รีวิว New MAZDA BT 50 PRO 2016 ทดลองขับ มาสด้า บีที 50 โปร ใหม่

โพสต์เมื่อ 6th กันยายน 2016 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

หลังจากที่ทางมาสด้า ประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้บริหารที่เป็นคนไทย พร้อมทั้งนำทีมงานคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยผลักดันให้ยอดขายดีวันดีคืน ในช่วงงานขายกลางปีที่ผ่านมา ทางมาสด้าตั้งยอดขายแบบไม่ขาดสาย ส่ง New MAZDA BT 50 PRO ( มาสด้า บีที 50 โปร ใหม่ )ซึ่งเติมออฟชั่นแบบเต็มเปี่ยมลงกวาดยอดขาย และเพื่อเป็นการปลุกกระแสรถรุ่นนี้อย่างต่อเนื่องขึ้นไปอีก ทางมาสด้าจึงจัดกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะกันในเส้นทาง กรุงเทพฯ – กาญจนบุรี

New MAZDA BT 50 PRO

New MAZDA BT 50 PRO ยังคงจุดเด่นความแข็งแกร่งของรถกระบะ มีบุคลิกภาพของรถยนต์นั่ง ที่นำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ รวมทั้งการออกแบบที่โดดเด่น และการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานของรถขึ้นไปจนเทียบเท่ากับรถยนต์นั่งระดับสูงอย่าง CD Car และยึดมั่นในแนวคิด ซูม-ซูม เนื่องจากกลุ่มเป้าของ New MAZDA BT 50 PRO จะมีความกระฉับกระเฉง เป็นรถผู้นำครอบครัว กล้าแสดงออก มีหลากหลายบทบาทในชีวิต กล้าลองอะไรใหม่ๆ คิดการณ์ไกล และไม่ชอบตามใคร ในการทดสอบครั้งนี้ทาง iAMCAR ได้ New MAZDA BT 50 PRO ในรุ่น DBL 2.2 Hi-racer หรือเป็นรุ่น 4 ประตู เกียร์ธรรมดา เราตามมาชมกันดีกว่าว่าความต่างในรุ่นใหม่นี้มีอะไรกันบ้าง

สะท้อนดีไซน์สุด..เร้าใจ

ก่อนจะออกเดินทางเรามาสำรวจรอบตัวรถกันก่อนว่ามีความต่างจากเดิมบ้างหรือไม่ มองจากด้านหน้ารถออกแบบเน้นดีไซน์ที่แข็งแกร่งเปี่ยมไปด้วยมัดกล้าม สร้างความโดดเด่นด้วยกระจังหน้า Signature Wing อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่าทางด้านหน้าต่ำกว่าด้านหลังเล็กน้อยเพื่อให้ได้ความรู้สึกว่าพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าแม้จอดนิ่ง เพิ่มความสปอร์ตผ่านทางล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่และสีใหม่เทาดำกันเมทัลทั้งในขนาด 17 นิ้ว ด้านหลังไฟท้ายเป็นตัวชูโรงดีไซน์ใหม่บ่งบอกความแข็งแกร่งบึกบึนในแบบรถปิกอัพมากยิ่งขึ้นด้วยการเปลี่ยนสีไฟท้ายเป็นสีแดงก่ำอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมาสด้า สีภายนอกมีให้เลือกถึง 7 สี โดยมีสีใหม่ให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash), สีขาวมุก สโนว์เฟลค (Snowflake White Pearl), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue), สีแดง ทรู เรด (True Red), สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิค (Aluminum Metallic) และ 2 สีเดิมจากรุ่นก่อน สีขาว คูลไวท์ (Cool White) และสีดำ แบล็ค ไมก้า (Black Mica) ที่ช่วยแสดงออกถึงความสปอร์ตและความพรีเมียมเหนือรถในระดับเดียวกัน

หน้าจอ Navi สุด..เร้าใจ

มาดูภายในกันบ้าง ส่วนตัวต้องบอกว่าเป็น “ไฮไลท์” เลยครับ เพราะทางมาสด้าจัดระบบเอนเตอร์เทนเม็นต์มาให้แบบจัดเต็ม
ระบบเครื่องเสียงเล่นแผ่นและรองรับไฟล์ DVD/VCD/CD/MP3/MPEG4/CD-R/WMA/JPEG พร้อมจอขนาด 7 นิ้วใหม่ ในแบบ Touch Screen (DVD Full Touch Operation) จอแบบ Anti-Glare Screen ลดแสงสะท้อนหน้าจอ ให้มุมมองคมชัด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Auto-Dimmer ปรับลดความสว่างอัตโนมัติ เมื่อเปิดไฟหน้า พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับเชื่อมต่อ iPod, iPhone ทั้งการเล่นเพลงได้จากเครื่อง และชาร์จแบตเตอรี่

นอกจากนี้ ยังมีซีดีจำลอง Virtual discs CDC (มี Memory บันทึก CD ได้ถึง 6 แผ่น ให้ผู้ขับได้เล่นเพลงและวิดีโอ ขณะใช้งานระบบนำทางไปด้วย โดยจะแยกเสียงนำทางดังที่ลำโพงหน้าขวาฝั่งคนขับ ระบบนำทางตั้งค่าเมนูได้ 3 ภาษา (ไทย, อังกฤษ และจีน) ให้คุณใช้งานได้สะดวกกว่าด้วยการตั้งค่าทางลัด สามารถเลือกไอคอนที่ใช้งานบ่อย ง่ายกับการเข้าและเรียกใช้แสดงกล้องจราจร สามารถแสดง/แจ้งเตือนเมื่อมีกล้องจราจร และเพิ่มตำแหน่งกล้องจราจรได้เอง หน้าจอระบบนำทางมาพร้อมมุมมอง Split และ Dual View ให้ขับขี่อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นกับมุมมองพิเศษที่แสดงระหว่างขับขี่

พื้นที่ช่องเก็บสัมภาระที่มีมากมายตลอดทั้งห้องโดยสาร ทำให้ผู้โดยสารทุกคนสามารถจัดเก็บของใช้ส่วนตัวได้มากมาย ช่องเก็บสัมภาระด้านผู้โดยสารด้านหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ช่องวางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งในคอนโซลกลาง และช่องเก็บสัมภาระแบบ 2 ชั้นที่คอนโซลกลาง ที่แผงประตูหน้าสามารถวางขวดน้ำขนาด 1 ลิตรได้ สำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็ป 4 ประตู

ทรงพลังสุด..เร้าใจ

เครื่องยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO 2.2 ลิตร คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน Variable-nozzle turbocharger ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า (110kw) ที่ 3,700 รอบ แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมสัญญาณเตือนให้เปลี่ยนเกียร์ Upshift Indicator แสดงที่มาตรวัดรอบความเร็วเครื่องยนต์ จากการสัมผัสถือว่ามีพละกำลังมากพอสมควร ในส่วนอัตราเร่งหายห่วง ใครที่ชอบการเซ็ตอัพแบบเร้าใจ กดคันเร่งแต่ละครั้งหลังติดเบาะจัดได้เลย นี่เลยทางของคุณ

การควบคุมสุด..เร้าใจ

New MAZDA BT 50 PRO มีระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบปีกนกคู่ (Double-wishbone) และคอยด์สปริง ด้านหลังแบบคานแข็งและชุดแหนบ (Leaf-Spring) ระบบบังคับเลี้ยวแรคแอนพีเนียน (Rack-and-pinion Steering) ในส่วนของช่วงล่างผมถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ของขาซิ่ง เพราะมาอย่างใจสั่งการเกาะถนนดี การควบคุม การเข้าโค้งออกมาในทิศทางดี แต่สำหรับผมยังไม่ค่อยชอบน้ำหนักพวงมาลัยที่หนักไปสักนิด แต่ข้อดีของพวงมาลัยแรคแอนพีเนียนคือการดูแลรักษาที่ง่ายทนทาน

ผมถือว่าเป็นกระบะอีกรุ่นที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความครบถ้วนในสายพันธุ์กระบะแล้ว ยังมีความสะดวกสบายแบบรถยนต์นั่งด้วย พร้อมทั้งยังเติมเต็มออฟชั่นที่น่าสนใจอีกมากมาย และหาก “คุณรักความแรงเป็นที่ตั้ง…คุณถึงจะควบคุม ZOOM ZOOM ได้อย่างเร้าใจ” และนี่คือ มนต์สเน่ห์ของ New MAZDA BT 50 PRO

New MAZDA BT 50 PRO DBL 2.2 Hi-racer ในราคา 773,000 บาท