รีวิว : TOYOTA Vellfire ( โตโยต้า เวลไฟร์ ) ตอนที่ 3 performance

หลังจากดูรายละเอียดรอบ…รอบตัวรถทั้งในและนอก ผมก็มานั่งคิดว่าผมจะพา TOYOTA Vellfire ( โตโยต้า เวลไฟร์ ) รถที่มีขนาดใหญ่ในแบบ MPV คันนี้ไปไหนดีแล้วไปทดสอบคนเดียวเหมือนทุกครั้งไปคงไม่สนุก เพราะต้องมีบางช่วงผมต้องลองนั่งในห้องโดยสารบาง คิดได้แบบนั้นก็เย็นแล้วเลยเรียกน้อง…น้องในทีมมา 6 คนเพื่อร่วมเดินไปหาอาหารทานกันที่ริมทะเลจังหวัดระยอง

 

เครื่องยนต์

พอทุกคนพร้อมผมก็ได้มีโอกาสกด Engine Start เป็นครั้งแรกเสียงเครื่องยนต์รหัส 2AZ-FE VVT-i  ขนาดความจุกระบอกสูบ 2,362 ซีซี. พร้อมระบบวาล์วแปรผัน อัตราส่วนกำลังอัด 9.8 สามารถให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที สามารถให้แรงบิดสูงสุด 224 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แปรผันอัตโนมัติ หรือ CVT 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เงียบดีที่เดียว ทัศนวิสัยในการ ขับขี่ที่ถือว่าดี มุมมองต่างๆ เปิดกว้างเห็นได้ทุกมุมมอง

 

ปลอดภัยในการจอด

พอเข้าเกียร์ถอยหลังอย่างแรกที่ชอบการแสดงผลที่หน้าจอของกล้องวงจรปิดขณะถอยหลัง ซึ่งมีเส้นบอกทิศทางอยู่ 3 สีคือ แดง คือ ระยะอันตรายถอยไม่ได้แล้ว ฟ้า คือ เส้นแนวถนน เหลือง คือ เส้นทิศทางที่เราหักพวงมาลัยว่ารถจะไปทางไหน ยังไม่เท่านั้นถ้าเรากดปุ่มที่คอนโซลด้านขวาสุดบน Engine Start เป็นรูปรถมีรัศมีหน้าและซ้าย กล้องอีกตัวซ่อนอยู่ใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายจะเปิดให้เห็นด้านซ้ายของตัวรถว่าเราจอดชิดฟุตบาต หรือข้างรถมีอะไรกีดขวางหรือเปล่า ทำให้การจอดรถในที่จอดแคบๆ ขอเพียงให้มีช่องพอดีกับรถ ยังไงก็เข้าจอดได้ไม่ยาก ปลอดภัยในการจอดด้วยไม่ต้องใช้คนลงไปช่วยโบกด้วย

 

toyota-vellfire

ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์

พอเริ่มออกเดินทางขึ้นทางด่วน ความรู้สึกผมสัมผัสได้คือความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์นุ่มมากๆ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ก็ทำได้อย่างราบเรียบจนคนนั่งหลังไม่รู้สึก ส่วนสมรรถนะของเครื่องยนต์ทำได้ทันอกทันใจไม่น้อย เหมาะกับการเดินทางไกล ผมลองใช้ความเร็วในเดินทางที่ 100 กม./ชม. รอบเครื่องจะอยู่ต่ำเพียง 1,900 รอบ/นาที ถือว่าเป็นรอบเครื่องต่ำในขณะเดินทางนั้น จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในขณะขับขี่ทางไกล ส่วนที่เป็นจุดเด่นของ Toyota Vellfire ก็คือสัญญาณไฟคำว่า “ECO” ที่จะบอกเตือนพฤติกรรมการขับขี่ เมื่อใช้ความเร็วและรอบเครื่องที่ไม่สูงเกินอัตราสิ้นเปลืองปรกติ และ เมื่อกดคันเร่งอย่างหนักหน่วงเกินปรกติ สัญญาณไฟ คำว่า “ECO” ตัวนี้ก็หายไป นั่นคือจะบอกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงในถังนั้นคงจะต้องลดลงอย่างรวดเร็วตามน้ำหนักเท้าขวาของเรานั่นเอง

 

ภายใน

พอถึงจังหวัดระยองทานอาหารเรียบร้อย ผมให้น้องในทีมมาขับให้ เพราะอยากทราบความรู้สึกสบายของผู้โดยสารบ้าง ผมเลือกนั่งเบาะหน้าสุดของตอนหลังปรับนั่นปรับนี้ให้รู้สึกสบายที่สุด มีที่วางของ และแก้วน้ำอยู่ข้างตัว ผมให้คนขับใช้ความเร็วที่ 140 กม./ชม. ในการเดินทาง ความรู้สึกของผมบอกได้เลยครับ ถ้ามีจอทีวีก็ไม่ต่างอะไรกับนั่งชมทีวีบนโซฟาตัวโปรดที่บ้าน แม้รถจะวิ่งด้วยความเร็วก็ตาม ในการเดินทางครั้งนี้ผมใช้ระยะทางไปกับ 347 กม. เติมน้ำมันไป 800 บาท (น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลิตรละ 24.24 บาท) นั่งกันเต็มทุกเบาะ 7 ที่นั่ง

 

https://www.youtube.com/watch?v=sYidHKoffrM

 

https://www.youtube.com/watch?v=dgRih0Loe0k


บทความแนะนำ

รีวิว : TOYOTA  Vellfire ตอนที่ 4 Suspension

รีวิว : TOYOTA  Vellfire ตอนที่ 2 interior

รีวิว : TOYOTA  Vellfire ตอนที่ 1 Overview