เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมแกร่งธุรกิจยูสคาร์ระดับพรีเมี่ยม “Mercedes-Benz Certified” รุกจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านออนไลน์ แพลตฟอร์มเป็นครั้งแรก
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมแกร่งธุรกิจยูสคาร์ระดับพรีเมี่ยม “Mercedes-Benz Certified”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เขย่าวงการรถหรูมือสองส่งท้ายปี เดินหน้าเสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจยูสคาร์ระดับพรีเมี่ยมภายใต้ชื่อ “Mercedes-Benz Certified” (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์ทิฟายด์) รุกจำหน่ายรถผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านออนไลน์ แพลตฟอร์มเป็นครั้งแรกบนเว็บไซต์ www.mercedesbenzcertified.com เน้นจุดแข็งเป็นรถผู้บริหารไมล์น้อย คุณภาพสูง ที่ได้รับการตรวจเช็คสภาพภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก โดยศูนย์ตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกทั้งข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษ และบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ อาทิ เพิ่มระยะรับประกันสูงสุดถึง 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองคุณภาพสูง นอกจากการซื้อรถยนต์มือสองผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่ง ทั่วประเทศ มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท๙ เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“สำหรับภาพรวมธุรกิจยูสคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหากเป็นประเทศที่ตลาดมีความมั่นคงแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และเยอรมนี ขนาดของตลาดยูสคาร์ จะโตกว่าตลาดรถยนต์ใหม่ 3-4 เท่า แต่หากเป็นประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ขนาดของตลาดยูสคาร์จะมีขนาดเล็กกว่า แต่มีอัตราการเติบโตสูง เช่นเดียวกับธุรกิจยูสคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยในปี 2561 ยอดขายรถยูสคาร์ภายใต้โปรแกรม Mercedes-Benz Certified โตขึ้นจากปี 2560 มากถึง 57%”
“ปัจจุบันความต้องการรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมในตลาดยูสคาร์ยังมีอยู่มาก ส่งผลให้ภาพรวมตลาด เซ็กเมนต์นี้มีการเติบโตมาโดยตลอด และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเซ็กเมนต์ที่มีอุปทานจำกัด ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมองหารถยนต์มือสองที่มีอายุการใช้งานน้อยหรือต่ำกว่า 1-2 ปี ซึ่งรถหรูกลุ่มนี้จะมีจำนวนค่อนข้างจำกัดในขณะที่อุปทานที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 3-4 ปีขึ้นไป โดยพฤติกรรมการเลือกซื้อรถหรูมือสองของ ผู้บริโภคในปัจจุบันจะให้ความสำคัญเรื่องความน่าเชื่อถือ ความคุ้มค่า และนิยมมองหาช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย และปลอดภัยในการซื้อ เช่น การซื้อผ่าน e-marketplace ต่างๆ”
“ดังนั้นเพื่อเป็นตอบสนองความต้องการของตลาด และสานต่อความสำเร็จของธุรกิจยูสคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ บริษัทฯ จึงได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจยูสคาร์ภายใต้โปรแกรม ‘Mercedes-Benz Certified’ ด้วยการรุกจำหน่ายรถผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านออนไลน์ แพลตฟอร์มเป็นครั้งแรกบนเว็บไซต์ www.mercedesbenzcertified.com เน้นจุดแข็งเป็นรถผู้บริหารคุณภาพสูงที่ได้รับการตรวจเช็คสภาพภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาส และความสะดวกให้กับลูกค้าในการเข้าถึงรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองคุณภาพสูงได้โดยตรง โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มองหารถเมอร์เซเดส เบนซ์ใช้แล้วคุณภาพระดับพรีเมี่ยม” มร. โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม
ในเฟสแรกของการจำหน่ายรถยูสคาร์บนออนไลน์ แพลตฟอร์ม ภายใต้โปรแกรม Mercedes-Benz Certified บริษัทฯ จะนำร่องด้วยการจำหน่ายรถผู้บริหารจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวนไม่เกิน 30 คัน โดยมีจุดแข็ง คือ รถทุกคันมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 6 เดือนถึง 1 ปี พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญทุกท่านด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง เพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ง่ายขึ้น บริการหลังการขายแบบจุใจ ประกอบด้วยเพิ่มระยะเวลาการรับประกัน 2 ปี จากระยะเวลารับประกันมาตรฐานโดยไม่จำกัดระยะทาง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Mercedes-Benz Star Assist) และหากเกิดกรณีพบปัญหาระหว่างการใช้งานหลังจากรับรถไปแล้ว สามารถส่งคืนรถภายใน 3 วันทำการ พร้อมรับเงินคืนเต็มจำนวน (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)
“การขยายช่องทางการจำหน่ายรถยูสคาร์ระดับพรีเมี่ยมในครั้งนี้ นับเป็นการเติมเต็มทางเลือกให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการโปรแกรม Mercedes-Benz Certified ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มากยิ่งขึ้นต่อจากนี้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบติดต่อเข้าไปที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ หรือจะเข้าไปที่เว็บไซต์ www.mercedesbenzcertified.com เพื่อเลือกว่าจะซื้อรถยูสคาร์โดยตรงจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย หรือจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ นับเป็นการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม” มร. โรลันด์ กล่าวสรุป