รีวิว THE All-NEW BMW 730Ld M Sport 2016 มานวัตกรรมที่เรียกว่า “BMW EfficientLightweight” ในราคารถยนต์ใหม่ 6,399,000 บาท
หลังจากที่ BMW Thailand ประกาศขยายสายผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นประกอบในประเทศจากโรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง เดินหน้าเปิดตัว BMW 730Ld M Sport เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลิตรถยนต์ระดับพรีเมียมให้กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ถึงคิวส่งมอบให้กับสื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะกันบ้างว่าคุณภาพ จากสายการผลิตในไทยเป็นอย่างไรกันบ้าง
Efficient Lightweight
THE All-NEW BMW 730Ld M Sport ใช้รหัสตัวถัง G 12 ซึ่งจะแตกต่างกันกับตัวที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้รหัสตัวถัง G 11 ในเรื่องของการดีไซน์ในส่วนของเส้นสายให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวมากขึ้นดูเป็นสปอร์ตเอามากๆ ถึงแม้ขนาดของตัวรถจะมีมิติที่เล็กลง ความพิเศษของคันนี้เริ่มต้นตั้งแต่นวัตกรรมที่เรียกว่า “BMW EfficientLightweight” ช่วยลดน้ำหนักรวมของตัวรถได้สูงสุดถึง 130 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ผลิตด้วย Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน BMW i8 ทำให้ THE All-NEW BMW 730Ld M Sport เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซ็กเมนต์นี้ที่ใช้โครงสร้างผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP) ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็กและอะลูมิเนียมช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้อย่างมาก นอกจากน้ำหนักตัวรถที่เบา BMW ยังคำนึงถึง Aerodynamic จึงเพิ่มระบบ Air Flap Control ในส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่ที่เพิ่มขึ้น สามารถเปิด – ปิด อัตโนมัติเมื่อตัวรถต้องการระบายความร้อน ส่วนไฟหน้ายังได้รับการออกแบบขยายไปจนถึงขอบไต ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ถูกจัดวางอย่างพอดี ด้านข้างหลังล้อหน้าจะเห็นช่องระบายอากาศ ซึ่งช่วยระบายอากาศจากกันชนหน้ารถ พร้อมทั้งลดความร้อนของเบรกให้ด้วย
BMW TwinPower Turbo
THE All-NEW BMW 730Ld M Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียงขนาด 3 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ทำงานเชื่อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.2 วินาที ประหยัดน้ำมันราวๆ 19 กม./ลิตร ในเรื่องอัตราเร่งคงไม่ต้องถามว่าแรงพอหรือไม่ 300 แรงม้า พร้อมแรงบิด 2 เท่าของรถกระบะ แต่เรื่องอารมณ์การขับขี่ที่ให้มาต่างหาก ที่มีความนิ่มนวล ไม่กระแทก ไม่ดึงแบบหลังติดเบาะ แต่ความเร็วไหลขึ้นไปเรื่อยๆ แบบรวดเร็ว ในส่วนเรื่องเสียงของเครื่องยนต์เงียบขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ
Sky Lounge Panorama
ส่วนของภายในบอกได้เลยว่าเป็นรุ่นที่อลังวังเว่อร์มาก…สิ่งแรกที่รู้สึกว่าโดนใจคือ หลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ที่ใช้ไฟแอลอีดีประมาณ 15,000 ดวง บริเวณด้านข้างส่องให้แผ่นกระจกเปล่งประกายระยิบระยับทั่วแผ่น ราวกับเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผืน ดาว แถมยังสามารถสลับสีได้มากถึง 6 สี พร้อมใช้หน้าจอควบคุม iDrive แบบระบบสัมผัส ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสนี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการสัมผัส หน้าจอได้เช่นกัน อีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมของระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่น บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) หรือควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งานได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอ รวมถึงใช้เป็นเกมส์คอนโซลได้อีกด้วย
High-Gloss Shadow Line
ระบบช่วงล่างของ THE All-NEW BMW 730Ld M Sport แน่นอนครับ จะต้องเป็นระบบเป็น Air Suspension หรือ ถุงลม ซึ่งสามารถปรับความแข็ง อ่อน นุ่มนวล ตามโหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใน Sport Mode หรือ Eco Pro Mode เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ หรือเลือกใช้ ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิทซ์ควบคุมแบบใหม่ การตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการขับขี่และประเภทของเส้นทาง ในรุ่นนี้จะพิเศษขึ้นไปอีก ตรงที่สามารถปรับความสูงต่ำของตัวรถได้ด้วย คือ ถ้ากดปุ่มรูปรถที่คอนโซลเกียร์ในความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ตัวรถถูกยกขึ้น 2 ซม. เพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ หากความเร็วเกิน 40 กม./ชม. หรือกดปุ่มเดิม ตัวรถจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม หากอยากให้ตัวรถเตี้ยลงทำได้เช่นกัน โดยกด Sport Mode ตัวรถจะเตี้ยลง 1 ซม. หรือหากใช้ความเร็วเกิน 120 กม.ชม. ตัวรถก็จะเตี้ยลง 1 ซม.เช่นกัน ในเรื่องของสมรรถนะช่วงล่างการควบคุมต่างๆ เยี่ยมมากๆ การซื้อรถหรูระดับนี้ ความนุ่มนวลของที่นั่งด้านหลังสำคัญมากๆ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้บริหารได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ในส่วนของล้ออัลลอยทาง BMW จัดให้แบบน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว เส้นสาย High-Gloss Shadow Line ในแบบของบีเอ็มดับเบิลยู และชุดแต่ง M Aerodynamics
ราคารถยนต์ใหม่
ราคารถยนต์ THE All-NEW BMW 730Ld M Sport ราคาจำหน่าย 6,399,000 บาท
*เป็นราคาที่ถูกลงตามภาษีใหม่ที่คิดตามค่ามลพิษที่ปล่อยออกมา ในเรื่องของงานการประกอบไม่ได้ต่างอะไรจากตัวนำเข้า เพราะทาง BMW ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และในราคานี้ยังมีฟังก์ชั่นมาให้อย่างครบครัน ที่สำคัญยังรู้สึกได้ถึงความประหยัดในการใช้พลังงานแบบเต็มเปี่ยม
บทความที่เกี่ยวข้อง
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ด้วย BMW Series 7