TEST DRIVE : รีวิว NEW HONDA CIVIC Gen.11 รถดีขึ้นในราคาที่ถูกลง
หลังจากที่ NEW HONDA CIVIC เจนเนอเรชั่น 11 หรือที่หลายคนเรียกรหัสตัวถังของรุ่นนี้ว่า Civic FE ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้มาขับทดสอบกัน โดยถึงแม้จะเป็นการทดสอบแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ตามสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ก็ได้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้ไม่น้อย
Honda Civic FE ใหม่ มี 3 รุ่นย่อยให้เลือกได้แก่
รุ่น EL ราคา 964,900 บาท
รุ่น EL+ ราคา 1,009,900 บาท
รุ่น RS ราคา 1,199,900 บาท
โดยทุกรุ่นย่อยจะใช้เครื่องยนต์แบบ 1.5 TURBO รหัส L15BG แบบ DOHC 4 สูบ Direct Injection Dual VTC ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.3 : 1 ให้พละกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบ/นาทีและใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ในรุ่น RS จะมี Paddle Shift มาให้ด้วย
ดีไซน์ภายนอกของ Civic FE ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Exhilarating Exterior” โดดเด่นด้วยการออกแบบของเส้นสายยาวต่อเนื่องจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ไม่เบา มาพร้อมการจัดวางโครงสร้างสไตล์ Low & Wide ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ตัวถังกว้างและยาวขึ้นกว่าเดิม เน้นให้มีพื้นที่ภายในโปร่งโล่ง และทัศนวิสัยที่ดี อีกทั้ง มีการใช้เทคโนโลยี Roof Braze ในการประกอบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคา
ซึ่งคันนี้เป็นรุ่น RS ที่เด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว สีดำด้าน
ภายในห้องโดยสาร Civic FE ออกแบบภายใต้แนวคิด “Fine Morning” เน้นการสร้างความรู้สึกที่สดชื่น เน้นอรรถประโยชน์และเส้นสายที่สวยงาม ตกแต่งด้วยคุณภาพเยี่ยมในทุกผิวสัมผัส มาพร้อมคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มีการจัดวางเลย์เอาท์ และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ให้ตอบโจทย์และใช้งานได้อย่างคล่องตัว
การทดลองขับ
ตั้งแต่เข้าไปนั่งและลองขับ จับได้ถึงความรู้สึกที่ความโอ่งโถ่ง เรียบหรู ของความเป็นรถแบบซีดานขนานแท้ แถมด้วยอารมณ์สปอร์ตในแบบลึกๆ ของความเป็น Civic ในเรื่องของอัตราเร่ง จากที่ลองแบบคนทั่วๆไปขับใช้งานในเมืองหรือการเดินไกล คันเร่งเบาแม้จะมีการปรับจูนให้มีความไวขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่หากเราไม่จำเป็นกดลงไปแบบรุนแรง Civic FE ที่ทำได้อย่างนุ่มนวลดี
แต่หากใส่ความระห่ำเข้าไปที่เท้า Civic FE ก็สามารถเรียกความโหดของพละกำลังเครื่องยนต์มาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการชู๊ดเร่งแซงแบบสั้นๆ หรือ รูดกดจมแบบยาวที่แป๊บๆจะไปอยู่ที่ 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในไม่ช้า โหดมากบอกเลย โดยที่เดิมจากโรงงานสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะจ๊ะ
เรื่องช่วงล่าง มีการปรับเซ็ตมาใหม่ให้สามารถซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น สามารถขับรูดถนนในกรุงเทพได้สบายเลยเชียวแหละ
การบังคับควบคุมทำ จากที่ได้ลองทดสอบในแบบ Slalom และแบบ Lane Change ทำได้ดีเกินคาดคุมง่าย เฉียบคม แอบมีย้วยเล็กๆตามสไตล์ฮอนด้า ทั้งที่เรือนร่างใหญ่ขนาดนี้น่าจะเทอะทะ
การขับด้วยความเร็วสูงในแบบตรงๆนิ่งๆ มีการเปลี่ยนเลนเบาๆ ในระดับ 160-170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ทำได้แบบไม่มีเสียว ซึ่งความเร็วเท่านี้กับช่วงล่างเดิมๆมันกำลังขับสนุก สามารถขับได้บ่อยๆเพราะรถมันสามารถไปได้แบบไม่ต้องเค้น แต่หากสายแต่ง ถ้าได้ล้อ 18 นิ้ว คู่กับยางดีๆ และช่วงล่างแต่งแบบตรงรุ่น น่าเพอร์เฟค แบบสุดๆไปเลย
