“การดูแลรถ” แบบง่ายๆ … ฉบับเอาใจ “สายจอด”
ว่าด้วยเรื่องของ “รถ” คนส่วนใหญ่อาจมองเป็นแค่ “สิ่งของ” สำหรับ “ใช้งาน” … แต่ดูเหมือนจะ “ไม่ใช่” กับคนบางกลุ่มที่ตีความหมายของ “รถ” ให้กลายเป็น “ของสะสม” ทรงคุณค่า เพราะฉะนั้นวงจรชีวิตส่วนมากของบรรดารถเหล่านี้ก็คือการ “จอด” เพื่อรอฤกษ์งามยามดี ได้ออกมารับแสงเดือน แสงตะวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อ “ลด” ความเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุ และการสึกหรอจากการใช้งาน” แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้อง “ดูแลรถ” หากแต่ตรงกันข้ามเลยทีเดียว เพราะบรรดารถเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นเรื่อง “ไม่ยาก” เกินไป ที่บรรดา “สายจอด” สามารถทำได้ … ฉะนั้นไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ความสะอาดในรถ
ถ้าคุณไม่ใช่ “สายกิน” ที่ชอบเหน็บขนมขึ้นรถ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าใช่ เราแนะนำให้นำรถไปทำความสะอาดชุดใหญ่ เพื่อกำจัด “กลิ่น” หรือ “เศษอาหาร” ในรถให้หมดสิ้นไป โดยเฉพาะห้องโดยสาร เพราะปัญหาใหญ่ก็คือ มันเป็นตัวล่อชั้นดีให้ “น้องหนู” หรือ “แมลง” ต่างๆ ย่างกรายเข้ามาในรถ … และเราคงไม่ต้องบอกต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณทิ้งรถเอาไว้นานๆ
สถานที่จอด
หลังจากนำรถสุดรักไปอาบน้ำประแป้งตัวหอมแล้ว “สถานที่จอด” ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยถ้าคุณมีที่จอดในบ้าน ในร่ม ถือเป็นความโชคดีมหาศาล แต่ถ้า “ไม่” เราแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้, จุดเปียกชื้น หรือใกล้ถังขยะ เพราะถึงไม่มี “กลิ่น” หรือ “เศษอาหาร” เป็นตัวล่อ แต่บรรดา “น้องหนู” หรือ“แมลง”ก็อาจมาวิ่งเล่นในรถคุณได้เช่นกัน ส่วนใต้ต้นไม้ถึงแม้จะมีร่มเงาให้อาศัย แต่ก็เสี่ยงไม่น้อยที่จะโดนโจมตีด้วย ขี้นก, ยางไม้ หรือแม้กระทั่งกิ่งไม้หักร่วงลงมาได้เช่นกัน
แบตเตอรี่
แม้เราจะจอดรถเอาไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้ แต่รู้หรือไม่ว่าตัวแบตเตอรี่ก็สามารถคายประจุไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบในรถ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็พวกสัญญาณกันขโมย ที่ต้องทำงานตลอดเวลา ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่แบตจะหมด หรือ เสื่อมได้ ฉะนั้นวิธีแก้ง่ายๆ ก็ควรสตาร์ทเครื่องยนต์บ้าง ถ้ามีเวลาก็ “วัน หรือ 2 วันครั้ง” แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ซัก “อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 ครั้ง” เพื่อยืดอายุการใช้งานด้วยการให้ไฟชาร์จเข้าแบตเตอรี่ แถมเครื่อยนต์ก็ยังได้ทำงานอีกด้วย
น้ำมันเครื่อง/ไส้กรอง
โดยปกติสำหรับรถใช้งานทั่วไป เราต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ ซึ่งก็จะว่ากันไปที่ตั้งแต่ 5,000 กม., 7,000 กม. หรือกระทั่ง 10,000 กม. ก็แล้วแต่รุ่น แต่กับ “สายจอด” คงจะไม่ดีแน่ถ้าจะอ้างอิงตามระยะทาง เพราะปีๆ นึง ก็วิ่งกันไม่กี่ครั้ง แถมบางทีระยะทางก็ไม่ได้ไกลอะไรมากมายนัก ฉะนั้นเราแนะนำว่าให้กำหนดด้วยระยะเวลาเดือนเป็นหลัก ซึ่งนับง่ายๆ ก็ซัก 6 เดือนเปลี่ยนถ่าย 1 ครั้ง เพราะน้ำมันเครื่องมีวันหมดอายุ และสามารถเสื่อมสภาพได้
ยางรถยนต์
ส่วนสำคัญของรถ เพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนก็คือ “ยางรถยนต์” เพราะฉะนั้นมันคืออีกสิ่งที่ต้องดูแลให้ดีเช่นกัน โดยถ้าหากจำเป็นจะต้องจอดรถเป็นเวลานาน “ลมยาง” ควรเติมให้มากกว่าปกติ เพื่อให้มีลมมากพอที่จะรักษารูปทรงของโครงสร้างยางให้ปกติได้มากที่สุด เพราะการจอดรถเป็นระยะเวลานาน จะทำให้น้ำหนักของตัวรถกดทับยาง จนอาจทำให้ยางเสียรูปได้ และถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีการเคลื่อนตัวบ้าง เพื่อป้องกันอาการยางไม่คืนตัว จากการกดทับอยู่เพียงจุดเดียว หรือหากเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องจอดนานเป็นเดือนๆ งานนี้ควรจะต้องหาแท่นวางมาใช้ยกรถให้ลอยจากพื้น เพื่อไม่ให้น้ำหนักรถกดทับยาง
และทั้งหมดก็คือวิธีง่ายๆ ในการดูแลรถ “สายจอด” ที่ไม่ยากจนเกินไป ซึ่งเรามั่นใจว่าบรรดาเจ้าของรถทุกท่าน “ทำได้” เพื่อให้คุณมีความสุขกับ “รถคันโปรด” ต่อไป แม้นานๆ ครั้งจะได้ขับก็ตาม