รีวิว New Toyota Vios 2016 ( โตโยต้า วีออส 2016 ) ตอกย้ำกระแสความนิยมของโมเดล Vios ด้วยเวอร์ชั่นล่าสุดที่อัพเกรดขึ้นอีกระดับ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำกระแสความนิยมของโมเดล Vios ด้วยเวอร์ชั่นล่าสุดที่อัพเกรดขึ้นอีกระดับ โดยมีสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะในครั้งนี้ ซึ่งการทดลองขับในครั้งนี้เรามีรุ่นท็อปสุดของ New Toyota Vios 2016 ( โตโยต้า วีออส )เป็นพาหนะ และแบ่งเป็น 2 ช่วงของการทดสอบ เริ่มต้นจากศูนย์ทดสอบรถยนต์ Toyota Driving Experience Park ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 3 (ขาออก) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปรายละเอียดตัวรถ
สำหรับ New Toyota Vios 2016 เวอร์ชั่นนี้มากับความสดใสในรูปลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วย กระจังหน้าพร้อมแถบโครเมี่ยมรมดำ ที่รับกันอย่างลงตัวกับชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ, กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมกับไฟตัดหมอกหน้า ในขณะที่ด้านข้างคือส่วนผสมความสปอร์ตหรูระหว่างล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วรมดำ และมือจับเปิดประตูแบบโครเมี่ยม ปิดท้ายด้วยความโดดเด่นจากไฟท้ายแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ และคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบรมดำ ส่วนภายในห้องโดยสารก็ยังคงเป็นอารมณ์ที่คุ้นเคย แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของวัสดุที่อัพเกรดขึ้นใหม่ ให้ได้อารมณ์สปอร์ตโดนใจวัยมันส์มากขึ้น แต่ช่องเก็บของดูจะน้อยไปนิ ด และที่สำคัญตกเทรนด์ชาวสังคมก้มหน้า เพราะควรจะมีช่องเสียบ USB เพิ่มเติม เพื่อรองรับการใช้งานอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในกรณีที่นั่งเต็มอัตราศึก
เครื่องยนต์รหัส 1NZ-FE มาเป็น 2NZ-FBE
ในเรื่องของสมรรถนะนั้นมีการปรับปรุงใหม่ จากเดิมเครื่องยนต์รหัส 1NZ-FE มาเป็น 2NZ-FBE พิกัด 1,500 ซีซี Dual VVT-I 4 สูบ 16 วาล์ว เบ่งกำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ลูกใหม่แบบอัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ทั้งยังรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสีย CO2 ที่ต่ำกว่า 150 กรัม/กม. นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพในการขับขี่ขึ้นในทุกๆ ด้าน ทั้งการควบคุม, การทรงตัว, การลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน และความเงียบของห้องโดยสารตลอดจนการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย Active Safety ในทุกรุ่นอีกด้วย
Toyota Driving Experience Park
โดยหลังจากรับทราบรายละเอียดตัวรถเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาลงสนาม Toyota Driving Experience Park ตาม Station ในการทดสอบที่จัดไว้ ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองขับก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างๆ เช่น ในสถานี VSC Test ที่ใช้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. วิ่งบนแทรคกระเบื้องเซรามิคฉีดน้ำที่ค่อนข้างมีความลื่นมากทำให้รถเกิดอาการไถล แต่ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC ก็ทำงานได้ดี ช่วยประคองรถให้ขับเคลื่อนไปต่อ และสามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
ต่อมาที่สถานี Lane Change ก็รู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่ดีต่อการควบคุม และความแม่นยำของพวงมาลัย ช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ส่วนสถานี 100 กม./ชม. Soft Brake กับการหยุดรถที่ความเร็วระดับ 100 กม./ชม. เพื่อลองระบบ ESC ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความมั่นใจ ปิดท้ายด้วยสถานี Bride jump 30 กม./ชม. ที่ต้องวิ่งขึ้นคอสะพาน และสภาพทางขรุขระ เพื่อทดลองระบบช่วงล่าง ซึ่งก็นับว่าเป็นการปรับที่ลงตัวมากขึ้นทั้งการดูดซับแรงกระแทก ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ทั้งยังส่งผลให้เกิดความเงียบมากขึ้นในห้องโดยสารอีกด้วย
นอกจากการทดลองขับในสถานีต่างๆ ที่จัดไว้ให้ในสนาม Toyota Driving Experience Park แล้ว เรายังมีโอกาสได้ออกไปลองของบนเส้นทางจริงที่กำหนดไว้ด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นช่วงทดสอบที่ 2 เริ่มต้นจากศูนย์ทดสอบรถยนต์โตโยต้า Toyota Driving Experience Park มุ่งหน้าสู่ร้านบ้านต้นเค้ก บางแสน จังหวัดชลบุรี แต่ดูเหมือนวันนี้บรรยากาศ และการจราจรยังไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ในการใช้ความเร็วสูงนัก เนื่องจากบางช่วงการจรจรติดขัด และมีฝนตกพอประมาณ จึงทำให้ใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 80-120 กม./ชม. ทำอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15 กม./ ลิตร
และแม้เส้นทางที่ใช้ทดสอบจะต้องเจอกับพื้นถนนค่อนข้างที่จะเปียกลื่น แต่ระบบ VSC และระบบ ESC ที่ได้ทดสอบกันไปก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้แสดงประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นแสดงเห็นถึงสมรรถนะของระบบช่วงล่างที่มีความดีเยี่ยม มากด้วยความสามารถในการยึดเกาะถนน การทรงตัว และเสถียรภาพการขับขี่ จนไม่ต้องหยิบยืมกำลังความช่วยเหลือจากระบบอิเล็คทรอนิกส์ทั้ง 2 ระบบมาช่วย และทำให้เรารับรู้ได้ว่าแม้ถนนเปียกจะมีสภาพเปียกลื่น Toyota New Vios ก็ยังคงให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ
ส่วนพละกำลังของเครื่องยนต์นั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งยังนุ่มนวลมากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนมาใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เน้นเรื่องของการส่งกำลังอย่างต่อเนื่อง และเรียบลื่นในการไต่ระดับความเร็ว แต่สำหรับสาวก Vios ที่ยังคงชื่นชอบอารมณ์มันส์ๆ ของจังหวะ Kick Down จากระบบส่งกำลังแบบเดิม นั้นอาจจะรู้สึกขัดใจบ้าง เพราะถ้าเทียบกับแล้วมันอาจจะไม่เร้าใจมากมายนัก แต่ก็ยังให้ความมั่นใจได้ในจังหวัเร่งแซง หรือต้องการขยับความเร็วแบบเร่งด่วน
บทสรุปสั้นๆ หลังจากที่ได้ทดลองขับ Toyota New Vios ยังคงเป็นโมเดลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะบุคคลิคการขับขี่ ซึ่งเป็นไปตามกระแสโลก และความต้องการในตลาดด้วยอารมณ์การขับขี่ที่ขยับเข้าใกล้รุ่นพี่อย่าง Altis มากขึ้น ไม่ได้เน้นความสปอร์ตจัดจ้านเหมือที่ผ่านมา หรือพูดง่ายๆ ว่าปรับบุคคลิคใหม่ให้ขับสบายมากขึ้นทั้งความเงียบภายในห้องโดยสาร การดูดซับแรงกระแทกที่ทำได้ดี และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่รองรับได้ทุกการใช้งาน และทุกสไตล์การขับขี่
บทความที่เกี่ยวข้อง
ใหม่ New TOYOTA VIOS 2016 และ New TOYOTA VIOS Exclusive 2016 พร้อม ราคา