รีวิว All New HONDA Civic RS 1.5 VTEC Turbo ( ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ )

โพสต์เมื่อ 17th กุมภาพันธ์ 2016 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พาคณะสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะของ All New HONDA Civic พร้อมเครื่องยนต์ VTEC TURBO ใหม่ ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ฮอนด้าจะได้แนะนำเครื่องยนต์ VTEC TURBO ในยนตรกรรมพรีเมียมสปอร์ตซีดาน “ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ” ซึ่งเตรียมที่จะเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้

All-New HONDA Civic ออกแบบภายใต้คอนเซ็ป Wide & Low Body คิอเน้นที่ความกว้างของตัวรถเพื่อให้มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง ลดความสู่ของตัวรถลงเพื่อให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ตามสไตล์รถยุโรปที่มีโครงสร้างตัวรถที่กว้าง และมีความสูงที่ต่ำลง ให้อารมณ์ ความรู้สึกของการขับขี่แบบสปอร์ต และมั่นใจ โดยมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D Segment ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอันทันสมัย

มิติตัวถังของจึงมีความยาว 4,630 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 25 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,799 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร ความสูง 1,416 มิลลิเมตร เตี้ยลง 20 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 30 มิลลิเมตร โอเวอร์แฮงค์ด้านหน้า 865 มิลลิเมตร ลดลง 65 มิลลิเมตร ด้านหลัง 1,020 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้น 60 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีความลึกมากขึ้น 60 มิลลิเมตร มีความจุ 530 ลิตร ขอบล่างของกระจกหน้าต่ำลง 40 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,565/1,555 กว้างขึ้น 45/55 มิลลิเมตร ตามลำดับ ภายในห้องโดยสาร ด้านหลังมีพื้นที่ช่วงหัวไหล่เพิ่มขึ้น 35 มิลลิเมตร ระยะห่างตรงกลางระหว่างผู้โดยสารฝั่งซ้ายและขวาเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร แนวขอบล่างของประตู ต่ำลง 20 มิลลิเมตร ซึ่งหากมองเรื่องความสวยงามผมถือว่าเป็นซีดานที่มีความสปอร์ตมากๆ ความโดดเด่นถูกร้อยเรียงต้อง แต่หัวจรดท้าย ยิ่งในส่วนของไฟท้ายทรงตัว “ C ” ที่บ่งบอกว่านี้คือ Civic ทำได้โดนใจผมเอามากๆ

ในส่วนของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทยได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีสมรรถนะที่ทรงพลัง และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ซึ่งการทำงานของเครื่องยนต์บล็อคมีมนต์เสน่ห์ที่โดดเด่นอยู่ 3 สิ่ง คือระบบหัวฉีด ไดเรคท์ อินเจคชัน และท่อไอดีแบบตรง ซึ่งสามารถฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกระบอกสูบโดยตรง ช่วยลดอุณหภูมิภายในกระบอกสูบ และการไหลของไอดีแบบตรง ช่วยให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและต่อเนื่อง ต่อมาเป็นระบบการควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วแบบคู่ (Dual VTC) ของท่อไอดี ส่วนนี้ช่วยควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วของท่อไอดีและท่อไอเสีย ให้สอดคล้องกัน จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในรอบต่ำ ที่สำคัญคือเทอร์โบ ชาร์จเจอร์ ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้าซึ่งมีการใช้ เทอร์โบ ชาร์จเจอร์ ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้าที่ติดตั้งใบพัดขนาดเล็ก เพื่อนำพลังงานไอเสียส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เมื่อเหยียบคันเร่ง

เครื่องยนต์บล็อคนี้มีขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift

การทดสอบในครั้งนี้ทาง HONDA ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในการทดสอบส่วนตัวรถเป็น All-New HONDA Civic RS 1.5 VTEC Turbo ซึ่งเป็นตัว Top สุดในรุ่น 1.5 ลิตร โดยจะให้สื่อมวลชนขับท่านละ 2 รอบสนาม มีระยะรอบละ 4,554 เมตร โดยรวมถ้าเป็นมองเป็นซีดานคันหนึ่งที่นำมาใช้บนท้องถนนทั่วไป ผมถือว่ามีการตอบสนองที่ดีมากๆ เครื่องพิกัดเล็ก 1.5 ลิตร แต่มีอัตราเร่งที่เร็วในช่วงทางตรงระยะ 1 กม. ทำความเร็วขึ้นไปยันที่ 170 กม./ชม. ถือว่าเร็วทีเดียว ความน่าสนใจอีกอย่างคือความเรียบลื่นในการเกียร์จังหวะของเกียร์ CVT ทำได้นิ่มนวลมากพอประกอบกับโหมด Sport ที่สามารถใช้ Paddle Shift เป็นตัวควบคุมจัวหวะของเกียร์ด้วยตัวเองทำให้สนุกมากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับเร้าใจมากนัก หากมองเรื่องเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับเครื่องยนต์บล็อคนี้ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จของเครื่องยนต์ยุคใหม่ ที่ใช้ทั้งหัวฉีดตรง และเทอร์โบ เพื่อสร้างสมรรถนะแต่ความประหยัดไปพร้อมกันอย่างลงตัว มาดูในส่วนของช่วงล่างในทางตรงความเร็วสูงนิ่งมาก ในทางโค้งต่างๆ ผมมองว่าบอกถนนปกติทำได้เยี่ยมมากแน่ แต่นี้เป็นทางโค้งในสนามแข่งอาจจะมีอาการของท้ายเหวี่ยงบ้างซึ่งเป็นจากท้ายที่ยาวขึ้นมาก แต่โดยรวมถือว่าเลิศครับ

All-New HONDA Civic RS 1.5 VTEC Turbo สอบผ่านอยู่แล้วสำหรับการเป็นซีดานยุตใหม่ แต่คงต้องรออีกสักนิดว่าราคาจะออกมาเท่าไร จึงจะกลับมาตอบได้ว่าคุ้มราคาหรือเปล่า