ฝนตกหนัก น้ำซึม เปียกผ้าหลังคา รั่วตรงไหนได้บ้าง
ฤดูนี้เป็นช่วง ฝนตกหนัก อยู่ด้วย หลายคนที่ไม่ได้จอดรถใต้หลังคา หรือบางคนขับท่ามกลางพายุฝน จู่ๆ ก็เห็น ผ้าหลังคา มี น้ำซึม เอาล่ะสิทีนี้ ปัญหาหนักอกมาแน่ แล้วอย่างนี้รถเรามีรอยรั่วตรงไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
การได้เสวนาในหมู่สมาชิกพวกพ้อง บางคนก็มีปัญหานู่นนี่นั่นบ้าง อย่างล่าสุดเจอเคส น้ำรั่วเข้ารถ ซึ่งเป็นปัญหาของรถที่ค่อนข้างมีอายุ หรือไม่ก็เป็นจุดอ่อนติดตัวประจำรุ่นนั้นๆ หรือบางครั้งเกิดจากอุบัติเหตุอะไรสักอย่างที่ต้องผ่านการรื้อประกอบ จึงเป็นไปได้หมดทุกกรณี
มาว่ากันถึงปัญหาที่เกิดกับรถพวกพ้องคันนี้กันบ้าง ต้นเหตุมาจากการที่ต้องขับรถผ่านพายุฝนกระหน่ำ ระดับที่ใบปัดน้ำฝนความเร็วระดับ 3 ยังเอาแทบไม่อยู่ เมื่อกลับถึงบ้าน พบว่า ผ้าหลังคา ชุ่มโชกไปด้วยน้ำ ตรงบริเวณเสา A งานนี้เราค่อยๆ ไปหาสาเหตุกัน
ถ้าเปียกมาอย่างนี้ สันนิษฐานคงไม่ยากเท่าไหร่ว่ามาจากด้านบน และอยู่ตรงช่วงมุมเสา A ด้วย ความเป็นไปได้จึงมีจำเลยแค่ 2 อย่างคือ ตะเข็บบนหลังคา (ที่มีคิ้วปิดทับ) และซีลยางขอบกระจกหน้า
งานนี้จึงแนะนำไปว่า ให้แกะพลาสติกเสา A ออกมาก่อน แล้วลองให้ใครช่วยฉีดน้ำราดลงมาจากหลังคา เพื่อดูว่าน้ำเข้ามาทางไหน จะได้เลือกเส้นทางถูกว่า จะแก้ไขด้วยตัวเอง หรือต้องถึงมือช่าง
ถ้าจะเลือกแก้ไขเอง ต้องมั่นใจสักนิดว่าพอมีฝีมือช่างติดตัวอยู่บ้าง ซึ่งกรณีนี้คือ จะเข็บรอยต่อของหลังคา โดยการ แงะ คิ้วหลังคา ที่เป็นเส้นยาวๆ พาดตั้งแต่กระจกหน้ายาวไปจนสุดหลังคาก่อนกระจกหลัง วิธีแงะอาจจะยากๆ หน่อย ต้องพอรู้เทคนิก และตัวล็อกว่าอยู่ตรงไหนบ้าง (หาดูจากยูทูปน่าจะมี) เมื่อแงะได้แล้ว ให้ใช้ ซิลิโคน จะแบบใสหรือสีดำก็เลือกเอาตามชอบ ป้ายลงไปบนรอยต่อตะเข็บ ซึ่งรถที่มีอายุอาจจะมีผุบ้าง หรือไม่ก็บิดเบี้ยวบ้างจากการใช้งาน แต่ก่อนจะป้ายซิลิโคน ควรทำความสะอาดก่อนให้เรียบร้อย ส่วนค่าใช้จ่ายซิลิโคนราวร้อยกว่าบาท แต่ถ้ารื้อแล้วคิ้วพัง อันนี้ต้องมีราวๆ 2 พันบาทรวมค่าแรง
แต่ถ้าเป็นยาวแนวกระจกหน้า ตรงนี้ควรจะขับไปร้านกระจก ให้เค้าถอดใส่บานกระจกหน้าใหม่ เนื่องจากเป็นงานเฉพาะทาง ทำเองคงยากเกินไป อุปกรณ์ก็ไม่พร้อม ความชำนาญคงสู้ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราควรรู้สาเหตุก่อนนำไปซ่อมแซมก็เท่านั้นเอง