The New BMW 5 Series … พลิกโฉมยนตรกรรมหรูด้วย “ดีไซน์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยีล้ำ”
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จสู่ศักราชใหม่ ด้วย The New BMW 5 Series เจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Change the way you lead. Lead the way you change” นำเสนอการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่า ผ่านรูปลักษณ์อันทรงพลัง และความล้ำสมัยจากนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ตอกย้ำความโดดเด่นในฐานะผู้นำแห่งยนตรกรรมพรีเมี่ยมซีดาน ด้วยตัวเลือก 3 รุ่นย่อย คือ BMW 520d M Sport, BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport
The New BMW 5 Series … ก้าวสู่ขีดสุดแห่งพรีเมี่ยมซีดาน
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ เผยโฉมพร้อมไฮไลต์ที่สะดุดตานับตั้งแต่การออกแบบมิติตัวถัง ซึ่งยาวขึ้นจากเดิม 27 มม. เป็น 4,963 มม. พร้อมด้วยการคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจากตัวเลข 0.23 Cd จากงานดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอก ประกอบด้วยเส้นสายทรงพลังบริเวณด้านหน้า และด้านหลัง ลงตัวกับชุดแต่ง M Aerodynamics ที่มาพร้อมล้ออัลลอยด์ M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น 520d M Sport และล้ออัลลอยด์ M น้ำหนักเบาลาย Y-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 530e M Sport ขณะที่รุ่น 530e Elite มาพร้อมล้ออัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้วลาย Double-spoke
ด้านรายละเอียดความโดดเด่นประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในรูปทรง 8 เหลี่ยมแบบใหม่ ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว และออกแบบให้ยาวต่อเนื่องลงมาบรรจบชุดกันชนหน้า ขณะที่ซี่กระจังถูกออกแบบให้ยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อสร้างมิติสอดรับกับชุดไฟหน้า Adaptive LED รูปทรง L Shape ดีไซน์เรียวยาว ประกบด้วยความโดดเด่นของชุดช่องดักอากาศแนวตั้ง ซึ่งช่วยเน้นความสง่างาม และทรงพลัง
พร้อมดีไซน์ด้านหลังจากเส้นสายคมชัด เสริมด้วยชุดไฟท้าย LED ในรูปแบบ 3 มิติ อันโฉบเฉี่ยวด้วยกรอบสีดำ และรูปทรง L Shape สไตล์เดียวกับชุดไฟหน้า ทั้งยังมีการออกแบบชุดไฟเบรกให้มีความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนปิดท้ายด้วยภาพลักษณ์ความสปอร์ตจากชุดท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมูทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งออกแบบให้รวมเป็นส่วนหนึ่งของชุดกันชนท้ายอย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสารเน้นความสง่างาม และความล้ำสมัย พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมี่ยม และงานฝีมือสุดประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างบรรยากาศการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ พร้อมด้วยการคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นสำคัญ เช่น ปุ่มบริเวณคอนโซลกลางที่มากับโทนสีดำเงาที่หรูหรา ตัดกับพวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังค์ชั่น M Sport ลงตัวกับชุดคอนโซลหุ้มด้วยหนัง Sensatecในรุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e M Sport
ขณะเดียวกันทั้ง 3 รุ่นก็มาพร้อมกับเบาะหนังแท้ Dakota เพิ่มเติมด้วยการตกแต่งจากวัสดุอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม สำหรับรุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e M Sport ขณะที่รุ่นย่อย 530e Elite จะมากับการตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา พร้อมแถบโครเมียม
ในส่วนของความสะดวกสบายมากับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิง และการสื่อสารมากับความทันสมัย โดยในรุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมการติดตั้งหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด BMW Operating System 7 ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่รองรับระบบกุญแจ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจ สำหรับทำหน้าที่ล็อก และปลดล็อกรถได้ โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) ที่รองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์, ระบบความบันเทิง, ระบบการเชื่อมต่อสื่อสาร และระบบนำทางได้อย่างง่ายดาย ผ่านทางหน้าจอ Control Display ระบบสัมผัส ตลอดจนระบบ iDrive และปุ่มควบคุมมัลติฟังค์ชั่นบนพวงมาลัย จนถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW Gesture Control การสั่งงานด้วยท่าทางของมือ
ประสิทธิภาพเต็มพิกัด ด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
The New BMW 5 Series เสิร์ฟสมรรถนะเร้าใจด้วย 3 รุ่นย่อยมาตรฐาน พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด เริ่มต้นกับรุ่นย่อย 520d M Sport ขุมพลังดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่1,750 – 2,500 รอบต่อนาที และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.5 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม.
ต่อมาคือรุ่นย่อย 530e Elite และ 530e M Sport แบบ Plug-in Hybrid ที่มากับแรงขับเคลื่อนผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างกำลังรวมสูงสุดถึง 292 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร เสริมแรงด้วยระบบ XtraBoost สร้างกำลังเพิ่มเติมอีก 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที
ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 5.9 วินาที เมื่อขับขี่ในโหมด Sport ขณะที่ความเร็วสูงสุดนั้นจำกัดเอาไว้ที่ 235 กม./ชม. และสามารถขับขี่แบบไร้มลพิษได้เป็นระยะทาง 52 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง นอกจากนี้ระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ทั้ง 2 รุ่น ยังมากับระดับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยที่ต่ำเพียง 41 กรัม/กม. ตามการอ้างอิงผล ECO Sticker ซึ่งนับว่าเป็นผลที่ต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์ Plug-in Hybrid ขนาดใหญ่ในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมการควบคุมที่เฉียบคม และโฉบเฉี่ยวจากฐานล้อที่ยาว และกว้าง รวมถึงการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา พร้อมการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 และช่วงล่างที่ใช้เพลาหน้าแบบปีกนกคู่ พร้อมเพลาหลังแบบ Five-Link เพื่อสร้างการขับขี่อย่างนุ่มนวลทั้งในชีวิตประจำวัน และขณะเดินทางไกล รวมถึงในการขับขี่ที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง โดยในรุ่นย่อย 530e M Sport จะมาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive พร้อมกับเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งหรือเลี้ยวขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการติดตั้งระบบปรับองศาล้อหลัง (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่า เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กม./ชม. ขณะที่รุ่น 520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport
ส่วนเทคโนโลยีช่วยเหลือได้รับการยกระดับให้ล้ำสมัยยิ่งกว่าในสภาวะที่หลากหลาย เพื่อปูทางสู่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เช่น ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในสภาวะต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function) ในรุ่นย่อย 530e M Sport และระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว(Cruise Control with braking function) ในรุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e Elite
รวมถึงระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่่ (Attentiveness Assistant) ที่ติดตั้งมาให้ในทุกรุ่นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ อาทิ เซ็นเซอร์ควบคุุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection), ระบบ Active Protection และเซ็นเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) พร้อมการเพิ่มเติมให้รุ่นย่อย 530e M Sport ด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัย และความสะดวกสบายขณะถอยจอด และจอดขนานได้อีกด้วย
ราคารถใหม่
BMW 5 Series รุ่น 520d M Sport ราคา 2,999,000 บาท
BMW 5 Series รุ่น 530e Elite ราคา 3,539,000 บาท
BMW 5 Series รุ่น 530e M Sport ราคา 3,739,000 บาท