Goodyear International Drift Series Round 3-4

โพสต์เมื่อ 14 ตุลาคม 2010 เวลา 1:25 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

    ความสนุกยังตราตรึงไม่คลายกับรายการแข่งขันดริท์ฟที่มันส์ที่สุดหนึ่งเดียวในประเทศไทยกับรายการ  Goodyear International Drift Series Round 3-4

ที่รวบรวมความสุดยอดไว้ด้วยกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุดยอดการแข่งขันดริฟท์งานแรกในประเทศไทยที่เป็นการชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รวมถึงได้รับการรับรองจาก ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (รยสท) และยังเป็นรายการดริฟท์รายการเดียวที่ได้รับคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมแนะนำของ Amazing Thailand Recommended Event
 ความสุดยอดยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะในสนามที่ 3-4 ที่ผ่านมา Goodyear International Drift Series ยกพลขนความมันส์บุกเขื่อนขุนด่านปราการชล จ. นครนายก นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการดริฟท์บนเขื่อนคอนกรีตที่มีความยาวที่สุดในโลก โดยงานนี้มีนักแข่งฝีมือระดับพระกาฬทั้งจากในประเทศและต่างเทศตบเท้าเข้าร่วมโชว์ลีลาการดริฟท์กระหึ่มสันเขื่อน พร้อมแจกของรางวัลมูลค่านับแสนบาท สร้างความประทับแก่ชาวนครนายกไม่รู้ลืม
    การแข่งขันสนามที่ 3 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2553 โดยมีรถทำร่วมทำการแข่งขันทั้งหมด 50 คัน เริ่มต้นการควอลิฟายกันในช่วงบ่าย เพื่อหาผู้เข้ารอบทำการ  Battle กันในรอบ 16 คัน จะให้บรรยายทั้งหมดคงจะไม่ไหว ขอเอาเฉพาะคู่ที่เป็นไฮไลท์แล้วกันนะ ในคู่ที่ 3 เป็นการจับคู่ระวัง นิธิพัฒน์ จากทีม Goodyear กับ กนพิชิต ต้องบอกว่ากว่าจะตัดสินกันต้อง One More Time กันอีกรอบ เพราะขับได้ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ในที่สุด นิธิพัฒน์ จากทีม Goodyear โชว์ลีลาทิ้งระยะห่างในรอบนำได้หลายช่วงตัวทำให้ผ่านเข้ารอบไป มาในคู่ที่ 5 เป็นนักแข่งจากต่างชาติ Daniel Woolhouse จากทีม Goodyear กับ ธรรมรัตน์ คู่นี้  Daniel Woolhouse ออกตัวดี ลีลาดี ทั้งในรอบนำและรอบตาม ทำให้ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ไม่ยาก  คู่ที่ 6 ชนะพล เด็กมหัศจรรย์อายุ  17 ปี จากทีม Goodyear กับ จักรพงษ์ แม้อายุจะน้อยแต่โชว์ลีลาลากรอบสุดเสียงเครื่อง โชว์ควันยางโดนใจให้ผู้ชมรอบสนาม ผ่านเข้ารอบไปได้สบาย
     ในรอบ 8 คันคู่แรก ชัยยศ  พบกับ เดชะพล  คู่นี้คะแนนมาพลิกผันกันในช่วงรอบที่ เดชะพล เป็นผู้ตาม เพราะสามารถตามไลน์ของ  ชัยยศ  ได้เนียนและชิดแบบสุดๆ จึงผ่านเข้ารอบ คู่ที่ 2  นิธิพัฒน์ จากทีม Goodyear กับ เทิดทูล คู่นี้สูสีกันมากในลีลา และความสามารถ แต่เทิดทูล ดีกว่าเล็กน้อยทำให้ผ่านเข้ารอบไป คู่ที่ 3 เป็นการพบกันเองของทีม Goodyear  ระหว่างDaniel Woolhouse กับ  ชนะพล หรือน้อง “เอส” ซึ่งวิ่งไม่กลัวดีกรีรุ่นพี่เลย ทำให้ Daniel Woolhouse กดดันตัวเองพลาดท่า เกิดอุบัติเหตุชนขอบกำแพงปูน ทำให้  ชนะพล ผ่านเข้ารอบไป คู่สุดท้ายในรอบ 8 คัน Aleksandar Kantarovski พบกับ สรานนท์ ซึ่งงานนี้ต้องบอกว่า สรานนท์ขับได้ต่ำกว่ามาตราฐานตัวเอง ทำให้พลาดท่าให้  Aleksandar ผ่านเข้ารอบไป
     ชมต่อในรอบ 4 คันคู่แรก เดชะพล  กับ เทิดทูล ซึ่งสามารถทำได้ดีทั้งในรอบนำและรอบตาม ทำให้ เดชะพล พลาดท่าชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง จึงต้องไปรอชิงที่ 3 ถ้ารถซ่อมเสร็จทัน คู่ที่ 2  ชนะพล จากทีม Goodyear กับ  Aleksandar Kantarovski  แม้จะต้องพบกับชาวต่างชาติน้อง “เอส” ก็ไม่หวั่น โชว์ลีลาทิ้งห่างแบบเหนือชั้น ผ่านเข้าไปชิงที่  1 แบบสบาย
    มาดูคู่ชิงที่ 1 ที่เรียกได้ว่าเป็นคู่หยุดโลกเลยก็ว่าได้ เสียงเชียร์ทั้งคู่ลั่นสนาม เพราะทั้ง ชนะพล จากทีม Goodyear ที่มาพร้อมทั้งรถ ฝีมือ ยางสมถรรนะสูง  Googyear F1 Asymmetric และหัวใจที่แกร่งเกินวัย กับ เทิดทูล ทั้งคู่ต่างมีแฟนคลับตามเชียร์กันมากมาย ในรอบแรกสูสีกันแบบตัดสิ้นไม่ได้ ต้องแข่งกันใหม่อีกรอบ เรียกได้ว่าหาข้อผิดพลาดของการขับไม่ได้เลยทั้งคู่ แต่ในรอบที่ 2  “เอส” เป็นผู้ตาม ตรง Clipping Point สุดท้าย “เอส” พลาดไปนิดเดียวทำให้รับอันดับ 2 ไป
ผลการแข่งขัน  Goodyear International Drift Series Round 3
1 เบอร์ 42 เทิดทูล รวยเจริญทรัพย์
2 เบอร์ 5 ชนะพล เกิดเปี่ยม
3 เบอร์ 54 Aleksandar Kantarovski
4 เบอร์ 33 เดชะพล โตยิ่งเจริญ
    มาชมกันต่อกับการแข่งขันสนามที่ 4 เมื่อวันที่ 19  กันยายน 2553 ต้องยอมรับว่าบรรดาผู้ชมทั้งจากกรุงเทพฯ ผู้ชมท้องถิ่น และจังหวัดใกล้เคียง ต่างหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมายจริงๆ เรียกได้ว่าล้นเขื่อนเลยทีเดียว  บรรยากาศความสนุกเกิดตั้งแต่เช้า ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเป็นใจ รถแข่งทั้ง 50 คัน ต่างมุ่งมั่นลงซ้อมเรียกเสียงตบมือจากผู้ชมแต่เช้า แถมในบูท Goodyear ที่ตกแต่งแบบ Modern Motor Sport Style ยังนำยางสมรรถนะสูงหลากหลายรุ่นมากให้สัมผัสกัน พร้อมทั้งนำเสื้อยืดมาให้ผู้ชมได้จับจ่ายกันเพียบ
    หลังเที่ยงเริ่มควอลิฟายคัดเลือกกันให้เหลือ 16 คันสุดท้าย เพื่อ Batter กัน แต่ก่อนจะไปชมก็มีการเปิด Pit Walk ให้ผู้ชมได้สัมผัสใกล้ชิดนักแข่ง ถ่ายรูปขอลายเซ็นต์ และชมรถแข่งทุกๆ คัน ได้เวลาพาเข้าสู่การแข่งขันแล้ว ไปชมไฮไลท์ของรอบ 16 คันก่อน  ในคู่แรก นิธิพัฒน์  ทีม Goodyear กับ สรัญ ฟอร์มดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ สรัญ ในรอบตามขับได้ชิดคันหน้ามาก จนผ่านเข้ารอบไป มาในคู่ที่ 5 Daniel Woolhouse ทีม Goodyear กับ เทิดทูล แชมป์สนามที่แล้ว จุดพลิกผันมาเกิดในรอบที่  Daniel Woolhouse นำ ขณะที่ เทิดทูล ไหลจี้ติดมาถึง  Clipping Point สุดท้าย แล้วกำลังจะแซงทำให้ Daniel Woolhouse ต้องกดคันเร่งเพิ่มเข้าไปอีกเลยพลาดหมุนไป เทิดทูล ผ่านเข้ารอบ มาชมในคู่ที่ 7  ชนะพล จากทีม Goodyear กับ ดิศพงษ์ ในรอบแรก “เอส” ทิ้งห่างเลยทีเดียว แต่ในรอบตาม ยังไม่ทันผ่านโค้งแรก รถ “เอส” เกิดปัญหาเพลาท้ายขาด ไม่สามารถแข่งต่อได้
    มาชมรอบ 8 คันต่อ คู่แรก ดาวิเด กับ สรัญ ต้องบอกว่าลีลาต่างๆ ไม่มีใครเป็นรองใคร จะแพ้กันที่กำลังเครื่อง ทำให้ สรัญ ผ่านเข้ารอบไป คู่ที่ 2 อมรศักดิ์ กับ ชัยยศ คู่ที่น่าจะเป็นคู่ที่มันส์อีกคู่ แต่แค่รอบแรก ชัยยศ เพลาท้ายขาดเลยต้องขอบาย คู่ที่ 3 วัทนพร กับ เทิดทูล เท้าโหดด้วยกันทั้งคู่ ใส่เต็มๆ ไม่มียั้ง แข่งกันถึง 2 รอบ กว่าจะได้ผู้ชนะ คือ เทิดทูล คู่สุดท้าย ดิศพงษ์ กับ สรานนท์ คู่นี้ในรอบแรก ดิศพงษ์พลาดชนถังน้ำที่กำแพงไม่สามารถซ่อมกลับมาแข่งต่อได้จึงแพ้ไป
    รอบ 4 คัน คู่แรก สรัญ กับ อมรศักดิ์ ดุด้วยกันทั้งคู่ไล่กันแบบเผ็ดมันส์ จน สรัญ ผ่านเข้าไปชิงที่  1 คู่ที่ 2 สรานนท์ กับ  เทิดทูล คู่สุดยอดแห่งดริฟท์เมืองไทย ขับกันแบบสุดยอดแห่งลีลา จนในที่สุด เทิดทูล ผ่านเข้าไปชิงที่ 1
    มาดูคู่ชิงที่ 3 ระหว่าง สรานนท์ กับ อมรศักดิ์  คู่นี้แม้อมรศักดิ์จะทุ่มสุดตัว เพราะรู้ว่าเป็นรองทั้งรถและประสบการณ์ แต่ สรานนท์ก็คว้าที่ 3 ไปครองแบบไม่ยาก ปิดท้ายด้วยคู่ชิงที่ 1 ระหว่าง เทิดทูล กับ สรัญ คู่นี้มาแบบม้วนเดียวจบ เพราะเทิดทูล ทำได้ดีทั้งรอบนำและรอบตาม คว้าที่ 1 ครองแบบสบาย
ผลการแข่งขัน  Goodyear International Drift Series Round 4
1 เบอร์ 42 เทิดทูล รวยเจริญทรัพย์
2 เบอร์ 27 สรัญ เสรีธรณกุล
3 เบอร์ 21 สรานนท์ พรพัฒนารักษ์
4 เบอร์ 29 อมรศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ
จบลงไปแล้วกับ Goodyear International Drift Series Round 3-4  ซึ่งต้องบอกว่าประสบความสำเร็จมาก สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมรอบสนามได้ทุกวินาที งานดีๆ แบบนี้ยังไม่ให้ชมอีกในสนาม 5-6 ครับ  ณ วันเดอร์เวิลด์พาร์ค  วันที่ 6-7 พฤจิกายน ศกนี้

{phocagallery view=category|categoryid=124|limitstart=0|limitcount=0}

---