สัมผัสการขับเคลื่อนแห่งอนาคต จากบูธ Honda ณ งาน Japan Mobility Show 2023 ประเทศญี่ปุ่น
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ตรึงพื้นที่สุดอลังการในงาน Japan Mobility Show 2023 โดย Honda ได้นำเสนอเทคโนโลยี การขับเคลื่อนแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “Honda Dream Loop” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ล้ำสมัย ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ และเพิ่มคุณค่าให้ผู้บริโภคในการ “ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เช่น เวลา และสถานที่” ตลอดจน “เพิ่มพูนศักยภาพ และโอกาส” ให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแห่งอนาคต
โดยในงาน Japan Mobility Show 2023 ครั้งนี้ นาย โทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า “The Power of Dreams – How we move you คือ Global Brand Slogan ซึ่งต้องการถ่ายทอดข้อความที่ว่า ความฝันของพนักงานฮอนด้าทุกคน เป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ฮอนด้ามาโดยตลอด
ในขณะที่หลากหลายผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อน และบริการที่ฮอนด้าสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยพลังแห่งความฝันเหล่านี้ สามารถนำพาผู้คนไปยังที่ต่างๆ ขับเคลื่อนหัวใจของผู้คน และช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความฝันของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่อีกมากมายในอนาคต
ฉะนั้นแนวคิดหลักของบูธในปีนี้ คือ “Honda Dream Loop” ที่สะท้อนให้เห็นถึงอนาคต อันเปี่ยมด้วยความฝันที่หลากหลายของผู้คน และจะยังคงแผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งที่รวบรวมความฝันของฮอนด้าเอาไว้ เพื่อช่วยให้ผู้คน “ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เช่น เวลา และสถานที่” ทั้งยัง “เพิ่มพูนศักยภาพ และโอกาสให้ทุกคน” ซึ่งถือเป็นคุณค่าสำคัญที่ฮอนด้านำเสนอมาตลอด 75 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และจะยังคงเป็นคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ที่ฮอนด้ามุ่งมั่นนำเสนอ เพื่อให้ผู้คนได้รับความสุข และอิสระในการเดินทางต่อไปในอนาคต”
สำหรับนวัตกรรมขับเคลื่อนที่เป็นไฮไลต์ในงาน Japan Mobility Show 2023 จะประกอบไปด้วย “ผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการขับเคลื่อน ที่ช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เช่น เวลา, สถานที่ และทรัพยากรที่มีจำกัด” เช่น Cruise Origin ยานพาหนะอัตโนมัติที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของเวลา เพราะพื้นที่ภายในของยานพาหนะคันนี้ได้มอบความเป็นส่วนตัอย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถใช้เวลาเดินทางได้อย่างอิสระมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุม หรือการใช้เวลาอย่างสนุกสนานกับครอบครัว โดยไม่ต้องกังวลกับคนอื่นรอบข้าง
เพราะยานพาหนะคันนี้ จะช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดของเวลา ให้ผู้คนใช้เวลาที่มีจำกัดได้อย่างเท่าเทียมกันตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และ 365 วันต่อปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถทำในสิ่งที่มีประโยชน์มากขึ้น เปรียบเสมือนการมอบคุณค่าอันมหาศาลให้กับผู้คน โดย Cruise Origin จากการร่วมมือของ ฮอนด้า, GM และ Cruise ได้วางแผนที่จะเปิดตัวบริการเรียกรถไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มให้บริการภายในต้นปีพ.ศ. 2569
พลาดไม่ได้เลย คือ Honda eVTOL และ Honda Jet ต่อยอดการขับเคลื่อนในรูปแบบ 3 มิติสู่ท้องฟ้า เพื่อช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดของสถานที่ และระยะทางได้ เพราะหากผสานการทำงานของเครื่องบินเหล่านี้ เข้ากับระบบการขับเคลื่อนภาคพื้นดิน จะทำให้ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ และราบรื่นไร้รอยต่อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาคพื้นดิน ในมหาสมุทร หรือบนท้องฟ้าก็ตาม
ทั้งยังทำให้อุปสรรคที่ผู้คนต้องเผชิญในการเดินทางระยะไกลลดลง และเอื้ออำนวยให้ผู้คนสามารถย้ายไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ชานเมือง ซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และไปทำงานในเมืองตามความจำเป็นได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ “ก้าวข้ามข้อจำกัดของสถานที่ และระยะทาง” เพื่อปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัว และการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ตัดมาที่ Sustina-C Concept อีกหนึ่งความน่าสนใจ ซึ่งช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยเพราะการเป็นรถยนต์ที่ทำจากเรซินอะคริลิก แบบสามารถรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพราะการหมุนเวียนทรัพยากรในลักษณะนี้ จะช่วยให้เราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความสุข และอิสระในการขับเคลื่อนสู่อนาคตได้อีกด้วย
ส่วนต่อมา คือ “กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อน ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพ และความเป็นไปได้ของผู้คน” ไล่เรียงด้วยด้วย Honda Avatar Robot กับความสามารถในการสั่งงาน และควบคุมได้จากระยะไกล สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนที่อันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงาน และสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ได้ราวกับอยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับ UNI-ONE อุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัว ขณะนั่ง โดยไม่ต้องใช้มือ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานต่างๆ ขณะเคลื่อนที่ได้
อีกทั้งยังมี Honda CI-MEV รถยนต์ขนาดเล็ก ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ช่วยเพิ่ม และขยายขอบเขตการใช้ชีวิตของผู้คนได้อย่างไร้ขอบเขต เพราะว่าการขับรถ และการเดินอาจกลายเป็นเรื่องยากสำหรับผู้สูงอายุ ตลอดจนผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีรถสาธารณะให้บริการ
ฉะนั้นคนกลุ่มนี้มักจะมีขอบเขตการดำรงชีวิตที่จำกัด ทำให้หากมีผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอการขับเคลื่อนซึ่งเข้าถึงได้ง่าย ผู้คนก็สามารถไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น สร้างโอกาสให้ไดพบปะผู้คนใหม่ๆ และฮอนด้าเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสของผู้คนได้อย่างมากที่สุด
ท้ายสุดที่พลาดไม่ได้ คือ Prelude Concept ยนตรกรรมสปอร์ต ที่จะมาบุกเบิกอนาคตแห่งขุมพลังการขับเคลื่อน ด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ สุดเร้าใจ ที่ทำให้คุณอยากที่จะขับ และรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ด้วยจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ต และไม่เพียงแค่การจัดแสดงยานยนต์ในฝันแห่งอนาคตเท่านั้น แต่ฮอนด้ายังเชิญชวนให้ผู้เยี่ยมชมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งฝัน (Dream Loop) อีกด้วย
จากการที่ฮอนด้าเริ่มนำ Generative AI มาใช้ช่วยงานด้านการออกแบบ ในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งในงาน Japan Mobility Show 2023 ครั้งนี้ Generative AI จะสร้างภาพการขับเคลื่อนในอนาคตที่ใฝ่ฝัน และแสดงภาพขึ้นมาบน “Loop Screen” ภายใน ที่ต้องบอกเลยว่าน่าตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก จนเราอยากจะให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองไทย เพื่อให้สาวก ฮอนด้า ได้ร่วมสัมผัสความฝันในอนาคตด้วยกัน