All New Xpander กว่า 400 กม. … ล่องอีสานใต้ สุดปลายทางที่ กทม.
บททดสอบที่ 3 ของ All New Xpander ยนตรกรรม Crossover รุ่นใหม่จากค่าย Mitsubishi มากับการเปลี่ยนอรรถรสครั้งใหม่ ด้วยเส้นทาง บุรีรัมย์ – ปราจีนบุรี – กรุงเทพฯ ทำให้ในทริปนี้เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางการขับขี่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับการใช้งานในเมือง หรือในชีวิตประจำวันมากที่สุด ซึ่งนั่นอาจหมายถึง “คำตอบ” ที่ผู้บริโภคหลายคนเฝ้ารอคอย “ต้องการ” ก็เป็นได้
All New Xpander เปิดฉาก “บุรีรัมย์” … ก่อนปรี่กลับ “กทม.”
ฟ้าสาง พร้อมสายฝนโปรยปราย ในขณะที่เครื่องบินกำลังร่อนลงจอด ณ ท่าอากาศยานจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ในไม่กี่อึดใจเราก็จะได้เห็น All New Xpander ตัวเป็นๆ กันซักที ซึ่งตามกำหนดการทริปนี้เราจะออกสตาร์ทกันที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเริ่มต้นจากการเข้าห้องเรียนเพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกใหม่ในตลาดรถยนต์บ้านเรา พร้อมด้วยการแนะนำเส้นทางสำหรับ 2 วันทดสอบ
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาลอง “ของจริง” จากจุดสตาร์ท ไปแวะทักทายเจ้าบ้านเล็กน้อย ก่อนจะจัดชุดใหญ่วิ่งไปยาวๆ ด้วยเส้นทางที่ “คุ้นเคย” กันเป็นอย่างดีกับทางหลวงหลัก แต่ครั้งนี้ไม่ได้ตรงออกถนนมิตรภาพ เพราะเลี้ยวซ้ายแยกปักธงชัย ใช้ ทล. 304 เป็นเส้นทางหลักเพื่อไปทานมื้อเที่ยงท่ามกลางธรรมชาติที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะจบวันด้วย 1 ค่ำคืนสุดพิเศษที่จังหวัดปราจีนบุรี และสบายๆ กลับสู่ กทม.
ตอบโจทย์ครบครัน สำหรับการใช้งาน
ตลอดเส้นทางตั้งแต่จุดสตาร์ท นั้นเรียกว่าเราสามารถค้นหาคำตอบที่ต้องการได้อย่างชัดเจนทีเดียว โดยเฉพาะผู้ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งแต่เรื่องของขนาดตัวถังที่มีความเหมาะสมไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป ด้วยความยาว 4,475 มม. ความกว้าง 1,750 มม. ความสูง 1,700 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,775 มม. ตามด้วยการนำเสนอจุดเด่น ด้วยสไตล์ของยนตรกรรมแบบ Crossover ที่มีความสูงใต้ท้องรถระดับ 205 มม. ซึ่งเคลมว่าสามารถ “ลุย” ไปได้ แม้จะไม่ใช่ “ถนนดำ”
ส่วนห้องโดยสารภายในนั้นมากับรูปแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งแน่นอนว่าเบาะนั่งทั้ง 2 แถวนั้นสามารถปรับพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ ไม่ว่าจะกรณีออกเที่ยวต่างจังหวัดแบบคนน้อยสัมภาระเยอะ หรือถ้าหากใช้งานในชีวิตประจำวันแบบต้องขนผู้โดยสารเต็มพิกัด ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเบาะนั่งแถวที่ 3 นั้นสามารถรองรับการโดยสารได้แบบสบายๆ
สำหรับในเรื่องของความสะดวกสบายจากฟังค์ชั่นมาตรฐานต่างๆ ถือว่าให้มาค่อนข้างครบครัน และตอบโจทย์การใช้งานได้แบบเพียงพอ ตลอดจนระบบความบันเทิงที่ควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งรองรับกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถสไตล์นี้ แต่ถ้าจะให้ดีขออีกนิดกับสัญญาณเตือนลืมปลดเบรกมือจะดีมาก เพราะเราเชื่อว่าแค่สัญญาณเตือนบนหน้าจออย่างเดียวคงไม่น่าจะพอ
สมรรถนะประทับใจ … ในสไตล์รถอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัว
สำหรับ Specifications ของ Xpander จะประกอบด้วยขุมพลังเบนซินพิกัด 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว สำหรับสร้างเรี่ยวแรงให้ใช้ที่ 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รับหน้าที่ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด รองรับด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท และเหล็กกันโคลง ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมด้วยระบบเบรกแบบด้านหน้าดิสก์เบรก กับด้านหลังแบบดรัมเบรก ให้ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วเป็นมาตรฐาน รัดด้วยยาง Bridgestone Ecopia150 ขนาด 205/55R16
ซึ่งด้วยรายละเอียดข้างต้น บอกได้เลยว่าเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง หรือการเดินทางไกลในวันหยุดพักผ่อน … แต่ต้องออกตัวสักนิดว่าต้องเป็นคนที่ไม่ใจร้อน และคาดหวังความสปอร์ตมากเกินไป เพราะบุคคลิกของ All New Xpander นั้นมาแบบ “ผู้ใหญ่” ที่ไม่ใช่รถพิกัด 1.5 ลิตรแบบวัยรุ่นใจร้อน ฉะนั้นอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ หากต้องการอัตราเร่งแบบพรวดพราด
แต่ถ้าเอาวิธีการขับแบบรถเกียร์ CVT มาใช้ได้จะดีมาก เพราะสมรรถนะของ All New Xpander จะโดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามระดับความเหมาะสมของความเร็วที่ใช้ เช่น น้ำหนักของพวงมาลัยที่แปรผันไปตามความเร็วเดินทางได้อย่างดี ทั้งการสร้างความคล่องตัวในความเร็วต่ำ ตามไปถึงการสร้างความมั่นใจในความเร็วสูง ที่เรียกว่า “เอาอยู่” ในทุกสภาพเส้นทาง และสภาพพื้นถนน
ซึ่งมีตั้งแต่ฝ่าการจราจรในเขตอำเภอ ไปจนถึงนอกเมืองที่ใช้ความเร็วระดับ 100 – 120 กม./ชม. ซึ่งบางทีก็เผลอไหลไปถึง 140 กม./ชม. ตลอดจนการ “ลุย” บนเส้นทางแบบ Dirt Track หรือถนนผุๆ พังๆ ก็ตาม ซึ่ง All New Xpander ก็สามารถมอบความสบายในการควบคุมได้แบบเกินคาด
ในขณะเดียวกัน ระบบช่วงล่างก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ด้วยการผสมผสานที่ลงตัว ด้วยความนุ่มนวลในความเร็วต่ำ ทั้งยังสามารถรองรับย่านความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญในทริปนี้ยังมีความพิเศษแบบไม่ได้ตั้งใจ กับสภาพดินฟ้าอากาศที่ต้องเจอสายฝนบ่อยครั้ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งบททดสอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
และ New Xpander ก็“สอบผ่าน” ไปแบบสบายๆ แม้จะต้องเจอเส้นทางเปียกลื่น ชื้นแฉะ บนเส้นทางขึ้นเขา ลงเขา แต่เค้าก็ยัง “เอาอยู่” ในมาตรฐานการขับขี่แบบรถครอบครัวอเนกประสงค์ที่ไม่ได้เร่งรีบเกินไปนัก แต่ก็ขอฝากไว้นิดกับจังหวะการเร่งแซงที่อาจจะต้องคิด และคำนวณระยะกันให้ดีซักหน่อย ส่วนนอกเหนือจากนั้นบอกเลยว่า “ครบ” ซึ่งถ้าใครซักคนมองหารถที่สามารถ “จบ” ได้ในคันเดียวล่ะก็ New Xpander นี่แหละครับ “ชัวร์”
บทความที่เกี่ยวข้อง
- All New Xpander … The Last Chapter Over 3,000 Km. จาก “ระนอง ไป Finish สุราษฎร์ธานี”
- รีวิว : Mitsubishi All New Xpander ล่องลงใต้ จาก กรุงเทพฯ สู่ด้ามขวาน แดนใต้ กับเส้นทาง กรุงเทพฯ – สมุทรสาคร – สมุทรสงคราม – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ – ระนอง
- รีวิว : Mitsubishi all new XPANDER ขับรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ รวมใจไปช่วยน้องที่ขาดแคลน
- All New Xpander กว่า 400 กม. … ล่องอีสานใต้ สุดปลายทางที่ กทม.