เอาใจสาวๆ เปิดตำราพิชิต “หน้าเด็ก”
ว่ากันว่า คนที่มีหน้าเด็ก อ่อนกว่าวัย คือคนที่มีแต้มบุญสูงมาก วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับดีๆ มาบอกต่อเพื่อน I AM CAR กันค่ะ สำหรับ ‘ตำราพิชิตหน้าเด็ก’ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ แต่อายุผิวจะหยุดอยู่เท่าเดิม เรามาเริ่มศึกษาตำราทั้ง 5 บทไปพร้อมกันดีกว่าค่ะ
LESSON 1 : เคลียร์เมคอัพไม่จบ ไม่มีสิทธิ์นอน
นี่เป็นบทเรียนสุดเบสิกและเป็นพื้นฐานของการมีผิวสวยสุขภาพดี ที่เชื่อว่าหลายคนรู้แต่แกล้งลืม เพราะสาวออฟฟิศหลายคน ทำงานหนัก กลับบ้านมาก็ดึก มีความเพลียมหาศาล พร้อมทิ้งตัวแรง ๆ บนที่นอน แต่เมคอัพสุดแน่นยังอยู่บนหน้า และยิ่งใครที่ชอบแต่งหน้าหนัก ๆ ยิ่งเกิดผลลัพธ์ในทางที่แย่แบบทวีคูณ แบบนี้ไม่ดี ไม่เอานะคะ เพราะสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขนเราจนผิวหายใจไม่ออก เมื่อผิวขาดออกซิเจนก็จะสร้างความแห้งเหี่ยว ริ้วรอย และสิวขึ้นมา ถ้าอยากหน้าดูเด็ก ต้องรีบหยิบคลีนเซอร์มาลบด่วน ๆ เสียเวลาลบเครื่องสำอางไม่กี่นาที แต่ริ้วรอยเกิดขึ้นมาแล้วจะอยู่กับเรานาน อยู่ที่สาว ๆ แล้วล่ะว่าจะเลือกสบายหรือสวยมากกว่ากัน
LESSON 2 : เลือกกินให้เป็น
ผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กันนั้นเข้าใจได้ แต่ถ้าติดหวานมาก ปรุงอาหารต้องน้ำตาลหลายช้อน ตามด้วยของหวานต่อทุกมื้อ ก็ไม่โอเคนะ เพราะน้ำตาลจะทำให้อัตราการผลิตคอลลาเจนของผิวลดลง นำมาซึ่งผิวที่เหี่ยว เกิดริ้วรอยง่าย แถมยังมีความเป็นกรดสูง จึงทำให้ผิวอักเสบและทำให้สิวเห่อขึ้นได้อีกนะ อยากให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดู เลี่ยงของมัน ของทอด หรือ Junk Food เพลา ๆ เรื่องคาเฟอีน ลดแอลกอฮอล์ แล้วหันมาทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แป้งบ้าง ผักผลไม้เยอะหน่อย อย่างบลูเบอร์รี่ มีสรรพคุณที่ช่วยชะลอวัยได้ ทานวิตามินอีช่วยเสริมอีกสักหน่อย และอย่าลืมพยายามดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทานแบบนี้ล่ะลงตัวสุด ๆ ผิวหน้าจะกลับมาสดใส เปล่งปลั่งแบบที่ต้องการ
LESSON 3 : เลือกสกินแคร์กลุ่ม Anti-Aging มาปราบริ้วรอย
สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ สกินแคร์กลุ่ม Anti-Aging บอกเลยไม่ใช่รอให้ริ้วรอยเกิดถึงค่อยเริ่มใช้ แนะนำว่าช่วงอายุเลย 25 ปี ต้องมีอยู่บนโต๊ะเครื่องสำอางแล้ว เพราะช่วงวัยทำงานเราจะมีโมเมนต์ที่แสดงสีหน้าเยอะ โดยเฉพาะความเครียด ที่ทำให้เราต้องขมวดคิ้ว หน้าผากย่น ริ้วรอยพวกนี้มันจะเป็นเส้นบางมาก ๆ เราอาจจะยังมองไม่เห็น แต่มันจะลึกขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่รีบหาตัวช่วยที่เหมาะมาบำรุง ดังนั้นเราต้องเลือกสกินแคร์สูตรที่เข้มข้นและมีนวัตกรรมที่ช่วยได้อย่างตรงจุด
LESSON 4 : เลือกทาครีมกันแดดปกป้องผิว
หลังจากทาเซรั่มบำรุงช่วยปราบริ้วรอยแล้ว ต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดป้องกันรังสียูวีตอนเช้าทุกครั้งก่อนออกจากบ้านด้วยนะสาว ๆ จะเลือกทาเฉพาะช่วงซัมเมอร์หรือตอนออกไปเที่ยวไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าแดดประเทศไทยแรงตลอดทั้งปี และรังสียูวีในแสงแดดจะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ทำลายคอลลาเจนในผิว ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาได้ง่าย เรียกได้ว่าแสงแดดเป็นตัวร้ายคอยทำลายผิวหน้าเด็กของเราเลยนะเนี่ย ส่วนค่า SPF ที่เหมาะสมต้องเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมนั้น ๆ ด้วยน้า สำหรับค่า SPF ที่แนะนำเหมาะแก่การทาทุกวัน คือ SPF 50 และถ้าระหว่างวันเราต้องเผชิญกับแสงแดดที่แรงมาก ๆ ก็อย่าลืมพก ร่ม หมวก แว่น ไปด้วย ก็สามารถช่วยปกกันแสงได้อีกทางหนึ่ง
LESSON 5 : เลือกเวลานอนให้เร็ว
เพิ่มเวลาให้ผิวได้ฟื้นฟู รู้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้สาว ๆ ทุกคนหาเวลาให้ตัวเอง นอนพักผ่อนให้พอวันละ 7-8 ชม. เพราะร่างกายจะสร้างฮอร์โมนขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในขณะที่เราหลับ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ 4 ทุ่ม ยิ่งนอนเร็ว ผิวของเราก็มีเวลาในการฟื้นฟูได้นานยิ่งขึ้น และท่านอนที่ดีที่สุดคือ การนอนหงาย พยายามอย่านอนตะแคง หรือนอนคว่ำ จะทำให้ผิวของเราเกิดการกดทับบนหมอนจนทำให้เกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นคนติดนอนตะแคงจริง ๆ ลองฝึกนอนตะแคงในลักษณะแหงนหน้าขึ้นแบบนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้เหมือนกัน
ขอบคุณข้อมูล : wongnai.com