Mercedes-AMG G 63 ความแกร่ง ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่

โพสต์เมื่อ 7 พฤษภาคม 2019 เวลา 17:15 น. หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG, The G-Class

Mercedes-AMG G 63 ยนตรกรรมที่ชัดเจนในตัวตนของความเป็น Off-Road สายหรู รวมถึงเป็นการสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ The G-Class โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่สื่อสารถึง “สมรรถนะ” ที่ผ่านฝีมือการปรุงแต่งจาก AMG ได้เป็นอย่างดี … ส่วนสนนรารานั้นแปะป้ายเอาไว้ที่ 14,790,000 บาท

The G-Class Become to … Mercedes-AMG G 63

ดีไซน์ภายนอก คือ สิ่งที่ยังคงแสดงความชัดเจนในอัตลักษณ์ จากการออกแบบที่สะท้อนความเป็น AMG บนรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเบื้องหลัง คือ เหล็กกล้าหลากหลายระดับ เพื่อสร้างความทนทาน และแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55%

ในขณะที่รายละเอียดต่างๆ เช่น สปอยเลอร์, ฝากระโปรงหน้า และประตู เลือกใช้อลูมิเนียมเป็นหลัก พร้อมการติดตั้งหลังคา Sun Roof ระบบไฟฟ้า และเสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยด์ AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่

ส่วนไฟหน้าโดดเด่นด้วยรูปทรงกลม และใช้ระบบ Multibeam LED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูงสุด โดยมีไฟเลี้ยวที่สร้างขึ้นให้เป็นส่วนหนึ่งของตัวถัง

มุมมองด้านหน้าเน้นความดุดันด้วย กระจัง และกันชนหน้าจาก AMG ที่มาพร้อมช่องดักอากาศในด้านข้าง และการประทับตราสัญลักษณ์ AMG สีเงินบนกระจัง และตราสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz แบบ 3 มิติ เช่นเดียวกับในด้านหลังบริเวณฝาปิดยางอะไหล่ที่ทำจากวัสดุสแตนเลส

ในส่วนหลังคาของรถ ทำการเชื่อมต่อกับโครงสร้างตัวถังด้วยกระบวนการเชื่อมโดยใช้แสงเลเซอร์แทนที่การเชื่อมแบบอัด ซึ่งทำให้หลังคามีความเรียบเนียน และแข็งแกร่งกว่าเดิม พร้อมทั้งยังมีการเชื่อมหน้าต่างเข้ากับตัวถังโดยตรงเป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงช่วยลดการสึกกร่อนของกรอบหน้าต่างด้วยเช่นกัน

ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งใหม่ โดยนำเสนอความทันสมัย และมิติที่ใหญ่โต ซึ่งมีตัวเลขความยาวเพิ่มขึ้น 101 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 121 มม. และความสูงที่มากขึ้นอีก 40 มม. ผสานด้วยรายละเอียดที่โดดเด่น เช่น หน้าปัดนาฬิกาแบบ IWC แบบเฉพาะของ AMG ที่ลงตัวกับแผงหน้าปัดทั้งแบบ Analog และแบบ Digital บนหน้าจอ Widescreen ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว

โดยทั้ง 2 หน้าจอนั้นเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว และสามารถแสดงผลได้ 3 แบบคือ Classic, Sporty และ Progressive ซึ่งจะแสดงภาพด้วยระบบ COMAND Online บนจอแสดงผล ที่ควบคุมได้จากบนมีพวงมาลัย AMG Performance หุ้มหนัง Nappa ตัดสลับ DINAMICA Microfibre นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์ช่องแอร์เป็นทรงกลม เพื่อรักษา Theme เดียวกันชุดไฟหน้า และชุดไฟแสดงสถานะของรถบนแผงคอนโซลอีกด้วย

ส่วนในเรื่องของความสะดวกสบายนั้นยังคง “จัดเต็ม” เช่นเคย ตั้งแต่ เบาะนั่งที่เลือกใช้หนัง Nappa และมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบจดจำการปรับตั้งค่าเบาะที่นั่ง, ระบบอุ่นเบาะสำหรับทุกคนในห้องโดยสาร ไปจนถึงเครื่องเสียงรอบทิศทาง Burmester^® Surround Sound System และระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี ตลอดจนความอเนกประสงค์ อย่างเบาะหลังที่สามารถพับลงได้ 3 ตอน คือ 40%, 60% และ 100%

“สยบ” ทุกอุปสรรค ด้วย แรงขับเคลื่อน “ทรงพลัง”

ใต้ฝากระโปรงของ G 63 คือ ขุมพลังเบนซินบล็อกใหญ่ในพิกัด V8 ขนาด 4.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Biturbo ที่ส่งมอบพละกำลังสูงสุดให้ใช้ในระดับ 585 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงถึง 850 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift TCT 9 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในอัตราส่วนหน้า-หลังที่ 40-60 พร้อมการรองรับด้วยระบบช่วงล่าง AMG Ride Control ที่สามารถปรับได้ตามสไตล์การขับขี่ และสภาพถนนจาก 3 โหมดหลักๆ คือ Comfort, Sport, และ Sport+

ส่วนอัตราเร่งนั้นไม่ธรรมดาด้วยตัวเลข 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที และท็อปสปีดสูงสุดที่จำกัดไว้ 220 กม./ชม. ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้นถูกเคลมไว้ที่ 13.1 กม./ลิตร พร้อมความสะอาดที่ระดับ 299 กรัม/กม. ทั้งยังเปี่ยมด้วยตัวช่วยด้านความปลอดภัยในการขับขี่จากเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ และระบบ Active Braking Assist ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก