การเลือกน้ำมันหอมระเหย “อะโรมาเธอราพี” (Aromatherapy) ::: สำหรับกรุ๊ปเลือด “โอ”

โพสต์เมื่อ 7 กันยายน 2017 เวลา 23:44 น. หมวดหมู่: สุขภาพ โดย แอน .. ภัทร์ฐิตา

กรุ๊ปเลือด “โอ” เป็นกรุ๊ปเลือดดั้งเดิมของบรรพบุรุษเราที่เป็นนักล่าผู้เหี้ยมโหดและฉลาดแกมโกง ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด “โอ” มักจะสวมบทบาทสำคัญในสังคม ทั้งความเป็นผู้นำ พฤติกรรมในเชิงรุก พลังงานเต็มเปี่ยม และมีความมุ่งมั่น ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดของคนกรุ๊ปเลือด “โอ”

กรุ๊ปเลือด “โอ”

กรุ๊ปเลือด “โอ” “นักบุญ” สามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ป แต่รับได้เฉพาะเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น

บุคลิกนิสัย :  เป็นคนเอาจริงเอาจัง มีความรับผิดชอบสูง มีความเป็นผู้นำสูง เป็นนักวางแผนที่ดี และมีความละเอียดรอบคอบ ชาวกรุ๊ปโอยังมีความกล้าหาญและมีความเข้มแข็ง ไม่เคยท้อแท้เมื่อเจออุปสรรค โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีข้อเสียตรงที่มั่นใจในตัวเองสูง เพราะเป็นคนเก่ง บ่อยครั้งจึงถูกมองว่าเป็นคนหัวรั้นเอาแต่ใจตัวเอง

สุขภาพร่างกาย : กระเพาะของชาวกรุ๊ปโอมีสภาพเป็นกรดสูงกว่ากรุ๊ปอื่นๆ สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ดี และระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพมาก ยังโชคดีที่ไม่อ้วนง่าย สุขภาพค่อนข้างแข็งแรง

อาหารกินดี : เหมาะแก่การย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อปลา และสัตว์ปีก รวมถึงการกินอาหารทะเลกับผักใบเขียวซึ่งอุดมด้วยวิตามิน ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ และลดการเกิดลิ่มเลือด

อาหารหลีกเลี่ยง : ผลิตภัณฑ์จากนมเนยทุกชนิด มันฝรั่ง, ข้าวสาลี, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, พืชตระกูลกะหล่ำ และเห็ดหอม ควรงดกาแฟซึ่งทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมากยิ่งขึ้นแล้วหันมาดื่มชาเขียวแทน ตามตำราระบุว่า ผลิตภัณฑ์จากนมวัวทำให้เกิดอาการแพ้และท้องอืด ส่วนเห็ดหอม มันฝรั่ง และมะเขือยาว ทำให้เกิดโรคไขข้ออักเสบ ร่างกายอ่อนแอได้

กลิ่นบำบัดที่เหมาะกับคนกรุ๊ปเลือด “โอ”

น้ำย่อยในกระเพาะอาหารของคน กรุ๊ปเลือด “โอ” มีความเป็นกรดสูงอยู่แล้ว จึงต้องหลีกเลี่ยงกลิ่นบำบัด หรือน้ำมันหอมระเหยตระกูลส้ม มะนาว มะกรูด เกรปฟรุต ดังนั้นกลิ่นเลือดของคน กรุ๊ปเลือด “โอ” จึงเน้นไปที่กลิ่นใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องอาศัยอยู่บนดินเป็นหลัก เช่น

Thyme Oil น้ำมันหอมระเหยไทม์

มีคุณสมบัติรักษา และกระตุ้นความสมดุลย์ของร่างกาย ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ใช้รักษาผิวผื่อคัน เป็นสิว ผิวอักเสบ หรือนำไปผสมน้ำมันหนวด แก้ปวดเมื่อยจะได้ผลดีมาก แก้ปวดบวมตามข้อ กล้ามเนื้อ โรคเก๊าท์ รูมาติซึม แก้หวัด เจ็บคอ เยื่อบุจมูกอักเสบไซนัส แก้ปวดศรีษะ นอนไม่หลับทำให้ภาวะความดันต่ำดีขึ้น ไม่ควรใช่กับคนท้อง/เด็ก คนที่เป็นโรคความดันสูง และควรใช้ในปริมาณน้อย เพราะอาจระคายเคืองผิว

Sandalwood Oil น้ำมันหอมระเหยจันทร์

น้ำมันมีสีเหลืองอ่อนใสกลิ่น หอมหวานติดทนนาน ให้ความรู้สึกสุขสบาย ช่วยลดความเครียด ผ่อนคลายจิตใจให้สงบเสริมสร้างสมาธิ เป็นส่วนประกอบสำคัญของตำราอายุรเวทอินเดียโบราณในการบำบัดรักษาด้านสมาธิ หรือสามารถนำมาใช้บำรุงผิวเพื่อความชุ่มชื้นสำหรับผู้มีผิวแห้ง ลดการอักเสบป้องกันการติดเชื้อ สมานผิว และรักษาผมที่เสียได้เช่นกัน

Frankincense Oil น้ำมันหอมระเหยแฟร็กกิ้นเซ็นท์

ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิว ลดอาการอักเสบ ทำให้สงบ ช่วยให้เกิดสมาธิ คลายความหงุดหงิดกังวล บรรเทาอาการปวดไซนัส รักษาโรคหอบหืด ปรับสภาพผิวมันลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

Peppermint Oil น้ำมันหอมระเหยสะระแหน่

เป็นพืชที่สกัดน้ำมันโดยวิธีกลั่นด้วยไอน้ำ ใช้อย่างกว้างขวางในอาหาร ยา และเครื่องสำอาง มีกลิ่นหอมเย็น เมื่อสูดดมทำให้โล่งจมูกรู้สึกสดชื่นมีคุณสมบัติช่วยให้เกิดสมาธิ กระตุ้นร่างกายและจิตใจให้ตื่นตัว คลายความล้า ระงับปวด และกระตุ้นกำหนัด ช่วยย่อย ขับลม ฆ่าเชื้อโรค ลดการบวมของเยื่อจมูก ทำให้หลับ

สำหรับบทสรุปแห่งการต้องเลือก… ก็คงเป็นเพราะว่าคนเรานั้นมีกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกกลิ่นบำบัดที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตนเองก็จะช่วยเสริมสุขภาพ สร้างสมดุลย์แห่งชีวิตได้เป็นอย่างดี เรียกว่า เป็นการนวดบำบัดด้วยน้ำมันอโรมาที่ถูกกับจริตร่างกายของเรานั่นเองค่ะ

ที่มาของภาพ : www.google.com