Hans Zimmer ชายผู้สร้างปรากฏการณ์แห่งเสียงให้กับ BMW Vision M NEXT
“Hans Zimmer” ชื่อนี้ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี จากผลงานมากมายที่สร้างชื่อเสียงไว้ในโลกแผ่นฟิล์ม กับฐานะของ “นักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์” ซึ่งด้วยเอกลักษณ์ของผลงาน ทำให้ล่าสุด ชายผู้นี้ คือ บุคคลสำคัญของ BMW Vision M NEXT ผู้สร้างปรากฏการณ์ “เสียง” ให้พาหนะแห่งอนาคต
BMW Vision M NEXT ก้าวต่อไปของยานพาหนะแห่งอนาคต
“ประสบการณ์แห่งเสียง” ในรถยนต์สมรรถนะสูง คือ ประสบการณ์ที่สำคัญ เพื่อทำให้ผู้ขับขี่เกิดความประทับใจ เมื่อได้สัมผัสถึงเสียงของเครื่องยนต์ที่หนักแน่น มีเอกลักษณ์ แม้จะเป็นเวลาไม่กี่วินาทีของการขับขี่ แต่สำหรับยานพาหนะแห่งอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมี “ความเงียบ” เป็นเอกลักษณ์แล้ว ส่วนต่อมา คือ ปรากฏการณ์แห่งเสียง (เครื่องยนต์) กลับยิ่งกลายเป็นเรื่องน่าสนใจมากขึ้นไปอีกระดับ ถึงขั้นเกิดกรณีศึกษาว่า แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ควรทำอย่างไร เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และ BMW ได้ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม จากการเปิดตัวคอนเซ็ปต์คาร์ BMW Vision M NEXT ณ กรุงมิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยเชิญนักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์มือทองของวงการฮอลลีวูด “ฮันส์ ซิมเมอร์” (Hans Zimmer) มาร่วมออกแบบ “ประสบการณ์แห่งเสียง” ร่วมกับ เรนโซ วิทาเล (Renzo Vitale) ดีไซเนอร์ด้านเสียงของบริษัท
โดยเสียงดังกล่าว แม้จะถ่ายทอดออกมาให้ได้ยินกันเป็นเวลาสิบกว่าวินาที แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ กลายเป็นที่ฮือฮา และได้รับการกล่าวขานจากสื่อหลายสำนัก ว่าสามารถสร้างความประทับใจ และสร้างประสบการณ์ในเชิงบวกให้กับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
“Hans Zimmer” นักประพันธ์มือทองแห่งวงการฮอลลีวูด
ฮันส์ ซิมเมอร์ เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากวงการฮอลลีวูดในฐานะนักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง ด้วยเอกลักษณ์ในการใช้เสียงดนตรีแบบผสมผสาน ระหว่างดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ กับการบรรเลงด้วยวงออเคสตรา ซึ่งจากชื่อเสียงดังกล่าว ทำให้ “ซิมเมอร์” ในวัย 62 ปี มีผลงานมาแล้วกว่า 100 เรื่อง
ซึ่งที่คุ้นเคยก็ดีก็เช่น ผลงานที่เป็นที่รู้จัก รวมถึง Driving Miss Daisy, Thelma & Louise, As Good as It Gets, Pirates of the Caribbean, Inception, Interstellar นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากถึง 17 ครั้ง และได้รับรางวัลออสการ์จากเรื่อง The Lion King รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำจากเดียวกัน และ Gladiator (ปี 2543) ด้วย
สำหรับการมาร่วมงานกับ BMW นั้น วิทาเล ดีไซน์เนอร์ด้านเสียง ได้เปิดเผยถึงโจทย์ของ BMW ว่า นอกจากความไพเราะแล้ว ยังต้องสามารถสะท้อนความหนักแน่นของการเป็นยานพาหนะที่กำลังขับเคลื่อนผู้คนไปสู่จุดหมายได้ด้วย ซึ่งโจทย์ข้อนี้ไม่เพียงทำให้ ฮันส์ ซิมเมอร์ รู้สึกท้าทาย แต่ยังทำให้เขาย้อนนึกถึงประสบการณ์ในวัยเด็กที่เขาเองมีความคุ้นเคยกับ BMW ด้วยเช่นกัน
โดยซิมเมอร์เล่าว่า เมื่อครั้งเป็นเด็ก เขามักใช้เสียงเครื่องยนต์เป็นผู้ช่วยในการจำแนกว่าใครที่กำลังขับรถเข้ามาในบ้าน ถ้าเสียงเป็นรถ BMW นั่นหมายถึงคนที่ขับเข้ามาก็คือแม่ของเขานั่นเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ BMW ในการออกแบบเสียงของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่จะขับเคลื่อนประสบการณ์ด้านการขับขี่ในยุคต่อไป และทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความน่าทึ่ง โดยเฉพาะในเวลาที่ผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง โดยมี “เสียง” ที่กระหึ่ม มาช่วยสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ให้น่าประทับใจ
ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า “ประสบการณ์แห่งเสียง” ได้ถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์สำคัญที่ค่ายรถยนต์จำนวนมากให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยานยนต์ในอนาคตที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า และความท้าทายนี้ได้พิสูจน์แล้วโดย BMW ว่าพวกเขาสามารถผนวกเสียงเข้าไปเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ของผู้ขับขี่อย่างไรให้เกิดภาพที่ลงตัว โดยมีผลงานของ ฮันส์ ซิมเมอร์ เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด