เทคนิคขับรถ ขึ้นดอย รับหน้าหนาว แบบเซียนๆ
ใกล้เข้ามาแล้วกับช่วงฤดูหนาว หลายคนเตรียมวางแผนการท่องเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ในภาคเหนือ เพื่อสัมผัสอากาศเย็นและชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามส่วนใหญ่จะอยู่บนดอยสูง ที่นอกจากจะต้องเตรียมตังเตรียมร่างกายแล้ว หากต้องขับรถขึ้นไปก็ควรที่จะต้องเตรียมรถ เตรียมเทคนิคขับรถ ขึ้นดอย เอาไว้ด้วย
ขับรถขึ้นดอย ควรใช้เกียร์ต่ำมาช่วยไม่ต้องกลัวเปลือง
ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าทางขึ้นเขาจะมีความชันมาก ภาระต่างๆจะไปตกที่ตัวรถ ซึ่งจะใช้แรงมากกว่าการขับรถบนถนนปกติทั่วไป และเกียร์ที่สามารถใช้ในการขับรถขึ้นทางชันได้ ก็มีเพียงแค่เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น ระหว่างขับขี่หากรู้สึกว่ารถเริ่มไม่มีแรง ก็ให้ลดเกียร์ต่ำลง เช่น ขับมาเกียร์ 2 แล้วรถเริ่มอืด ๆ ให้ลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 1 แทน จะทำให้รถมีแรงมากขึ้น ส่วนรถเกียร์ออโต้ ก็ให้เปลี่ยนเกียร์ไป ตำแหน่ง “L”
ขาลงจะไม่แตกต่างจากขาขึ้นเท่าไหร่นักเพราะจะใช้เกียร์ต่ำเช่นเดียวกัน แต่ขาลง รถไม่ต้องการแรงมากเท่าไหร่ แค่ต้องการแรงฉุดของระบบเกียร์เพื่อจะช่วยฉุดรถให้ช้าลง ลดภาระและความร้อนของเบรก โดยห้ามดับรถหรือใช้เกียร์ว่างลงเขา เด็ดขาด
ทางโค้งอับสายตาชิดซ้ายไว้
ปกติแล้วทางขึ้นเขาจะตัดถนนเป็นทางโค้งคดเคี้ยวไปมา ยิ่งภูเขาสูงมากเท่าไหร่ ถนนก็ยิ่งคดเคี้ยว เพราะทางโค้งใช้สำหรับลดความลาดชันของพื้นที่ให้รถสามารถขับขึ้นไปได้ ซึ่งทางโค้งบนเขานั้น มักจะมีต้นไม้บังถนนอีกฝั่ง เวลาเข้าโค้งจึงควร ขับชิดซ้าย เอาไว้ เผื่อมีรถอีกฝั่งแซงมาในทางโค้งจะได้หลบหลีกได้ทัน
อีกทั้งไม่ควรขับแซงในเขตห้ามแซง หรือไม่ควรขับแซงในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้ เนื่องจากอุบัติเหตุบนเขาส่วนใหญ่ก็มาจาก การแซงทางโค้ง
เพิ่มระยะเบรกตอนทางลง
การขับทางลงเขาที่มีความชันมากๆ รถจะต้องการระยะเบรกเพิ่มขึ้นยาวกว่าปกติ เนื่องจากความลาดชันของพื้นที่และน้ำหนักของตัวรถจะมีผลให้รถเบรกได้ช้าลง ดังนั้นควรเว้น ระยะเบรก ให้เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้สามารถเบรกได้อย่างเหมาะสม
แตะเบรกเบาๆ ปล่อยๆบ้าง
บางครั้งในทางลงเขา แรงฉุดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องมีการแตะเบรกช่วยด้วย เพื่อชะลอความเร็วของรถ แต่ ห้ามแตะเบรกแช่ยาวเด็ดขาด เพราะจะทำให้เบรกไหม้และเบรกไม่อยู่ ซึ่งควรแตะเบรกในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้น และควรตรวจสอบเบรกให้ดีและสมบูรณ์ก่อนออกเดินทาง