เที่ยวทะเลให้สบายใจ ควรปิดท้ายทริปด้วยการ “ล้างรถ”
คงปฎิเสธไม่ได้ว่า “ชายทะเล” ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่เชื่อได้ว่าส่วนใหญ่หลายๆ คน ต้องขับรถไปทันทีที่มีโอกาส และเวลาว่าง ไม่ว่าจะค้างคืน หรือไม่ค้างก็ตาม … แล้วก็ส่วนใหญ่อีกนั่นแหละครับที่หลังจากเที่ยวทะเลเสร็จก็ตรงดิ่งเข้าบ้านพักผ่อนเลยทันที เพื่อเตรียมตัวทำภารกิจต่อไปในวันรุ่งขึ้น จนลืมไปว่าควร “ล้างรถ”
ด้วยเพราะใน 2-3 วันที่ผ่าน “รถคู่ใจ” ของคุณได้ถูกนำไป ตากแดด, ตากฝน หรือตากลม ซึ่ง “ลมทะเล” นี่แหละครับ ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ร้ายกาจที่สุด เพราะมันพัดพาเอา “ความเค็ม” จากไอน้ำทะเลมาด้วย และนั่นเท่ากับว่า “รถคู่ใจ” ของคุณก็ จอดรับมันไปในช่วงที่มาพักผ่อน จนกระทั่งคุณเดินทางกลับก็เอา “ความเค็ม” ที่เคลือบรถของคุณอยู่กลับไปด้วย
และคุณสมบัติ “ความเค็ม” ของไอน้ำทะเล มันสามารถทำให้เกิดการ “ผุกร่อน” หรือ “สนิม” ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของวัสดุประเภท “เหล็ก” หรือ “โลหะ” อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ต้องตระหนกตกใจชนิดที่เที่ยวทะเลเสร็จ กลับบ้านมาต้องรีบกุลีกุจอไปล้างรถตอนนั้น เดี๋ยวนั้นนะครับ เพราะในรถสมัยใหม่เค้ามีการ “พ่นกันสนิม” มาให้เรียบร้อยจากโรงงาน เพราะงั้นมันจึงไม่ได้เกิดสนิมกันง่ายๆ นัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นเลยเช่นกัน
ฉะนั้นทางที่ดีหลังจากเที่ยวทะเลจนสุขสมอารมณ์หมาย และมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ “ล้างอัดฉีด” ซักหน่อย เพื่อนอกจากขจัดคราบความเค็มที่เคลือบอยู่ทั่วตัวรถแล้ว ยังถือเป็นการกำจัดเศษกรวด เศษทรายที่พัดมากับลมทะเล จนติดเข้าไปในร่อง ในหลืบ ของรถเช่นกัน ล้างแล้วก็ยังไม่พอครับ ต้อง “เช็ดให้แห้ง” ด้วย ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะนั่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะทำให้เกิด “สนิม” ขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากเรื่อง “สนิม” หรือการ “ผุกร่อน” ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวหากละเลยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ก็คือ ความ “เหนียว” ที่จะปรากฏอยู่ทั้งบนกระจก และตัวถัง ซึ่งต่อมาก็เกิดการจับตัวกับ “ฝุ่น” จนทำให้เกิดคราบดำๆ แลดูสกปรก แถมถ้าทิ้งไว้นานเกินไปก็จะทำร้ายสุขภาพของ “สีรถ” หรือ “กระจกรถ” ให้ “หมอง” หรือ “ด่าง” เอาง่ายๆ เลยทีเดียว
เพราะงั้นการ “ล้างรถ” หลังกลับจากเที่ยวทะเล จึงเป็นสิ่งที่คนรักรถ “ควรทำ” แต่ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ว่าไม่ต้องรีบขนาดถึงบ้านปุ๊บ ต้องล้างปั๊บ แต่เอาเป็นว่า “เวลาว่าง” ก็พอ … แล้วก็ “เวลาว่าง” ในที่นี้ หมายถึงในอีก 3-4 วันให้หลังนะครับ ไม่ใช่อีก 1-2 เดือน หากไม่อยากเจอปัญหาในระยะยาวเกิดขึ้นกับรถสุดรัก