วิธีดูแลสุขภาพเตรียมรับมือ “ฤดูฝน”

โพสต์เมื่อ 12 มิถุนายน 2019 เวลา 20:23 น. หมวดหมู่: สุขภาพ โดย ออกนอกบ้าน

ช่วงนี้ฝนเริ่มตกเรื่อยๆ แล้ว หนุ่มๆ สาวๆ เตรียมพร้อมรับความชุ่มฉ่ำกันหรือยังค่ะ ต่ที่สำคัญอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ระวังเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยกันด้วยนะ วันนี้เรามีวิธีดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูฝนมาฝากกันค่ะ

1. พกร่มสักคันในวันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ

แก้ปัญหาที่ต้นเหตุย่อมดีกว่าการมาป้องกันทีหลัง ฤดูฝนอย่างนี้สาว ๆ ก็น่าจะพกร่มสักคันไว้ข้างตัวนะ เพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้เปียกชื้นจากการถูกน้ำฝน ความเปียกชื้นนี่แหละสาเหตุแรก ๆ ที่ทำให้เราไม่สบายได้เลยล่ะ ป่วยกันทีหนึ่งอาจจะต้องนอนให้คุณหมอกับคุณพยาบาลคอยดูแลกันเลยทีเดียว “การพกร่มไว้ช่วงฤดูฝนจึงเป็นวิธีแรกที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเอง”

2. ถึงอากาศจะชื้นสักแค่ไหนการดื่มน้ำให้เพียงพอก็สำคัญ

แม้ในฤดูฝนจะมีน้ำฝนตกลงมาโปรยปราย และสร้างความชื้นอยู่มาก อากาศรอบ ๆ ตัวเราก็ยังร้อนอบอ้าวอยู่ดี ทำให้สาว ๆ มีการสูญเสียน้ำจากการเหงื่อออกไปไม่น้อย ดังนั้นเราควรดื่มน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและรักษาสมดุลน้ำภายในร่างกายให้เป็นปกติ เพื่อป้องกันภาวะการขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำประมาณ 4% ของน้ำหนักร่างกาย ทั้งจากการเหงื่อออก และการขับปัสสาวะ แนะนำว่าสาว ๆ ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ1.5–2 ลิตร หรือ 6–8 แก้ว ต่อวัน และไม่ควรดื่มครั้งละมาก ๆ ในคราวเดียว ค่อย ๆ จิบทีละนิด เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานของไตและหัวใจนะจ๊ะ

3. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกวันช่วยป้องกันจากภายใน

นอกจากเราจะดูแลร่างกายจากภายนอกแล้วเราก็ต้องดูแลร่างกายจากภายในให้ดี ด้วยการรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นักโภชนาการหลาย ๆ ท่าน แนะนำว่าให้เราเน้นรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ถูกหลักอนามัย เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารที่มาพร้อมกับฤดูฝนนี้อย่างเช่น โรคท้องเสีย โรคอาหารเป็นพิษ เป็นต้น และเมนูดี ๆ สำหรับ ฤดูฝนอย่างนี้ก็ขอแนะนำเมนูที่ทำจากเห็ด เช่น ซุปเห็ด ข้าวอบเห็ด แกงเห็ด เพราะเห็ดมีสารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้การรับประทานผลไม้ก็ช่วยให้ร่างกายของสาว ๆ แข็งแรง โดยเน้นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง รสไม่หวานจนเกินไป เช่นฝรั่ง ส้ม กีวี่ มะละกอที่หาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ในซุปเปอร์มาเก็ต หรือจะเป็นเมนูจากสมุนไพรก็ดีไม่ใช่น้อย เพราะสมุนไพรไทยอย่าง ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง ใบกระเพราต่างก็เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการแก้หวัดคัดจมูกได้ดีอีกด้วย

4. ออกกำลังกายวันละนิดเพียง 30–45 นาที

ถ้าสาว ๆ อยากจะให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพของตัวเองแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้นการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฤดูนี้ เช่นการวิ่ง โยคะ เต้นแอโรบิก กีฬาในร่มต่างๆ ที่ชื่นชอบ การทำเช่นนี้จะทำให้ร่างกายของเราสามารถต้านทานโรคได้ดี แถมยังช่วยลดน้ำหนักอีกต่างหาก เพียงสัปดาห์ละ 4–5 วัน ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการออกกำลังกาย ก็สามารถนำท่าออกกำลังกายต่าง ๆ ไปประยุกต์ให้เข้ากับกิจกรรมที่ทำอยู่ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ

5. ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอแม้ต้องเผชิญกับปัญหา

เคยได้ยินคำนี้ไหมที่ว่า “สุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็จะดีเช่นกัน” ในทางการแพทย์มีการศึกษาและค้นพบว่า สุขภาพจิตนั้นส่งผลโดยตรงกับอารมณ์และสุขภาพร่างกาย ดังนั้นสาว ๆ อย่างเราควรทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสเข้าไว้ ยิ้มให้กับสิ่งต่าง ๆ ไม่เครียดแม้วันมามาก มองโลกในแง่ดี จะทำให้ร่างกายของเรามีการตอบสนองการทำงานที่ดี และสอดคล้องกับระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ความเครียดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราป่วยได้เช่นกันนะ ดังนั้นถ้าสุขภาพจิตของเราแข็งแรง จิตใจแจ่มใส ร่างกายของเราก็จะแข็งแรงตามไปด้วย พูดอย่างนี้แล้วสาวๆ ก็อย่าลืมทำตามด้วยนะ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง

6. นอนหลับให้เพียงพอวันละ 6–8 ชั่วโมง

หลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันจากการทำกิจกรรมและการทำงานมาพอสมควร การผ่อนคลายร่างกายที่ดีที่สุดนั่นก็คือการนอนหลับ เป็นช่วงที่ร่างกายจะนำสารอาหารต่าง ๆ ที่ได้รับตลอดทั้งวันมาทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและฟื้นฟูสภาพร่างกาย สาว ๆ บางคนอาจมีปัญหาเรื่องการนอนหลับยาก เราก็มีวิธีช่วยแก้ไขด้วยการดื่มนมอุ่น ๆ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและเมลาโทนิน(ฮอร์โมนที่ช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น) หรือเครื่องดื่มร้อน ๆ สักแก้วก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก ๆ ที่จะทำให้เราสามารถนอนหลับได้ง่ายมากขึ้น สาว ๆ ก็ควรจัดห้องนอนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ระบายอากาศดี ไม่อับชื้น จะช่วยให้เรานอนหลับได้สบายหายห่วง และควรลดปริมาณการเล่นโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ในช่วงเวลากลางคืนด้วยนะ ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในเวลากลางคืนและไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไป

ขอบคุณภาพและข้อมูล : https://medium.com