจัดหนักไม่เบากันไปเลย