รีวิว : Toyota Camry 2.5 G Minor Change ปี 2016 ยกความโดดเด่น 4 ด้าน ทั้งดีไซน์ เครื่องยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย ราคารถยนต์ใหม่ 1,599,000 บาท

โพสต์เมื่อ 26th กันยายน 2016 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

ช่วงนี้กระแสรถซีดานไซด์กลางๆ ของค่ายรถประเทศญี่ปุ่นดูเหมือนยอดขายจะตกลงไปสักนิด ตั้งแต่รถหรูจากค่ายยุโรปดั้มราคาเริ่มต้นลงมาใกล้กันเต็มที ทำให้เจ้าตลาดอย่าง Toyota Camry ซึ่งมียอดสะสมมากกว่า 16 คันทั่วโลก ต้องขยับตัวออกแรงกันสักหน่อย ด้วยการส่ง Toyota Camry 2.5 G Minor Change ปี 2016 ลงสู่ตลาด ยกความโดดเด่น 4 ด้าน ทั้งดีไซน์ เครื่องยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย พร้อมท้าเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบในแทร็คและเส้นทาง กรุงเทพฯ – หัวหิน อีกด้วย

Toyota Camry 2.5 G Minor Change

ก่อนจะเริ่มการทดสอบเรามาฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับตัวรถ TOYOTA Camry 2.5 G Minor Change 2016 ก่อน ซึ่งทางโตโยต้ายกจุดเด่นๆ ออกมาด้วยกัน 4 ข้อ ซึ่งผมจะค่อยๆ กล่าวให้ทราบ เริ่มจากการดีไซน์ก่อน ในเรื่องการดีไซน์ของ Camry Generation ที่ 5 ทางโตโยต้ามั่นใจในเรื่องความหรูหราสมฐานะอยู่แล้ว จึงไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรให้เสียลุคส์ เพียงแต่ปรับกระจังหน้าให้เป็นสีดำ เพื่อความสปอร์ตดุดันมากขึ้น สะท้อนความโฉบเฉี่ยวให้มากกว่าเดิม พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกสีใหม่เป็นสีขาวมุก (White Pearl) ให้อีกด้วย ในส่วนของภายในเน้นความหรูหรา กว้างขวางเป็นจุดเด่น แต่มีการเพิ่ม หนังหุ้มเกียร์ที่ทำออกมาอย่างปราณีต ลายไม้แบบพิเศษ เบาะแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าฝั่งคนขับ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้ง พวงมาลัยที่มากับปุ่มมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผล, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruies Control, ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับอัตโนมัติขณะถอยหลัง, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ รวมถึง เครื่องเสียงที่มาพร้อมเครื่องเล่น DVD NAVI ลำโพง JBL Green Edge Tech 12 ตัว 8 ตำแหน่ง อันนี้โดนใจผมอย่างมาก!!! ทำให้เพิ่มสุนทรีในการขับขี่มากขึ้น และเกือบจะลืมไปเลยกับไฮไลท์สำคัญเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wiresle Chatger บริเวณกล่องคอนโซลกลางรองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟได้ง่ายเพียงวางสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนถาดชาร์ทเท่านั้นก็ชาร์จแบบไร้สายชิวๆ แต่ iPhone ต้องลำบากซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเติมอีกสักหน่อย แต่ใครที่ใช้ Android รุ่นใหม่ส่วนมากจะมีระบบรองรับไว้แล้ว แค่วางลงไปก็ชาร์จเลยครับ

2AR-FE Dual VVT-i 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ตอบโจทย์ความแรง

ว่ากันไป 2 ส่วนความโดดเด่น ส่วนต่อมาต้องยกให้เรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์รหัส 2AR-FE Dual VVT-i 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequentiel Shift ผมมีโอกาสได้คุยกับคนทำผลิตภัณฑ์ เค้าบอกว่าเสน่ห์ของเครื่องยนต์กับเกียร์ชุดนี้จะตอบสนองในเรื่อง ของความนุ่มนวลในการขับขี่ การปรับเปลี่ยนเกียร์สมูทมากๆ อัตราเร่งจะไม่กระชากแบบหลังติดเบาะ เพราะต้องเพื่อความสบายในการนั่งของผู้บริหารด้านหลังด้วย แต่ในเรื่องของการเร่งแซงในสถานการณ์ต่างๆ เพียงพอแน่นอน ที่สำคัญ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 12.5 กม./ลิตร แต่ถ้าคุณอยากจะสนุกกับการขับขี่แบบสปอร์ตเพียงโยกคันเกียร์ไปที่ + หรือ – แค่นี้จะเข้าโหมด Sport อัตโนมัติ สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามอำเภอใจ จะให้เร้าใจขนาดไหนจัดไปเต็มข้อ

ส่วนสุดท้ายต้องยกให้ในเรื่องความปลอดภัย โดยจัดถุงลมนิรภัยมากถึง 7 ตำแหน่ง จากของเดิมมีเพียงแค่ 4 ตำแหน่ง ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกทั้ง 2 ข้าง 2-side blind sot monitor สามารถช่วยเพิ่มความระมัดระวังให้กับผู้ขับขี่ในการเปลี่ยนเลนหมดปัญหาเรื่องจุดอับสายตาของกระจกมองข้าง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์รอบคันถึง 6 จุด ทำงานพร้อมกับสัญญาณเตือนกะระยะที่มุมกันชนด้านหน้า 4 มุม และด้านหลัง 2 มุม เพิ่มความปลอดภัยเข้าไปอีกกับสัญญาณเตือนขณะถอย เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังหากมีรถคันอื่นวิ่งผ่าน ก็จะมีเสียงสัญญาณเตือนทันที ซึ่งจะคอยตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ด้านหลังขณะถอยรถออกจากที่จอดรถ โดยจะแสดงเตือนผ่านไฟกระพริบที่กระจกข้างพร้อมเสียงสัญญาณ ระบบนี้จะทำงาน ควบคู่ไปกับจอมอนิเตอร์บริเวณหน้ารถทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเวลาถอยรถ ในส่วนอุปกรณ์พื้นฐานที่มีมาให้อย่างระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System), ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)

ในส่วนของช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง และด้านหลังหลังแบบอิสระ ดูอัลลิ้งค์ สตรัท พร้อมอัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 215/55 R17 มีปรับเซ็ทช่วงล่างให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม เรื่องการขับขี่ที่นิ่มนวลหายห่วงไว้ใจได้ แต่จะให้ขับซิ่งๆ เข้าโค้งแรงๆ คงไม่ตอบโจทย์ได้มากขนาดนั้น แต่ความปลอดภัยในความเร็วที่กฎหมายกำหนดไว้ใจได้เต็มร้อยครับ

สำหรับผมจากการสัมผัสรถคันนี้มีความโดดเด่นเรื่องการขับขี่ที่นิ่มนวลทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง ด้านความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกมีให้มากมายจนรู้สึกว่าคุ้มในราคา เหมาะสมที่จะใช้งานเองหรือจะเป็นรถสำหรับผู้บริหารก็ได้ทั้งสองแบบ แต่ถ้าคุณชอบอรรถรสของความเป็นสปอร์ตคันนี้ก็คงยังไม่ใช่ครับ