รีวิว : ไทยรุ่ง TR TRANSFORMER PLUS4 ( ทีอาร์ ทรานฟอร์เมอร์ พลัส 4 ) บนเส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี
ตำนานรถดัดแปลงที่มีมาอย่างช้านานของบริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) สร้างชื่อเสียงให้คนไทยมาต่อเนื่องนานกว่า 45 ปี ในครั้งนี้จึงส่งนวัตกรรมใหม่ TR TRANSFORMER PLUS4 ( ทีอาร์ ทรานฟอร์เมอร์ พลัส 4 ) ที่มีการปรับเปลี่ยนพื้นฐาน รูปลักษณ์ภายนอก ภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคครบถ้วนมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการตอกย้ำความลงตัวของ TR TRANSFORMER PLUS4 จึงจัดกิจกรรมการทดสอบให้คณะสื่อมวลชนชั้นนำของเมืองไทย บนเส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี ร่วมพิสูจน์ความสำเร็จก้าวใหม่ของไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์
เริ่มการทดสอบ
กิจกรรมการทดสอบในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น ณ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) โดยมีรถทดสอบที่เป็นไฮไลท์ทั้งหมด 3 คัน โดย 2 คันแรกเป็น TR TRANSFORMER PLUS4 เกียร์อัตโนมัติ ใช้พื้นฐานจากรถกระบะ TOYOTA HILUX VIGO 4 ประตู 4×4 3.0 AT อีก 1 คันใช้พื้นฐานของ TOYOTA HILUX VIGO Smart Cab 4×4 3.0 MT ซึ่งทั้งหมดพัฒนาโครงสร้างตัวถังจาก TR TRANSFORMER รุ่นเดิม ที่มีความสง่าและลงตัวอยู่แล้ว มองจากรูปลักษณะภายนอกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น จากด้านหน้าจะสังเกตุได้ว่ามีการขยายความกว้างของตัวถังออกประมาณ 2 นิ้ว เพื่อให้แข็งแกร่งดุดันมากยิ่งขึ้น ด้านข้างในส่วนของบานพับประตูที่เคยอยู่ด้านนอก ในรุ่นใหม่มีการเก็บซ่อนไว้ด้านในอย่างเรียบร้อย บันไดขึ้น – ลงปรับให้สวยงามหรูหรา ด้านท้ายเพิ่มฟังก์ชั่นการบรรทุก ในรูปแบบของกระบะ ที่สามารถบรรทุกสัมภาระต่างๆ ได้ และ ยังมีการปรับพื้นกระบะให้เป็นที่นั่งทั้งสองด้าน ทำให้สามารถรับผู้โดยสาร เพื่อกิจกรรมการบุกป่า ลุยน้ำ หรือสร้างอรรถรสใหม่ๆ ในการเดินทาง ฝาท้ายเปิดใช้งานได้ง่ายดาย แบบจังหวะเดียว พร้อมทั้งกันชนท้ายที่ขึ้น-ลงได้ง่าย จึงเป็นการสร้างสไตล์การเดินทางในรูปแบบที่แตกต่างในไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเพิ่มออฟชั่นในรูปแบบหลังคาปิดได้อีกด้วย
ภายใน
ภายในมีการปรับคอนโซลหน้าให้เทลาดลงเล็กน้อยช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ และตำแหน่งของพวงมาลัยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากขึ้น พร้อมทั้งยังเพิ่มออฟชั่นต่างๆ เช่น เครื่องเสียง DVD 1 แผ่น พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้วพร้อมกล้องมองหลัง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า แถมที่พวงมาลัยนอกจากจะเป็นลายไม้เมทัลลิกสลับหนังแล้ว ยังมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและ MID พร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์อีกด้วย
เครื่องยนต์
รหัสเครื่องยนต์ 1KD-FTV(I/C) แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาลว์ VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,982 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 96.0 มม. X 103.0 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 17.9 : 1 สามารถสร้างแรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น แบบคอมมอลแรลมาตรฐานไอเสียยูโร 3 ระบบส่งกำลังเป็น อัตโนมัติ 4 สปีด
ระบบช่วงล่าง
ส่วนระบบช่วงล่างอันแน่นเหนียวด้วยระบบกันสะเทือนแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็ก แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และระบบตัดต่อกำลังอัตโนมัติ (A.D.D.) ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อนและช็อคอัพทรงกระบอกติดตั้งทแยงมุมกัน พร้อมลิมิเต็ดสลิป มาพร้อมยางขนาด 265/65R17 ล้ออัลลอย
การออกแบบ
คราวนี้คงรู้จัก THAIRUNG TR TRANSFORMER PLUS4 กันเป็นอย่างดีแล้ว ออกเดินทางสู่ จ. กาญจนบุรีดีกว่า ผมมีโอกาสได้สัมผัส TR TRANSFORMER PLUS4 คันสีส้ม ในรูปแบบของกระบะเปิดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นตัวทีเด็ดของทริปนี้เลยทีเดียว สัมผัสแรกที่เห็นต้องบอกว่ามีสไตล์ในการออกแบบมากขึ้นเยอะ การเก็บรายละเอียดต่างๆ ของตัวรถ ทำได้เรียบร้อยมากขึ้นใกล้เคียงกับรถ Mass Product เข้าไปทุกที ด้านหลังในพื้นที่เก็บสัมภาระกระบะท้าย ถือว่าออกแบบให้มีความเป็นอเนกประสงค์หลากหลายรูปแบบ ทำให้ตอบโจทย์ได้ครบทุกไลฟสไตล์
ก้าวเข้ามานั่งที่นั่งคนขับรู้สึกดี ตั้งแต่ปรับเบาะนั่งด้วยไฟฟ้าแล้ว คอนโซลหน้าก็มีการวางองศาลาดลงเล็กน้อยทำให้ทัศนวิลัยดีขึ้น ตำแหน่งพวงมาลัยสูงขึ้นมากว่ารุ่นเดิม ทำให้อยู่ในตำแหน่งจับถนัดมากขึ้น พอเริ่มออกเดินทางใส่เกียร์ R ภาพจากกล้องมองหลังก็ปรากฎที่หน้าจอ ช่วยแก้ปัญหาเวลาถอยหลังของ TR TRANSFORMER รุ่นเดิมไปได้มาก เนื่องจากตัวรถมีขนาดใหญ่ทำให้เวลาถอยลำบากสักหน่อย เมื่อออกเดินทางสู่ High Way ความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์การขับขี่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน จากอารมณ์ดิบๆ เน้นการบุกตะลุยเป็นที่ตั้ง ถูกปรับให้เป็นรถที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ เหมือนรถยนต์ทั่วไปที่เพียงคุณใส่เกียร์ D เหยียบคันเร่งกับเบรกก็สามารถไปไหนอย่างที่ใจคุณคิด อัตราเร่งไม่ได้แตกต่างจาก Vigo เดิมมากนัก เพราะน้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเพียงสองร้อยกว่ากิโลกรัมเท่านั้น ในเรื่องของการทรงตัวในทางตรงและโค้ง เรื่องนี้ถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจาก Vigo ใหม่มีการปรับช่วงล่างให้ดีขึ้นประกอบกับน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นสามารถสร้างแรงกดได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี
ผมว่า TR TRANSFORMER PLUS4 วันนี้พร้อมตะลุยทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะขับบนเส้นทางในเมือง หรือขับแบบหนักหน่วงกับเส้นทางทุรกันดาร แถมด้วยความสะดวกสบายทั้งในการขับและโดยสาร นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นที่เหนือใคร ผมเชื่อว่าคุณขับไปไหนมีคนสนใจมองกันแบบสุดสายตาเลยทีเดียว ในราคาจำหน่าย 1,590,000 บาท พร้อมด้วยการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งจะถึงก่อน) สำหรับด้านการบริการหลังการขาย ลูกค้าสามารถนำรถเข้ารับบริการหลังการขายได้ที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศในส่วนของเครื่องยนต์และช่วงล่างสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/thairungunioncar หรือ โทรสอบถามได้ที่ 02-812-2200
บทความแนะนำ
สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 7 สี มั่นใจเลือกใช้ TR TRANSFORMER