รีวิว : Toyota Altis ESport ” โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต ” พาขึ้นเหนือตามหาโค้งขึ้น – ลงเขาแบบสุดโหด ณ อ.สะเมิง

ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ สำหรับตระกูล Altis ของค่าย TOYOTA หลังจากเปิดตัวและ Test Drive Altis ตัวมาตรฐานกันเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านี้ และตามด้วยการเอาใจวัยรุ่นหรือกลุ่มผู้บริโภคที่แอบมีหัวใจสปอร์ตกับ ” นิว โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต ” TOYOTA Altis ESport ซึ่งเติมเต็มความสปอร์ตเข้ามาแบบเต็มตัว ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก – ภายใน และช่วงล่าง หลังจากที่เปิดตัว ณ ร้านไวน์ชื่อดังไปเรียบร้อย ไม่กี่วันต่อมา ทางโตโยต้าพาสื่อมวลชนขึ้นเหนือตามหาโค้งขึ้น – ลงเขาแบบสุดโหด ณ อ.สะเมิง เพื่อพิสูจน์ว่า ” โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต ” TOYOTA Altis ESport มีช่วงล่างดีจริงสมความเป็นสปอร์ตอย่างที่บอกหรือไม่

 

TOYOTA Altis ESport

” โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต ”  เป็นเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษเน้นอารมณ์สปอร์ตอย่างเต็มตัว เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่มีหัวใจสปอร์ต ชื่อตามท้ายรุ่น “ESport” E มาจาก Excellent Extreme Exciting บอกถึงควายอดเยี่ยม ความเป็นที่สุดและความเร้าใจ ส่วนคำว่า Sport ก็เพื่อบ่งบอกสมรรถนะอันน่าเร้าใจ โดยรวม “ESpor” จึงเป็นรถยนต์ที่ให้ความเร้าใจในแบบสปอร์ตทั้งดีไซน์ และสมรรถนะ มองภายนอกเพิ่มความสปอร์ตเฉียบด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED กระจังหน้าโครเมียมพร้อมแถบ Gun Metallic นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสเกิร์ตด้านหน้า และด้านหลังพร้อมท่อไอเสียดีไซน์สปอร์ต โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ท้ายพร้อมไฟเบรคแบบ LED

 

ภายใน

ภายในตกแต่งด้วยสีเทาดำ คอนโซลหน้า Cyber Carbon ลายสปอร์ต พวงมาลัยแบบหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่มีช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX เบาะนั่งคู่หน้ากึ่งแบบ Bucket Seat ซึ่งนั่งลงไปจะสัมผัสถึงความกระชับตั้งแต่ต้นขา ลำตัว แผ่นหลัง และไหล่ ส่วนเครื่องยนต์เป็นรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร Dual VVT-i พร้อมระบบ ACIS ช่วงเพิ่มแรงบิดให้ดีขึ้น ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที สามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมแป้นเกียร์ Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้ผมได้อธิบายถึงสมรรถนะและเทคโนโลยีลงในฉบับที่แล้ว ซึ่งโดยรวมถือว่ามีเสน่ห์อยู่ที่เกียร์ CVT ที่มีความฉลาดเซ็ตอัพสมบรูณ์แบบมาก

 

ช่วงล่าง

แต่สิ่งที่โตโยต้าหมายใจอยากให้สื่อมวลได้สัมผัส คือ ช่วงล่างสไตล์สปอร์ตที่มีเฉพาะในรุ่น “ESport” เนื่องจากการวางทางในการทดสอบครั้งนี้ร้อยกว่ากิโลเมตรเป็นทางโค้งขึ้น-ลงเขาล้วนๆ จึงเป็นบททดสอบที่ดีทั้งช่วงล่างของรถ แรงบิด ระบบส่งกำลัง และทักษะของผู้ขับขี่ การทดสอบครั้งนี้เราวิ่งเป็นขบวนเรียงตามหมายเลขกันไป ซึ่งมีรถนำที่ขับด้วยความเร็วที่สูงพอสมควร เรียกได้ว่าทักษะคุณไม่ดีพอตกเขาแน่นอนครับ เส้นทางการเดินทางเป็นโค้งสลับขึ้นลงเขา ทำให้การใช้เบรคในการเข้าโค้งตลอดเส้นทาง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำ ดังนั้น Paddle Shift จึงเข้ามามีบทบาทมากในการลดเกียร์เพื่อเรียก Engine Brake ในการลงเขา จากที่ผมได้สัมผัสมาตลอดเส้นทาง การทำงานของช่วงล่างและเบรคสามารถทำได้ตามใจสั่ง บางครั้งที่คุณเปลี่ยนเกียร์มากเกินไปก็จะมีเสียงเตือน “ปี๊ด ปี๊ด” ทำให้ทราบว่าคุณอยู่ในเกียร์ที่ไม่เหมาะสม ส่วนระบบช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกกันโคลงในด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง “ESport” มีความแตกต่างในการเซ็ตอัพ ช็อคอัพ คอยล์สปริงซึ่งมีค่า K ที่แข็งกว่า วิธีการคดวงของสปริงช่วยให้ทางตรงมีความนิ่มนวลสูง ทางโค้งมีการเกาะถนนที่ดี นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ช่วยป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลออกนอกเส้นทางในขณะเข้าโค้ง โดยใช้ระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวรถ พอรถเริ่มหลุดโค้ง ระบบจะประมวลผลสั่งการไปตัดการจ่ายน้ำมันที่ลิ้นปีกผีเสื้อ และเพิ่มแรงกดเบรกล้อข้างในโค้ง เพื่อให้คุณสามารถเข้าโค้งไปได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) บอกได้เลยว่าช่วงล่างดีมากครับ การเกาะถนนดี เมื่อบวกกับการใช้ของ Engine Brake ก่อนเข้าโค้งทำให้ตัวรถเกาะถนนมากขึ้น แต่ว่าน้ำหนักของพวงมาลัยเบาไปนิดสำหรับความเป็นรถสปอร์ต สำหรับผมการที่น้ำหนักพวงมาลัยเบาทำให้ความมั่นใจในการเข้าโค้งหายไปเยอะ ทั้งๆ ทีช่วงล่างอยู่ในเกณฑ์การตอบสนองที่ดี น่าเสียดายในจุดนี้นิดเดียวครับ

 

สุดท้ายขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับโอกาสดีๆ ที่ให้เราได้สัมผัสนวัตกรรมของท่านครับ ส่วนท่านใดที่กำลังสนใจ “นิว โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต” TOYOTA Altis ESport ลองไปสัมผัสด้วยตัวท่านเองก่อนตัดสินใจนะครับ เพราะคุณเท่านั้นจะตอบได้ว่า “ESport” เหมาะกับคุณหรือไม่