อีกครั้ง !!! … กับการว่าด้วยเรื่องของ “ เข็มขัดนิรภัย ”

Seat-Belt

กับกระแสที่กำลังโด่งดังในเรื่องของ ม.44 ว่าด้วยการคาด เข็มขัดนิรภัย ที่ผ่านมา น่าจะเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ผู้ใช้รถหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยกันไม่มากก็น้อย และด้วยเหตุผลนั้นเราจึงคิดที่จะนำเรื่องของ “เข็มขัดนิรภัย” มานำเสนออีกครั้ง เพื่อตอกย้ำในเรื่องของความปลอดภัย

ประเภทของเข็มขัดนิรภัยที่ ณ ปัจจุบัน

Seat-Belt

ประเภทแรก เข็มขัดนิรภัยที่ใช้สำหรับรถแข่ง

โดยเริ่มจากประเภทของเข็มขัดนิรภัยที่ ณ ปัจจุบัน แบ่งออกหลักๆ เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ ประเภทแรก “เข็มขัดนิรภัยที่ใช้สำหรับรถแข่ง” ที่เรียกว่าปลอดภัยสุดๆ ด้วยจุดยึดที่มีตั้งแต่ 4 – 6 จุด ซึ่งจะทำหน้าที่รั้งตรึงผู้ขับขี่ และผู้โดยสารให้ติดแน่นอยู่กับเบาะขณะเกิดอุบัติเหตุ และสามารถปลดออกได้ง่าย เนื่องจากรถแข่งเหล่านี้ให้ความเร็วที่ค่อนข้างสูง ฉะนั้นการเกิดอุบัติเหตุจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้เข็มขัดนิรภัยจึงต้องมีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วย เพื่อช่วยปกป้องผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสาร

 

Seat-Belt

ประเภทที่ 2 เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด

เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ซึ่งเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบที่ติดตั้งมาให้ และใช้งานอยู่ในรถทั่วไป ซึ่งจะมีจุดยึด 2 จุดด้านล่างสำหรับเส้นล่างเพื่อคาดบริเวณสะโพก และเส้นบนที่พาดผ่านร่องไหล่ลงมา ส่วน

ประเภทที่ 3 เข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด

ก็คือ เข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด ที่จะเห็นได้บริเวณตรงกลางเบาะนั่งแถวหลังในรถทั่วๆ ไป เช่นกัน โดยจะเป็นสายเข็มขัดเส้นเดียวสำหรับคาดยึดบริเวณสะโพก ซึ่งก็จะเหมือนเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด เพียงแต่ไม่มีเส้นบนที่พาดผ่านร่องไหล่ลงมา

แต่ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งซึ่งเหมือนกันก็คือจุดประสงค์ในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ …. ผู้ใช้ก็ต้องใช้ให้ถูกวิธีด้วยเช่นกัน ซึ่งแม้เราจะเคยนำเสนอในเรื่องนี้ไปแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อ ม.44  บังคับชัดเจนในเรื่องของเข็มขัดนิรภัย เราจึงขอถือโอกาสมาแนะนำกันอีกครั้ง สำหรับวิธีการคาดเข็มขัดอย่างถูกต้องเพื่อลดโอกาสบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ

Seat-Beltการคาดเข็มขัดนิรภัยนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แสนง่าย เหมือนที่เราทำๆ กันอยู่ทุกวัน แต่ … ไม่ใช่สักแต่ว่าคาดๆ ไปเพื่อป้องกันการถูกจับปรับ เพราะเราอยากให้ทุกท่านใส่ใจเรื่อง “ตำแหน่ง” ของสายเข็มขัดนิรภัยกันซักนิด โดยเฉพาะรถใช้งานทั่วๆ ไป เช่น เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ซึ่งมีสายเข็มขัดนิรภัยทั้งหมด 2 เส้น คือ เส้นบน และเส้นล่าง โดยตำแหน่งของเส้นบนจะต้องพาดผ่านร่องไหล่ ลงมาที่หน้าอก และควรปรับให้อยู่ในระยะสูง – ต่ำที่เหมาะสม ส่วนเส้นล่างตำแหน่งที่ถูกต้องจะต้องพาดผ่านบริเวณกระดูกเชิงกราน เพราะทั้ง 2 ตำแหน่ง คือ อวัยวะที่เป็นกล้ามเนื้อ และกระดูกชิ้นใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนัก และแรงกระแทกได้ดีที่สุด ส่วนในเรื่องการปรับระยะสูง – ต่ำ ให้พอดี ก็เพราะขอบของสายเข็มขัดนิรภัยนั้นค่อนข้างมีความ “คม” ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุก็อาจจะส่งผลให้สายเข็มขัดสร้างบาดแผลให้คุณได้ เช่นกัน แม้กระทั้งแค่การเบรกแบบแรงๆ ก็ตาม ส่วนเข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด การคาดเส้นล่างก็จำเป็นต้องวาง “ตำแหน่ง” ของสายเข็มขัดนิรภัยให้เหมือนกับเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดเช่นกัน ด้วยเหตุผลแบบเดียวกันนั่นเอง และหลังจากคาดอย่างถูกต้อง ตรงตำแหน่งแล้ว เสียเวลาซักนิด เพื่อตรวจสอบการทำงาน ด้วยการลองกระตุก หรือดึงแรงๆ ซักนิด เพื่อให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยยังทำงานได้ปกติ ก็จะเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากขึ้น

 


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |