รีวิว : All New SUZUKI Ertiga ( ออล นิว ซูซูกิ เออร์ติกา ) ที่ยกความโดดเด่นทั้ง การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ความสะดวกสบาย และความอเนกประสงค์ มารวมไว้อย่างลงตัว

โพสต์เมื่อ 6th มีนาคม 2013 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อ DNA ของ Swift ขยายขนาด เพิ่มความจุ เติมเต็มความอเนกประสงค์ จนกลายร่างออกมาเป็น All New SUZUKI Ertiga ( ออล นิว ซูซูกิ เออร์ติกา ) ที่ยกความโดดเด่นทั้ง การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ความสะดวกสบาย และความอเนกประสงค์ มารวมไว้อย่างลงตัว

All New SUZUKI Ertiga

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดการทดสอบ All New SUZUKI Ertiga รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ให้กับสื่อมวลชนก่อนเปิดตัวขายจริง Ertiga MPV ถือว่าเปิดตัวออกมาในเวลาที่เหมาะสม เพราะคู่แข่งในตลาดของ MPV บ้านเรามีตัวเลือกอยู่น้อย และส่วนใหญ่จะเป็นการนำ MPV 7 ที่นั่งเข้ามาขายให้ครบไลน์ผลิตภัณฑ์มากกว่าที่จะเป็นรถสร้างยอดขาย ดังนั้นความครบถ้วนขององค์ประกอบอาจจะมีไม่เท่ารุ่นที่ขายได้ปริมาณมากๆ ดังนั้น ซูซูกิ จึงอาสาเข้ามาสร้างมาตราฐานใหม่ของรถ MPV

การออกแบบ

SUZUKI Ertiga ได้พัฒนา Platform มาจาก Swift โดยปรับให้มีความทนทานมากขึ้น น้ำหนักเบาลง มีความยาวฐานล้อ 2,740 มม. ยาวกว่า Swift 310 มม. ฐานล้อหน้า 1,480 มม. เท่า Swift GLX ฐานล้อหน้า 1,490 มม. กว้างกว่า Swift GLX อยู่ 5 มม. ส่วนการออกแบบส่วนตัวผมมองคล้ายๆ กับการจับเอา APV ที่มีรูปร่างเหลี่ยมๆ มาผสมกับความโค้งมนของ Swift ซึ่งออกมาดูสบายตาดีครับ หากดูจากไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน กระจังหน้า และกันชนหน้าคล้าย Swift มาก ด้านข้างเดินเส้นสายเพื่อลดการหมุนวนของอากาศได้สวยงามดี แต่ด้านท้ายนี้สิ ใช้เส้นสายและเพิ่มมุมเว้า มุมโค้งในสไตล์ Hatchback มาผสมกับ MPV ได้ลงตัวไม่น้อย แถมยังมีไฟท้ายขาว-แดง มาเป็นจุดดึงสายตาให้น่าจับจ้อง

เครื่องยนต์

เมื่อทุกอย่างพร้อมเราเริ่มออกเดินทางในเส้นทางสบายๆ กรุงเทพฯ-พัทยา ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร เครื่องยนต์ที่ Ertiga มีมาให้ คือ รหัส K14B แบบ 4 สูบ 16 วาล์วพร้อมระบบแปรผัน VVT ความจุกระบอกสูบ 1,373 ซีซี. ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบมัลติพอยท์ MPI มีแรงม้าสูงสุดที่ 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล e 20 มีให้เลือกทั้งระบบส่งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ออโต้ 4 สปีด ในคันที่ผมขับทดสอบเป็นรุ่น GX ซึ่งเป็นตัว Top ที่สุด ในช่วงแรกของการขับขี่ เป็นทางโล่งๆ บนมอเตอร์เวย์ ผมจึงลองสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ถ้ามองจากน้ำหนักตัวรถ 1,265 กก. บวกกับผู้โดยสารอีกสามท่าน กับแรงม้าที่มีอยู่ 95 แรงม้าท่าจะเหนื่อย แต่ความเร็วช่วงต้นกลับออกมาได้น่าพอใจ ยิ่งความเร็วปลายไปแตะที่ 160 กม./ชม. ในปลายเกียร์ 3 ยิ่งน่าพอใจ พอเกียร์ 4 สามารถไปแตะที่ 170 กม./ชม. ยิ่งทำให้ผมแปลกใจ แต่พระเอกที่ทำให้รถสามารถวิ่งได้ดีเกินคาด คงต้องยกให้การเรียงอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสมนั่นเอง แต่ความเร็วเฉลี่ยในการวิ่งทางไกลประมาณ 120 – 130 กม./ชม. กำลังอยู่ในเกณฑ์ที่ขับชิวๆ สบายๆ

ระบบช่วงล่าง

ผ่านไปประมาณ 100 กม เราเลี้ยวออกจากทางหลักไปหาทางโค้งขึ้นเขาเล็กๆ ดูบาง เพื่อไปลองระบบช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน จากที่ขับมาด้วยความเร็วสูงในทางตรงความเร็ว 0-150 กม./ชม. ถือว่าการทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ดี แถมยังได้ความนิ่มนวลมาด้วย แต่เกิน 150 กม./ชม. พอมีอาการส่ายอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะความเร็วขนาดนี้ไม่เหมาะที่จะใช้กับ MPV ขนาด 1.4 ลิตรอยู่แล้ว รถสไตล์นี้วิ่งความเร็ว 110 -120 กม./ชม. ในการเดินทางไกลกำลังดีครับ ในส่วนของทางโค้งต่างๆ การตอบสนองของพวงมาลัยถือว่าควบคุมง่าย การทรงตัวในโค้ง แม้จะมีความสูงตัวถังมาก ทำให้เกิดการโยนตัวในโค้งอยู่นิดหน่อย แต่ช่วงล่างยังสามารถพาคุณผ่านโค้งได้ไม่อยาก ถ้าคุณไม่ใช้ความเร็วที่โอเวอร์เกินไป

ภายใน

หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จ เดินทางกลับผมขอเป็นผู้โดยสารบ้าง ในภาพของภายในคุมโทนด้วยสีเบจ เพื่อความกว้างขวาง เบาะนั่งแบบเป็น 3 ตอน สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้มากถึง 5 แบบ ที่คอนโซลออกแบบในสไตล์เดียวกับ Swift เรือนไมล์ยกมาจาก Swift เลยทีเดียว พวงมาลัยแบบ 3 ก้านพร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียง สิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน เครื่องเสียงแบบ 2 DIN, MP3 ช่องเสียบ USB ระบบปรับอากาศอิสระหน้า – หลัง มีช่องทางออกของลม 12 ช่องรับรองว่าเย็นทั่วคันแน่ๆ นอกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ตำแหน่งการใช้งานที่สะดวกแล้ว ที่ผมชอบ คือ ความนิ่มนวลในการนั่งแถว 2-3 วัสดุเกรดดีที่นำมาใช้ในส่วนภายใน อีกอย่าง คือ การเก็บเสียงในห้องโดยสารที่ดี

Good Handing – Comfort – Utility Space ความโดดเด่นที่ซูซูกิบอกว่ามีใน All New SUZUKI Ertiga สำหรับผมถือว่ามีมาให้ครบจริงๆ แต่การที่จะบอกว่ารถคันนี้คุ้มค่าหรือไม่ คงต้องรอทางซูซูกิเปิดราคาขายออกมาก่อน ผมจึงจะกลับมาตอบได้ว่าคุ้มหรือไม่ แต่ที่ผมบอกได้ตอนนี้ คือ All New SUZUKI Ertiga เป็นทางเลือกใหม่ของ MPV 7 ที่นั่งที่คุณต้องเก็บเอาไปพิจารณา