กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมต้านภัยโควิด-19 ระลอกใหม่ ผลิตและบริจาคนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก 1,000 ชิ้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ และให้การรักษาแก่ผู้ป่วย พร้อมบริจาคเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ 100 ตัว รวมมูลค่า 40 ล้านบาท มอบแก่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมต้านภัยโควิด-19 ระลอกใหม่ ผลิตและบริจาคนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก
ในช่วงปลายปี 2563 บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนชาวไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง และเหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาและผลิต หน้ากากแรงดันลบและบวก ซึ่งเป็นหน้ากากที่ใช้สวมใส่เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด-19 ที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ 2 รูปแบบ ทั้งสำหรับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดจากเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบ ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้ผลิตและส่งมอบไปยัง 96 โรงพยาบาลทั่วประเทศไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2563 โดยครั้งนี้ กองทุนฮอนด้าฯจะทำการผลิตและบริจาคหน้ากากแรงดันลบและบวก จำนวน 1,000 ชิ้น พร้อมเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า จำนวน 100 ตัว รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท โดยจะเตรียมส่งมอบให้แก่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “หลังจากที่กองทุนฮอนด้าฯ ได้ทำการผลิตและส่งมอบเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งที่ทีมวิศวกรของฮอนด้าทีมเดิมไม่หยุดนิ่ง แต่ได้ริเริ่มคิดต่อยอดและนำเสนอโครงการใหม่กับทางกองทุนฮอนด้าฯ โดยใช้เวลาสร้างสรรค์ต้นแบบและพัฒนารวม 4 เดือน สู่นวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก ซึ่งเป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีฟิลเตอร์ HEPA ระดับ H14 ที่สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน และระบบ Microcontroller ในการควบคุมความเร็วของพัดลมมาใช้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบา และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 4 – 6 ชั่วโมง โดยนวัตกรรมนี้ จะถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทันกับการใช้งานจริงในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และคนไทย ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน”
ผศ.นพ.อนุแสง จิตสมเกษม รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่า “หน้ากากแรงดันลบและบวก ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ดำเนินการพัฒนาและผลิตขึ้นมา ผ่านการทดสอบมาตรฐานของอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยหน้ากากฯ นี้ สามารถปรับความดันได้ทั้งแบบบวกและลบ ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในครั้งนี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งหน้ากากแรงดันบวก หรือ PAPR (Power Air Purifying Respirator) เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดหรือผู้ป่วยทางเดินหายใจอื่นๆ ซึ่งปัจจุบัน ในประเทศไทยมีรวมกันไม่ถึง 5,000 ชิ้น ดังนั้น หน้ากากฯ ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้พัฒนาและผลิตขึ้นมา จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้กับบุคลากร
ทางการแพทย์และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีความพิเศษตรงที่ยังสามารถปรับความดันให้เป็นลบเพื่อใช้สำหรับขนย้ายผู้ป่วยได้ ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการรักษา”
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย ต้านภัยโควิด-19 โดยได้ดำเนินการผลิตและส่งมอบเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบ (Negative Pressure Mobile Bed) จำนวน 100 เตียง และได้ส่งมอบร่วมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ให้แก่โรงพยาบาล 96 แห่งทั่วประเทศ รวมมูลค่า 40 ล้านบาท ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศไปแล้วนั้น และเมื่อผนวกรวมกับครั้งนี้ หน้ากากแรงดันลบและบวกป้องกันโควิด-19 จำนวน 1,000 ชิ้น จะถูกผลิตและนำไปบริจาคพร้อมกับเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ 100 ตัว รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ที่จะส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เมื่อรวมความช่วยเหลือที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้มอบให้แก่สังคมไทยเพื่อร่วมต้านภัยโควิด-19 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านบาท
โดยลูกค้าผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ล้วนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้ ผ่านการสมทบทุนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ ทางกองทุนฮอนด้าฯ พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยและให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปได้ด้วยดีอีกครั้ง และจะไม่หยุดการพัฒนาที่มอบประโยชน์สุขให้กับคนไทย ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่า เพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป