วิธี เอาตัวรอด เมื่อ รถจมน้ำ
เป็นข่าว และไม่เป็นข่าวสำหรับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่เกี่ยวกับรถจมน้ำ แต่ที่เกิดเป็นข่าวดังขึ้นมานั้น ก็มาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ จึงทำให้เป็นอุทธาหรณ์ ตระหนักคิดกันว่า จะทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดนี้ และหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผู้ขับขี่ รวมถึงผู้โดยสารที่อยู่ในรถด้วย จะมีวิธีการ เอาตัวรอด อย่างไร เพื่อบรรเทาความสูญเสียจนถึงขั้นเสียชีวิต จากเหตุ รถจมน้ำ
ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นตอนการเอาตัวรอด จากเหตุรถจมน้ำ นั้น เราไปตั้งข้อสังเกตร่วมกันก่อนว่า ทำไมถึงมี เหตุ ให้รถต้องตกลงไปในน้ำลึก ในระดับที่ท่วมคันรถได้
อุบัติเหตุ คือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น “สาวไฮโซ ขับกระบะจมน้ำ” อย่างเหตุการณ์นี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีคู่กรณีใดๆ ที่ทำให้เกิดเหตุ แต่เกิดจากผู้ขับขี่เองล้วนๆ ซึ่งน่าจะมาจากการ ประเมิณสถานการณ์ที่ผิดพลาด เนื่องมาจากการขาดทักษะในการประเมิณความตื้นลึกของแอ่งน้ำด้านหน้า ถ้าว่ากันตามเหตุและผล กรณีเช่นนี้ยังมีความเสี่ยงที่ไม่สูงนัก ในการจะเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ลักษณะนี้
อีกตัวอย่างที่ไม่เอ่ยถึงเลยไม่ได้ เพราะเพิ่งเกิดเหตุแบบหมาดๆ ไม่นานมานี้เอง กับอุบัติเหตุรถชนกันแล้วมีรถคันนึงเสียหลักชนขอบทางแล้วพลัดตกลงไปในคลอง กรณีนี้จัดว่ามีอัตราความเสี่ยงสูงกว่ากรณีแรกอย่างมาก ในการที่จะเอาตัวรอดจากรถที่กำลังจมน้ำ เพราะเหตุเกิดเพียงแค่เสี้ยววินาที และเป็นเหตุการณ์ซ้อนเหตุการณ์ จึงมีเวลาที่จะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ไม่มาก
ถ้ารถตกน้ำจะ เอาตัวรอด จาก รถจมน้ำ ได้อย่างไร
1. สติ คือสิ่งที่ผู้เขียนย้ำเตือนอยู่ตลอด ซึ่งการจะมีสติได้ ต้องมาจากการขับรถอย่างมีสมาธิ ขับรถคือขับรถ ต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีมากขึ้น อย่างกรณีแรกจัดว่า สติ สำคัญมาก เพราะนี่คือการจงใจขับลุยน้ำ แม้จะประเมิณความลึกของน้ำไม่ถูกต้องก็ตาม แต่ถ้ามีสมาธิแต่ต้นว่ากำลังขับผ่านน้ำ ก็ยังพอจะมีทางเลือกที่จะเอาตัวรอดไม่ทางใดก็ทางนึง ส่วนกรณีที่สองนั้นถือเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้รถตกลงไปในน้ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสังเกตดีๆ ในจังหวะที่มีการชนกันของรถสองคัน ถ้าผู้ขับมีสติ (มากกว่านี้) อันมาจากความชำนาญในการขับขี่ด้วย ก็จะต้องเหยียบเบรก หรือทำให้รถมีการชะลอลงในขณะปะทะกัน
2. รีบเปิดกระจก เพื่อให้น้ำเข้ามาในรถ เพื่อลดแรงต้านให้สามารถเปิดประตูเพื่อนำพาตัวเองออกจากรถ กรุณาอย่าเป็นห่วงทรัพย์สินในรถ เอาตัวเองให้รอดก่อนในวินาทีเป็นวินาทีตายที่กำลังเกิด
3. ทุบกระจก เพื่อให้สามารถออกจากรถได้ วิธีนี้ก็เหมือนข้อที่ 2 หากข้อ 2 ทำไม่สำเร็จ อันเนื่องมาจากไฟลัดวงจรไปแล้ว กระจกไม่สามารถเปิดได้ การที่จะออกจากรถได้ก็คือ ทุบกระจกหน้าต่างให้แตก ซึ่งความยากมันอยู่ตรงที่ “อุปกรณ์” น้อยคนนักจะมีอุปกรณ์สำหรับทุบกระจก หากไม่มีติดรถ คงต้องถอดหมอนรองคอที่เบาะเอาออกมาทุบ แต่เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถ้ามีเวลาก็ลองซื้อหามาติดรถไว้บ้างก็ดี
คงไม่มีวิธีใดจะดีไปกว่าการมีสติให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพยายามดิ้นรนเอาตัวออกจากรถให้ได้ หากเข็มขัดนิรภัยปลดไม่ออก ก็ต้องตัด ถ้ามีคัตเตอร์ติดไว้ใกล้ๆ มือก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งหมดนี้เราป้องกันได้หากขับรถอย่างมีสมาธิ และใช้สติในการขับขี่