รีวิว : Toyota Hilux Revo Double Cab 2.8G Diesel A/T ทุกอณูเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด พร้อมกับเทคโนโลยีที่มีมากมายเหนือกว่าคำว่า “รถกระบะ” ราคารถใหม่เริ่มต้น 1,069,000 บาท

หนึ่งในไฮไลท์ของการเปิดตัวรถในไทยปีนี้ คงต้องมุ่งเป้าไปที่ TOYOTA Hilux Revo ” โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว ” เนื่องจากเป็นการรอคอยที่แสนยาวนาน เพื่อจะได้พบกับเจนเนอรเรชั่นที่ 8 ของตระกูล Hilux ซึ่งบอกก่อนเลยว่าทุกอณูเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด พร้อมกับเทคโนโลยีที่มีมากมายเหนือกว่าคำว่า “กระบะ” แต่จะเหนือชั้นขนาดไหนนั้นมาชมกันครับ

 

การทดสอบ TOYOTA Hilux Revo

หลังจากที่ TOYOTA Hilux Revo “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกันทั้งประเทศ ทาง โตโยต้า ประเทศไทย ไม่รอช้าจัดกิจกรรมการทดสอบให้กับสื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะในเส้นทางจังหวัดพิษณุโลก – อุดรธานี ระยะทาง 390 กม. โดยในการทดสอบครั้งนี้ iAMCAR ได้สัมผัสกับ TOYOTA Hilux Revo Prerunner 2X4 2.8G AT ในรุ่นของ 4 ประตู ที่มุ่งเน้นความสะดวกสบายมากกว่าที่จะเป็นรถขนของแต่เพียงอย่างเดียว หากมองจากรูปลักษณ์ต้องบอกว่าดูมีมิติที่ใหญ่ขึ้นมากเลยทีเดียว การตกแต่งเน้นที่ความหรูหราที่ใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียมขนาบไว้ด้วยโคมไฟหน้าที่มีทั้ง Daytime running light แบบ LED และไฟหน้าแบบ Projector สามารถเปิด-ปิด ปรับสูง- ต่ำ ได้โดยอัตโนมัติ ขยับมามองที่ด้านข้างจะเห็นถึงความอวบอ้วนของโป่งล้อหน้า และโป่งข้างของกระบะที่สร้างมิติให้ตัวรถดูใหญ่ขึ้นมาก กระจกมองข้างเป็นแบบโครเมียมตามสไตล์รถหรูที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยวเพื่อความปลอดภัย ด้านท้ายดูคล้ายๆ รุ่นเดิมแต่จริงๆ แล้วต่างกันทุกจุดทั้งไฟท้าย ฝาปิดกระบะที่มีไฟเบรกดวงที่ 3 และที่เปิดฝาท้ายโครเมียมขนาดใหญ่เพิ่มมาด้วย โดยรวมความสวยงามในการออกแบบถือว่าดีนะครับ มีความหรูหรา และมีมิติที่ใหญ่มากขึ้น แต่สำหรับผมว่า Revo มีความต่างจาก Vigo น้อยไปหน่อยจึงมีคำถามมากมายจากกลุ่มผู้บริโภคหรือนักวิจารณ์ที่สงสัยว่าใช้แชสซีเดิมหรือเปล่า ผมตอบแทนก่อนเลยว่าไม่ใช่แน่ๆ ครับ เพราะในการทดสอบครั้งนี้มีการนำรถ Revo และ Vigo มายกแม่แรง ถอดส่วนประกอบ ทำการวัดระยะต่างๆ เพื่อให้สื่อมวลชนมั่นใจมากขึ้น เท่าพี่ผมเห็น เรื่องความใหม่ ใหม่กันตั้งแต่ “หูลากรถ” เลยนะครับ ช็อคอัพก็ไม่สามรถนำมาใส่กันได้ด้วยครับ

 

กว้างกว่า รถกระบะ

ระหว่างทางมาดูในส่วนของภายใน Toyota Hilux Revo Double Cab 2.8G Diesel A/T กันครับ ความกว้างขวางมีมากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ “นี่เหรอรถกระบะ” เนื่องจากฟังก์ชั่นที่มีมาให้มากมายเหลือล้น ผมจะค่อยๆ ไล่ให้ฟังนะครับว่ามีอะไรบ้าง เริ่มต้นที่คอนโซลหน้าจากฝั่งคนนั่งจะเห็นช่องเก็บสัมภาระ 2 ช่อง ช่องด้านล่างเป็นช่องเก็บของปกติ แต่ด้านบนสามารถเป็น Cool Box เก็บความเย็นได้ด้วย เราสามารถเอาน้ำกระป๋องมาแช่เย็นได้ด้วย โดยในช่องนี้จะมีช่องทางออกของระบบปรับอากาศในรถเสริมขึ้นมาด้วย สามารถเปิด-ปิดได้ ตรงกลางคอนโซลจะเห็นความโดดเด่นของจอระบบสัมผัสที่มีไว้แสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ เป็นกล้องมองหลัง และยังเป็นระบบนำทาง ขยับลงมาจะเห็นระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และคอนโซลเกียร์แบบอัตโนมัติพร้อมระบบ Manual ที่ใช้งานง่ายๆ มาดูต่อที่พวงมาลัยสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ต้องบอกว่านี่คือ พวงมาลัยกระบะยุคใหม่ เพราะมีปุ่มปรับฟังก์ชั่นต่างๆ มากมาย ทั้งให้ส่วนควบคุมการทำงานต่างๆ โทรศัพท์ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่สำคัญยังมีระบบ Push Start และ Mode การใช้งานแบบ Eco ที่ใช้งานแบบประหยัด หรือ Power Mode ที่สามารถเรียกกำลังเครื่องยนต์มาอย่างเต็มที่ ในส่วนของเบาะนั่งขนาดใหญ่แบบปรับไฟฟ้าด้านคนขับ ส่วนด้านหลังมีพนักผิงทุกจุด พร้อมมีระบบปรับอากาศด้านหลังด้วย ความรู้สึกผมถือว่าครบถ้วนมากครับสำหรับฟังก์ชั่นต่างๆ ส่วนที่ผมรู้สึกชอบมากๆ คงจะเป็นระบบ Eco และ Power Mode ซึ่งส่วนตัวผมไม่เคยคาดคิดว่าจะมีให้ในกระบะจริงๆ

 

รหัส 1 GD-FTV คิอพิกัดความแรง

คงได้เวลาที่จะมาชื่นชมกับสมรรถนะใหม่ที่ทางโตโยต้าการันตีไว้ว่าประหยัดกว่าเก่า แรงกว่าเก่า เครื่องยนต์บล็อคที่ผมทดสอบเป็นรหัส 1 GD-FTV แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo ระบายความร้อนด้วย Intercooler ความจุกระบอกสูบ 2,755 ซีซี. ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล หัวฉีดไดเร็คอินแจคชั่น มีแรงม้าสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ซึ่งจะเห็นได้ว่าขนาดความจุกระบอกสูบน้อยลงไป 200 ซีซี. แต่มีแรงม้ามากขึ้น 6 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่มากขึ้น 90 นิวตัน-เมตร จากที่ได้สัมผัสนิสัยของเครื่องยนต์ปรับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงจากที่เคยเป็นม้าพยศดุดันกลับกลายเป็น Smoot Driving มีอัตราเร่งที่ราบเรียบ ไหลลื่นเมื่อคุณกระแทกคันเร่งลงไปอาจจะไม่พุงทะยานอย่างที่คิด ซึ่งเราจะต้องเปลี่ยนการขับในรูปแบบที่จะต้องไล่คันเร่งขึ้นไปเรื่อยๆ รับรองว่าพลังของแรงม้าจะแสดงพิษสงออกมาทันที ระหว่างทางมีการขึ้นภูเขาชัน แถมยังต้องเร่งแซงรถช้าด้วย ทำให้แรงบิดส่งผลออกมาในทางที่ดีอย่างชัดเจน ส่วนต่อมาคงต้องพูดถึงระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมด Manual ซึ่งนอกจากจะมีความเรียบในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละช่วงแล้ว ยังมีความพิเศษที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงที่เราขับลงเขาอีก เนื่องจากความฉลาดของเกียร์จะมีการปรับตำแหน่งลงมาให้เกิด Engine Brake อัตโนมัติ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้นในขณะที่คุณลงจากทางลาดชัน ส่วนตัวผมคิดว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้มีความ Smoot ในการขับขี่มากขึ้น เหมาะที่จะเป็นรถใช้ในการเดินทางครอบครัวสูง แต่ คุณอาจจะต้องเรียนรู้นิสัยของรถสักนิดหน่อย จึงจะได้สมรรถนะที่สูงสุดของรถ ส่วนในเรื่องความประหยัดทางโตโยต้าการันตีเอาไว้ว่าประหยัดกว่าเดิม 10 % ซึ่งสามารถทำได้แน่ๆ หากดูจากเทคโนโลยีต่างๆ ของเครื่องยนต์ทั้งในเรื่องของการลดน้ำหนักเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังที่ดีมากขึ้น

 

มาถึงระบบช่วงล่างกันบ้างครับ เรื่องความโดดเด่นผมคิดว่าคงเป็นเรื่องของระบบ Body Control with Torque Demand ซึ่งในระบบนี้จะส่งผลเป็นอย่างมากในทางขุรขระ เนื่องจากระบบจะควบคุมแรงบิดให้สัมพันธ์กับความถี่ของแรงที่กระทำกับตัวถังรถ จึงทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น แต่ทีเด็ดอยู่ตรงที่คุณสามารถนำ TOYOTA Hilux Revo “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว” เข้าศูนย์ไปทำการเซ็ตอัพช่วงล่างตามที่คุณต้องการได้ คือใน Feeling เดิมๆ จากโรงงานมาในรุ่น 4 ประตู จะออกมาทางนิ่มนวลขับสบายๆ เป็นรถครอบครัว แต่หากคุณชอบอารมณ์ดิบๆ แข็งๆ ลุยๆ สามารถเข้าศูนย์ให้ทางช่างปรับจูนได้เลยครับ มาดูในเรื่องการทรงตัวบ้าง ทางตรงความเร็วสูงการยึดเกาะเยี่ยม ในทางโค้งต่างๆ ทำได้ดี องค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ Revo เป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายขึ้นมาจากพวงมาลัยที่มีช่วงฟรีของพวงมาลัยเล็กน้อยทำให้ไม่รู้สึกไวเกินไป แต่ยังคงความคมในการควบคุมบังคับอยู่เช่นเดิม

 

สุดท้ายขอบคุณ โตโยต้า ประเทศไทย จำกัด ที่ให้ iAMCAR ได้สัมผัสนวัตกรรมดีๆ แบบนี้เสมอมา สำหรับ TOYOTA Hilux Revo Double Cab 2.8G Diesel A/T “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว”ในความรู้สึกของผมมองว่า…แม้ราคาจะสูง แต่หากคุณศึกษาเทคโนโลยี ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ทางโตโยต้าให้มาโดยละเอียด จะทราบว่าความคุ้มค่าอยู่ในจุดที่น่าพอใจ เพราะคุณจะได้เทคโนโลยีในส่วนของเครื่องยนต์ โครงสร้าง ช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพมาก แถมยังได้ออฟชั่นระดับเดียวกันกับรถหรูครับ

 

ราคารถยนต์ใหม่

ราคารถยนต์ TOYOTA Hilux Revo รุ่น 4X4 2.8G ราคา 1,069,000 บาท

ราคารถยนต์ TOYOTA Hilux Revo รุ่น 4X4 2.8G AT ราคา 1,139,000 บาท


บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิว : Toyota Hilux Revo Smart Cab ปี 2015 มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ ทดสอบทุกรูปแบบทั้ง On road และ Off road ตอบโจทย์ทุกสภาพถนน ในราคารถยนต์ใหม่ 599,000 บาท เริ่มต้น

Toyota ร่วมฉลองชัย มอบ “Hilux Revo” “6 ฮีโร่ไทยในโอลิมปิก 2016”

รถใหม่ : Toyota Hilux Revo รุ่น มาตรฐาน 2.4J แค็บ และแชสซีส์ ปี 2017 เครื่องยนต์ GD Efficient Boost 2.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคารถยนต์ใหม่ 516,000 บาท