Sunroof หรือ Moonroof ต่างกันตรงไหน
สมัยนี้ออปชั่นอย่าง Sunroof หรือบางคนเรียก Moonroof ดูจะเป็นจุดขายที่ทำให้บรรดาลูกค้า นำมาเป็นทางเลือกในการประกอบการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันหนึ่งด้วย เหตุผลก็คือเรื่องของความเท่ ความหล่อ นี่แหละ บางครั้งอารมณ์นึกครึ้มขึ้นมา ก็เปิดหลังคา โผล่ศีรษะไปรับลมเย็น หรือเปิดแหงนมองดูดาวยามรถติด แต่ทราบหรือไม่ว่า ไอ้เจ้าช่องบนหลังคาที่เปิด-ปิดได้นี้ เรียกว่าอะไรกันแน่
อะไรคือ Sunroof อะไรคือ Moonroof
- ในสมัยก่อนเราจะได้ยินแต่คำว่า ซันรูฟ เพราะคำเรียกนี้มาก่อนเป็นคำแรก สมัยที่ฮือฮากับรถยนต์ที่มีช่องเปิดบนหลัง โดยช่องที่ว่าจะมีลักษณะ ปิดทึบ ใช้วัสดุแบบเดียวกับหลังคา หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือแผ่นหลังคาเป็นเหล็ก แล้วเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม โดยช่องนั้นยังใช้แผ่นเหล็กที่เจาะออกไป นำมาปิดทับ แต่สร้างกลไกทำให้สามารถเลื่อนเปิด-ปิด เพื่อรับอากาศจากภายนอกได้
- ส่วน มูนรูฟ เป็นวิวัฒนาการ (ในสมัยนั้น) ที่ ซันรูฟ กำลังบูม แต่ทว่าบางยี่ห้อ (ตอนนั้น) เฉือนหลังคาให้เป็นช่องแบบ ซันรูฟ แต่กลับโยนแผ่นเหล็กที่เจาะนั้นทิ้งไป แล้วแทนที่ด้วยวัสดุโปร่งใส (กระจก)แทน เพื่อจะได้มองทะลุหลังคาได้ตลอดเวลา
- การทำช่องหลังคาแบบโปร่งใส จำเป็นต้องมี “ม่าน” กั้น รวมถึงตัววัสดุโปร่งใส (กระจก) นั้นต้องติดฟิล์มไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อกันความร้อนจากแสงอาทิตย์
- ฉะนั้นความแตกต่างระหว่าง ซันรูฟ กับ มูนรูฟ ก็คือซันรูฟ จะสามารถปกป้องแสงจากดวงอาทิตย์ได้ดีกว่า เพราะวัสดุนั้นยังคงเป็นแบบเดียวกับหลังคา แต่มูนรูฟจะได้ความโปร่งโล่ง เห็นวิวทิวทัศน์ มองเห็นดวงจันทร์ แต่ไม่ปกป้องแสงอาทิตย์ เค้าจึงเรียก มูนรูฟ
- ด้วยวิวัฒนาการ และความนิยม สมัยนี้จึงมีช่องหลังที่กว้างขึ้น ครอบคลุมไปถึงที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง ส่วนใหญ่แล้วจะเรียกว่า Panoramic ซันรูฟ / Glass roof (ขึ้นอยู่กับรถยี่ห้อนั้นๆจะเรียก) ซึ่งมาจากคำว่า Panorama คือมุมมองกว้างๆ นั่นเอง
สรุปแล้วสมัยนี้ ช่องที่เจาะทะลุหลังคา เรามักเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ซันรูฟ เป็นอันว่า คำนี้เรียกง่าย สื่อสารง่าย เข้าใจง่ายว่า รถรุ่นนั้นๆ ที่มีช่องทะลุหลังคา จะแบบทึบ หรือโปร่งแสง ก็เหมารวมเรียกว่า ซันรูฟ ไปแล้วนั่นเอง