The new Porsche 911 Targa เจเนอเรชั่นที่ 8 ของ “สปอร์ตระดับตำนาน”
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ นำเสนอสปอร์ตสายพันธ์แท้รุ่นใหม่ล่าสุด The new Porsche 911 Targa เจเนอเรชั่นที่ 8 ภายใต้รูปแบบตัวถังลำดับที่ 3
The new Porsche 911 Targa ยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำของตัวถังแบบ Targa จากการติดตั้งระบบหลังคาอัตโนมัติที่มีสไตล์โดดเด่นเช่นเดียวกับ Porsche Targa รุ่นปี 1965 ผ่านแนวหลังคาทรงโค้งที่สามารถเปิดรับสัมผัสแห่งธรรมชาติได้จากบริเวณเบาะนั่งคู่หน้า ซึ่งทอดตัวยาวโอบล้อมครอบคลุมบานกระจกบังลมหลัง ที่สั่งการเปิด และปิด ได้อย่างสะดวกสบายภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียง 19 วินาทีเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดเรือนร่างแสดงถึงการสะท้อนบุคลิกภาพงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของรหัสตัวถัง 992 เอาไว้อย่างครบถ้วน เช่น แนวโค้งของซุ้มล้อที่ลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบ LED ที่โดดเด่น รับกับเส้นสายของฝากระโปรงที่ดำเนินรอยตามงานออกเเบบดั้งเดิมจาก Porsche 911 รุ่นแรก ขณะที่ตัวถังด้านท้ายได้รับการขยายให้กว้างขึ้น พร้อมกับติดตั้งสปอยเลอร์หลังแบบซ่อนตัว และกลมกลืนไปกับแผง Light Bar ด้านหลังที่หรูหรามีระดับ อีกทั้งทุกส่วนประกอบของตัวถังยังถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ยกเว้นเพียงแค่ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า และด้านหลังเท่านั้น
การตกแต่งภายในห้องโดยสารนำเสนอความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตสายพันธุ์แท้ของ Porsche 911 Carrera ผ่านเส้นสายที่ชัดเจน ทั้งจากแผงคอนโซลหน้า และการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ อันเป็นแรงบันดาลใจที่รับสืบทอดมาจาก Porsche 911 ตั้งแต่ยุค 1970s เช่น แผงหน้าปัทม์ที่มีมาตรวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์อยู่บริเวณกึ่งกลางอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ประกบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้ง 2 ฝั่ง ตามด้วยชุดสวิทช์ควบคุมจำนวน 5 ปุ่ม สำหรับสั่งงานฟังค์ชันที่สำคัญของตัวรถติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 10.9 นิ้ว ที่ใช้เป็นศูนย์กลางของระบบความบันเทิง และติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM)
The New Porsche 911 Targa ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังประสิทธิภาพสูง จากพื้นฐานเครื่องยนต์ Boxer แบบ 6 สูบ พิกัด 3.0 ลิตร พ่วง Twin-Turbocharged โดยในรุ่น 911 Targa 4 จะให้พละกำลังสูงสุด 385 แรงม้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 15 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ซึ่งหากติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package จะสามารถเพิ่มอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.2 วินาที ซึ่งเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10%
ขณะที่ในรุ่นย่อย 911 Targa 4S ตัวท็อปจะส่งมอบความเร้าใจมากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยพละกำลังมหาศาลกว่า 450 แรงม้า หรือมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดกว่า 530 นิวตันเมตร หรือเพิ่มขึ้น 30 นิวตันเมตร) และทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.6 วินาที หรือเร็วขึ้นถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา ส่วนความเร็วสูงสุดของ Porsche 911 Targa 4 ทำได้ที่ 289 กม./ชม. ตามด้วย 911 Targa 4S ที่ไปต่อได้ถึงระดับ 304 กม./ชม.
ระบบส่งกำลังของทั้ง 2 รุ่นมากับชุดเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ (PDK) 8 สปีด ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ที่มาพร้อมระบบ Porsche Traction Management (PTM) เพื่อควบคุมการกระจายแรงบิดให้มีเหมาะสมในทุกสภาพเส้นทาง เสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อรองรับอรรถประโยชน์สูงสุดในการใช้งานประจำวัน เช่น ฟังค์ชัน Smartlift ที่สามารถตั้งค่าระดับความสูงใต้ท้องรถ
โดยมีชุดโช๊คอัพที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Porsche Active SuspensionManagement (PASM) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของ new Porsche 911 Targa และทำการปรับตั้งอัตราการตอบสนองของโช๊คอัพ ที่คำนึงถึงการขับขี่ทั้งสไตล์นุ่มนวล และเน้นสมรรถนะการบังคับควบคุม ตามสถานการณ์ที่เลือกได้ 2 รูปแบบ คือ Normal และ Sport
ในรุ่น Targa 4S ยังได้ติดตั้งระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ที่รวมอยู่ในชุดเฟืองท้าย Electronic Rear Differential Lock มาให้เป็นอุปกรณ์ฐาน ซึ่งจะสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนได้อย่างอิสระ ขณะที่ในรุ่น Targa 4 อุปกรณ์นี้จะถูกจัดไว้ให้เลือกในฐานะออพชั่น แต่ทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการติดตั้งระบบ Porsche Wet Mode มาให้ และจะทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ภายในซุ้มล้อหน้าตรวจจับปริมาณน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนน โดยในกรณีที่ปริมาณน้ำมีมากจนส่งผลต่อการบังคับควบคุม ผู้ขับขี่จะได้รับสัญญาณเตือน และคำแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ไปยัง Wet Mode เพื่อให้การตอบสนองของตัวรถปรับสภาวะต่างๆ เข้าสู่ระดับที่เน้นเสถียรภาพ และการยึดเกาะสูงสุด
ปิดท้ายด้วยเรื่องของเสถียรภาพ เริ่มต้นด้วย Porsche 911 Targa 4 จะมาพร้อมกับยางรถยนต์สมรรถนะสูงขนาด 235/40 ZR บนล้ออัลลอยด์ 19 นิ้วคู่หน้า และยางขนาด 295/35 ZR บนล้อขนาด 20 นิ้วคู่หลัง โดยที่รุ่น Targa 4S จับคู่กับยาง 245/35 ZR บนล้อหน้า 20 นิ้วด้านหน้า และยาง 305/30 ZR สำหรับล้อ 21นิ้วด้านหลัง
ตามด้วยระบบเบรกของรุ่น Targa 4 ที่ใช้จานเบรกคู่หน้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 330 มม. พร้อมคาลิเปอร์โมโนบล็อก 4 Pot สีดำ ส่วนรุ่น Targa 4S เพิ่มความโดดเด่นด้วยจานเบรกขนาด 350 มม. จับคู่กับชุดคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ขนาด 6 Pot สำหรับล้อหน้า และ 4 Pot สำหรับล้อหลัง โดยสามารถเลือกสั่งออพชั่นระบบเบรก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) เพิ่มเติมได้ตามต้องการ
อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษมากมายจาก Porsche Tequipment เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่บ่งบอกตัวตนของคุณด้วยชุดแต่ง Porsche Exclusive Manufaktur ที่นำเสนอผลงานการผสมผสานระหว่างชิ้นงานสไตล์คลาสสิคท้าทายทุกข้อจำกัดของกาลเวลา และขีดสุดแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นเลิศ หล่อหลอมรวมกันเป็น Porsche 911 Targa