Mercedes AMG GT3 2020 พร้อมอาละวาดกับการปรับเทคโนโลยีใหม่
ในรายการ 24 Hr of Nurburgring 2019 เราได้เห็นโฉมตัวแข่งตัวแรงจากค่ายหรูดาวสามแฉกกันไปแล้วในรุ่น Mercedes AMG GT3 ซึ่งได้มีการปรับนู่นนิด นั่นหน่อย พร้อมใส่ความไฮเทคเพิ่มเข้ามา เรียกได้ว่าเป็นการในรายการ 24 Hr of Nurburgring 2019 เราได้เห็นโฉมตัวแข่งตัวแรงจากค่ายหรูดาวสามแฉกกันไปแล้วในรุ่น Mercedes AMG GT3 ซึ่งได้มีการปรับนู่นนิดพัฒนาเพิ่มเติม จนได้ GT3 ที่ก้าวไปสู่ระดับใหม่
การที่จะเขย่าคู่แข่งให้สยบ ต้องเริ่มกันตั้งแต่ภายนอกที่ทำให้ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าใหม่แบบแนวซี่ตั้ง ที่ดูห่างเพื่อเปิดรับอากาศแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ต่อเนื่องไปจนถึงไฟหน้าที่มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการปรับแก้กันชนหน้า และกันชนหลังให้ดูพริ้ว กลมกลืน และปราดเปรียวยิ่งขึ้น
สำหรับในส่วนของภายในห้องโดยสารนั้น ทางเมอเซเดสไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรมาก ยังคงไว้ในรูปแบบเดิมๆ อยู่
ทางด้านเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของสมรรถนะ ทางวิศวกรได้ออกแบบฟังก์ชั่น Drop Start ซึ่งถือเป็นออปชั่นใหม่ โดยเครื่องยนต์จะถูกสตาร์ทเองโดยอัตโนมัติทันที เมื่อตัวรถถูกปล่อยลงจาก Air Jack เป็นการลดเวลาในการออกตัวเมื่อต้องเข้าพิท
นอกจากนี้ทางวิศวกรยังใส่ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีเข้าไป รวมไปถึงระบบเบรกแบบใหม่ที่ลดอาการล้อล็อก รวมถึงกรองอากาศแบบใหม่ด้วยเช่นกัน
ในระดับแข่งขันทั้งหมดใส่มายังไม่เพียงพอ Mercedes AMG GT3 ยังได้ถูกติดตั้งระบบวิเคราะห์เวลาทำงานของชิ้นส่วนในรถ และบันทึกเก็บเป็นข้อมูลได้ โดยเคลมไว้ว่า ว่านี่คือรถแข่งรุ่นแรกของโลกที่ใช้ระบบดังกล่าว เพราะเป็นเสมือนการจดบันทึกที่แม่นยำจากคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองกำลังคนในทีม
ซึ่งทีมเซอร์วิสสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่า ชิ้นส่วนไหนควรเปลี่ยนได้หรือยัง หรือชิ้นไหนยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยน ทำให้เกิดความรวดเร็ว แม่นยำ และไม่พร่ำเพรื่อ
ผลจากการคิดวิเคราะห์สร้างสรรค์เจ้า Mercedes AMG GT3 คันนี้นอกจากความพยายามทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ผลพลอยได้ส่วนนึงจากการพัฒนาเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.3 ลิตร ยังช่วยให้วิ่งได้ระยะไกลขึ้น
ตัวแข่งระดับเทพบนสนาม Nurburgring น่าจะเริ่มส่งมอบได้ปลายปีนี้ สนนราคาก็ไม่ระคายผิวเศรษฐีบ้านเราเท่าไหร่ประมาณ 399,000 ยูโร หรือหากใครที่มี GT3 ครอบครองไว้อยู่แล้ว จะซื้อแพ็คเกจที่ปรับปรุงเพิ่มนี้ก็ทำได้ด้วยเช่นกัน