The All-New Lexus NX … สู่ยุคใหม่แห่งประสบการณ์การขับขี่
ย้อนกลับไปในปี 2014 เราได้พบกับ Lexus NX ที่ถูกเปิดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้แนวคิด “Premium Urban Sports Gear” ซึ่งนำเสนอสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว และการออกแบบอันโฉบเฉี่ยว จนได้มาซึ่งกระแสตอบรับ ที่ต่อยอดการพัฒนามาจนถึงเจนเนอเรชั่นล่าสุด The All-New Lexus NX
The All-New NX ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Vital x Tech Gear” ที่ผสมผสานความปราดเปรียว (Vital) เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง (Tech) ในสัดส่วนของตัวรถที่ดูแข็งแกร่งสะดุดตา ภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ และการลดน้ำหนัก เพื่อสร้างคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยม และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ (Lexus Driving Signature) อันเป็นจุดเด่นของยนตรกรรมจากแบรนด์ Lexus ในอนาคตทั้งหมด
ด้วยฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” ทำให้ The All-New NX จะถูกวางจำหน่ายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ Lexus ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น โดยมีไฮไลต์ก็คือ ความหลากหลายของขุมพลัง
ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ ประเภทไฟฟ้าไฮบริด (HEV e-FOUR) ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ตามด้วยประเภทไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV e-FOUR) ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งมีจุดเด่น คือ การกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า และล้อหลัง แบบแปรผันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 100:0 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึง 20:80 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึง ประเภทไฟฟ้าไฮบริด (HEV FF)
เวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ในแบบที่คุ้นเคย กับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร้าใจ The All-New NX ก็มีตัวเลือกมาให้อย่างครอบคลุมเช่นกัน โดยเริ่มจากเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยปรับการกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า และล้อหลังอย่างต่อเนื่องจาก 75:25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50:50 เปอร์เซ็นต์ (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์) ทั้งยังมากับการติดตั้งระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงใหม่แบบ Center-Injection Direct-Injection มาให้เป็นรุ่นแรกของ Lexus
ตามด้วยเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศในพิกัด 2.5 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่เช่นกัน ก่อนจะปิดท้ายกันที่ขุมพลังพิกัด 2.5 ลิตรอีกครั้งเป็นเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ซึ่งทุกรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะมาพร้อมกับระบบส่งกำลังเป็นชุดเกียร์อัตมัติ 8 สปีด Direct Shift
โดยในทุกรุ่นของ The All-New NX ยังมาพร้อมกับโครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ GA-K เพื่อให้ได้ตัวถังน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงสูง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อให้สมกับที่สืบทอดเอกลักษณ์การขับขี่ตามปรัชญาการพัฒนาในแบบเฉพาะของ Lexus ซึ่งมาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นใหม่ บนพื้นฐานด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบปีกนกคู่ ขณะที่เวอร์ชั่น F Sport จะมีการอัพเกรดไปใช้ช่วงล่างแบบ Adaptive Variable Suspension (AVS) รุ่นล่าสุดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากนี้ในส่วนของระบบพวงมาลัย ก็ยังได้ทำการอัพเกรดใหม่ ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่สามารถเลือกปรับแต่ง เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ตลอดจนตอบสนองต่อการเลี้ยวได้อย่างเฉียบคม ตามมาด้วยการพัฒนาแป้นเบรกรูปทรงใหม่ ภายใต้การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้การสลับเท้าระหว่างแป้นเบรก และแป้นคนเร่งนั้นง่ายขึ้น ซึ่งในรุ่น PHEV และ HEV ได้รับเกียรติให้เป็น Lexus รุ่นแรก ที่ติดตั้งกลไกลดแรงสั่นสะเทือนของแป้นเหยียบ มาให้อีกด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งไฮไลต์ของ The All-New NX ต้องยกให้กับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงเจนเนอเรชั่นล่าสุด Lexus Safety System+ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ด้วยการขยายช่วงการตรวจจับของคลื่นเรดาร์ และกล้อง รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของแต่ละฟังค์ชั่น ที่ประกอบด้วย ระบบ Pre-Crash Safety, ระบบ Radar Cruise Control (With All-Speed Follow Function), ระบบ Lane Departure Alert, ระบบ Lane Tracing Assist, ระบบ Road Sign Assist
ระบบ Proactive Driving Assist ซึ่งมาพร้อมกับฟังค์ชั่นใหม่ คือ ระบบ E-Latch System ที่เปลี่ยนกลไกการล็อก/ปลดล็อกประตู จากการควบคุมด้วยสวิตช์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้การทำงานของประตูเป็นไปอย่างราบรื่น และนิ่มนวล, ระบบ Panoramic View Monitor ที่รวมเอาภาพจากกล้องด้านหน้า, ด้านหลัง, ด้านซ้าย และด้านขวาของรถ มาแสดงบนจอกลาง พร้อมด้วยฟังค์ชั่นใหม่ที่สามารถแสดงภาพพื้นผิวถนนก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ผ่าน เพื่อช่วยให้คนขับเข้าใจพื้นผิวถนน และตำแหน่งยางได้อีกด้วย