ประชันความ “คุ้ม” … ยนตรกรรมสายหรูแห่ง “เมืองเบียร์” ใน Motor Show 2019
“สมรรถนะ” ที่น่าหลงใหล และ “ศักดิ์ศรี” แห่งฐานะ “ยนตรกรรมยุโรป” คือ สิ่งที่ทั้ง BMW และ Mercedes-Benz สร้างความภาคภูมิใจให้ผู้ครอบครองมานับแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในสาวกของทั้ง 2 แบรนด์ จนแอบไปเดินเล่นชมทั้ง 2 บูธในงาน Motor Show 2019 อยู่บ่อยๆ พร้อมด้วยปณิธานอันแน่วแน่ที่ว่า ถ้าถูก “ล็อตเตอรี่” เต็มๆ จะ “สอย” ไปจอดที่บ้านให้หายอยาก
หากแต่ยังเลือกไม่ถูก เช่นเดียวกับที่เราเดาว่าผู้ซื้อหลายคนคิดเหมือนกัน เพราะงั้นจะ “ควงสาวเยอรมัน” แบรนด์ดัง “พิมนิยม” กลับบ้านทั้งที งานนี้คงต้อง “สำรวจ” กันเยอะหน่อย เพราะทั้งคู่ต่างก็มีความ “เร้าใจ” ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในเรื่องของ “ราคา” และ “โปรโมชั่น” ฉะนั้นเราเลยหยิบมาเทียบกันชัดๆ เพื่อดูว่าแบรนด์จัดให้แบบ “คุ้มๆ”
เริ่มสำรวจจาก Entry Level สู่ Mid Size Sedan และจบที่ SUV
เปิดประเด็นกับรถพิกัดเล็กสุดของทั้ง 2 ฝั่ง … มาดูกันว่าแบรนด์ไหนมี “ตัวเลือก” ได้น่าสนใจกว่า เริ่มจาก BMW ที่ได้เปรียบ ด้วย “ของใหม่” สไตล์ตัวถัง Sedan รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวแบบสดๆ ร้อนๆ ในงาน 2 รุ่น และสไตลตัวถังแบบ GT (Gran Turismo) รวมๆ แล้ว 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 320d Sport ราคา 2.929 ล้านบาท, 330i M Sport ราคา 3.329 ล้านบาท, 320d GT Luxury ราคา 2.669 ล้านบาท และ 320d GT M Sport ราคา 2.969 ล้านบาท
ในขณะที่ฝั่ง Mercedes-Benz ยังคงตรึงแนวรบด้วย The C-Class 4 รุ่นย่อย โดยแบ่งเป็น 3 ตัวถัง Sedan คือ C 220 d Advantage ราคา 2.379 ล้านบาท, C 220 d Exclusive ราคา 2.69 ล้านบาท และ C 220 d AMG Dynamic ราคา 2.899 ล้านบาท ตามด้วยอีก 1 ตัวถังสปอร์ตรุ่น C 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 3.45 ล้านบาท
เรียกได้ว่ากลุ่มนี้ “ราคา” พอฟัด พอเหวี่ยง กันเลยทีเดียว ซึ่งความน่าสนใจคงต้องยกให้กับ “คู่เดือด” ที่มีส่วนต่างด้านราคาแบบ “บางๆ” อย่าง 3-Series ตัวท็อปรุ่นล่าสุด ที่เน้นอารมณ์ความสปอร์ตในการขับขี่ โดยที่ค่ายดาวสามแฉกนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่รุ่นท็อปเช่นกัน กับความหล่อเหลาของตัวถังสไตล์ Coupe ทำให้แมทช์ปะทะนี้ ผู้ซื้อต้องถามใจตัวเองก่อนล่ะครับว่าอยากได้สไตล์ไหน ระหว่าง “ของใหม่” กับ “สายประตูน้อย”
อีกหนึ่งกลุ่มที่เรียกว่ามีความน่าสนใจ และการแข่งขันสูง คือ “รถหรูขนาดกลาง” โดยค่ายดาวสามแฉกนั้น “จัดให้” เลือกกันถึง 5 รุ่นย่อยพื้นฐาน (ไม่รวมตัวแรง AMG) โดยแบ่งเป็นตัวถัง Sedan 3 รุ่นย่อย คือ E 350 e Avantgarde ราคา 3.58 ล้านบาท, E 350 e Exclusive ราคา 3.82 ล้านบาท และ E 350 e AMG Dynamic ราคา 4.19 ล้านบาท ตามด้วยตัวถัง Coupe ในรุ่น E 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 4.39 ล้านบาท และสุดหล่อสไตล์เปิดประทุนกับ E 300 Cabriolet AMG Dynamic ราคา 5.29 ล้านบาท
ด้านค่ายใบพัดฟ้า-ขาว นั้นเสียเปรียบเล็กน้อย เพราะมี 4 รุ่นย่อยให้เลือกเท่านั้น กับ 530d M Sport ราคา 3.539 ล้านบาท ตามมาด้วยรุ่น 530e Highline ราคา 3.499 ล้านบาท และ 530e M Sport ราคา 3.899 ล้านบาท ปิดท้ายด้วยไฮไลต์กับตัวถังแบบ Estate ในรุ่น 530i Touring M Sport ที่ราคา 4.499 ล้านบาท
โดยศึก “ซีดานหรูขนากลาง” นี้ก็ใช่ย่อย เพราะทั้ง 2 แบรนด์เปิดราคาสตาร์ทเอาไว้ที่ราวๆ 3.5 ทั้งคู่ ซึ่งผู้ซื้อต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบสมรรถนะแบบไหน ระหว่างขุมพลังดีเซลเทอร์โบ และขุมพลังเบนซินเทอร์โบ แต่ถ้ารุ่นพื้นฐานยังธรรมดาไป ลองขยับไปดูรุ่นพิเศษจากทั้ง 2 ค่ายน่าจะพอตอบโจทย์ได้บ้าง
ซึ่งค่ายดาวสามแฉกส่ง 2 สุดหล่อมาให้เลือก คือ ตัวถัง Coupe และตัวถังเปิดประทุน Cabriolet ราคาเปิดเกินเลข 4 เช่นเดียวกับความโดดเด่นของค่ายใบพัดที่ส่งตัวถัง Touring มาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกกับราคาเกินเลข 4 เช่นกัน ซึ่งใครรัก ใครชอบ สไตล์ไหน อันนี้ตามใจผู้ซื้อดีกว่า
กลุ่มรถอเนกประสงค์ดูจะนาสนใจเป็นพิเศษ เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้รถกลุ่มนี้มีบทบาทมากขึ้น โดยเราขอเลือกพิกัดมาตรฐานมาเป็นตัวเลือก ด้วยการเริ่มต้นจากผู้ได้เปรียบอย่างดาวสามแฉกที่ส่ง The GLC-Class ลงตลาดให้เลือก 3 รุ่นย่อย ซึ่งแบ่งเป็น 2 รุ่นมาตรฐาน คือ GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD ราคา 3.29 ล้านบาท และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท ก่อนจะปิดท้ายด้วยความสปอร์ตจากตัวถังสไตล์ Coupe จากรุ่น GLC 250 4MATIC Coupe AMG Plus ราคา 4.090 ล้านบาท
โดยหากเทียบรุ่นกับค่ายใบพัดฟ้า-ขาว ยนตรกรรมในตระกูล X3 คือ คู่ปรับที่สมน้ำ สมเนื้อกัน แต่ดูจะเสียเปรียบกว่าเล็กน้อย ด้วยรุ่นย่อยที่มีให้เลือกเพียง 2 สไตล์เท่านั้น คือ X3 xDrive20d xLine ราคา 3.329 ล้านบาท และ X3 xDrive20d M Sport ราคา 3.629 ล้านบาท ซึ่งหากอยากได้ความสปอร์ตแบบตัวถัง Coupe เช่นกันล่ะก็ ต้องขยับไปดูที่ X4 เพราะค่ายนี้เค้าแบ่งแยกเอาไว้อย่างชัดเจน พร้อมราคาแปะๆ 4 ล้านบาท
และหลังจากเลือกไป เลือกมาในที่สุดเราก็ “ค้นพบ” ว่ายนตรกรรมสไตล์รถอเนกประสงค์ น่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุด โดยเฉพาะในรุ่นตัวถังพื้นฐาน เพราะนอกจาก “สมรรถนะ” แล้ว ยังมี “ความคุ้มค่า” ในฐานะ “รถอเนกประสงค์” ยกเว้นถ้าอยาก “หล่อ” กับค่ายดาวสามแฉกก็คงต้องขยับไปเล่นกับตัวถัง Coupe หรือค่ายใบพัดในรุ่น X4 ที่ราคาแตะ 4 ล้าน แต่หากเน้นใช้งาน ตัวถังมาตรฐานดูจะเข้าท่าที่สุด แถมทำราคามา “บี้” กันจนตัดสินใจ “ยาก” เลย ฉะนั้นงานนี้ต้องสำรวจ “โปรโมชั่น” กันหน่อยล่ะ
The Promotion in Motor Show 2019
ในที่สุดเราก็จบที่รถอเนกประสงค์ตัวถังมาตรฐาน ซึ่งค่ายดาวสามแฉกมี 2 รุ่นที่น่าสนใจ คือ GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD ราคา 3.29 ล้านบาท และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท ในขณะที่ค่ายใบพัดก็จัดมา 2 รุ่นเช่นกัน คือ X3 xDrive20d xLine ราคา 3.329 ล้านบาท และ X3 xDrive20d M Sport ราคา 3.629 ล้านบาท
ส่วน “โปรโมชั่น” ที่จัดมาให้ในงาน เริ่มจากลูกค้า BMW ที่จองรถยนต์ภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 เมษายน 2562 จะได้รับสิทธิประโยชน์ คือ
- เมื่อซื้อแพคเกจ BSI Ultimate ฟรี การขยายระยะเวลาบำรุงรักษา จาก 5 ปี / 100,000 กม. เป็น 6 ปี / 120,000 กม.* และขยายโปรแกรมการรับประกันเพิ่มเป็น 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ครอบคลุมสมาชิกภาพ BMW Mobility Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่เป็นระยะเวลา 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- สำหรับผู้ที่จองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่น ฟรีประกันรถยนต์ชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี
- ดาวน์ 0%** เมื่อเลือกใช้โปรแกรม BMW Freedom Choice
* ยกเว้นรถยนต์ในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู M และบีเอ็มดับเบิลยู I
** สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 3 Gran Turismo ที่ทำสัญญาทางการเงินร่วมรายการกับ BMW Financial Services ประเทศไทย และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ในขณะที่ Mercedes-Benz มีข้อเสนอพิเศษร่วมกับ Mercedes-Benz Leasing สำหรับลูกค้าที่รับมอบรถยนต์ และเริ่มต้นสัญญาภายในวันที่ 30 เมษายน 2562 นี้ โดยจะประกอบด้วย
- อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน โดยใช้เงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD หรือ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic
- อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน โดยใช้เงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์ E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive และ E 350 e AMG Dynamic พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection เป็นระยะเวลา 1 ปี และแพ็คเกจ MBSP Excellent นาน 4 ปี
- แคมเปญส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาแบบ mySTAR และเช่าทางการเงิน (Finance Lease) กับ Mercedes-Benz Leasing จะได้รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection เป็นระยะเวลา 1 ปี
Time’s to … Take Home
โดย “โปรโมชั่น” ที่ทั้ง 2 แบรนด์จัดมาให้ในงาน หากสอย X3 xDrive20d xLine ราคา 3.329 ล้านบาท (พร้อมแพคเกจ BSI ราคา 3.394 ล้านบาท) หรือ X3 xDrive20d M Sport ราคา 3.629 ล้านบาท (พร้อมแพคเกจ BSI ราคา 3.694 ล้านบาท) ที่อยู่ภายใต้โปรแกรม BMW Freedom Choice ก็จะได้ 4 ความอุ่นใจ ตั้งแต่ “ความอิสระในการเลือกดาวน์เริ่มต้น 0% หรือจะเลือกดาวน์ 35% ก็ได้ภายในระยะเวลาการผ่อนสูงสุด 48 เดือน” ทั้งยัง “ได้แพคเกจบริการดูแลรักษา BSI ตลอดอายุสัญญา”
รวมถึง 4 ทางเลือกหลังจากสิ้นสุดสัญญาอีกด้วย เช่น “ReTurn เลือกคืนรถ, ReTain เลือกเป็นเจ้าของด้วยการชำระเงินก้อนสุดท้าย, ReNew เลือกเป็นเจ้าของรถคันใหม่ พร้อมข้อเสนอ Loralty Campaign และ ReFinance ขยายการผ่อนชำระเงินก้อนสุดท้ายได้สูงสุดไม่เกิน 4 ปี” ปิดท้ายด้วยความมั่นใจจาก “การการันตีมูลค่ารถ BMW ในอนาคต” หรือหมายถึงการรับประกันราคา “ขายต่อ” นั่นเอง
ขณะเดียวกัน หากเลือก GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD ราคา 3.29 ล้านบาท และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับก็คือ อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน โดยใช้เงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% หรือหากเลือกรับโปรแกรม mySTAR ซึ่งเป็นการแบ่งชำระแบบมีบอลลูน ก็จะทำให้มีค่างวดที่ต่ำกว่าโปรแกรมทางการเงินรูปแบบอื่น
แถมด้วย 3 ทางเลือกสำหรับมูลค่าบอลลูน ซึ่งสามารถเลือกได้เองเมื่อสิ้นสุดสัญญา ที่ประกอบไปด้วย “Return เลือกคืนรถยนต์โดยไม่ต้องชำระมูลค่าบอลลูน เพื่อให้เปลี่ยนรถคันใหม่ ได้ง่ายขึ้น, Retain เลือกเป็นเจ้าของรถคันปัจจุบันโดยชำระมูลค่าบอลลูนเต็มจำนวน และ Refinance เลือกขยายเวลาการผ่อนชำระมูลค่าบอลลูนได้สูงสุดถึง 4 ปี”
มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงถึง “บางอ้อ” เป็นที่เรียบร้อย ว่า “โปรโมชั่น” ซึ่งมอบ “สิทธิประโยชน์” และความ “คุ้มค่า” ให้กับผู้ซื้อจากแบรนด์ไหน “เข้าตา” มากกว่ากัน ซึ่ง ณ จุดนี้เราขอบอกเลยว่ามันเป็นแค่ “แนวทาง” เล็กๆ ที่อาจจะ “มี” หรือ “ไม่มี” ผลต่อการ “ตัดสินใจ” ของ “ผู้ซื้อ” ก็เป็นได้
เพราะทั้ง 2 แบรนด์ต่างก็มีสาวกที่เหนียวแน่นเป็นต้นทุนสำคัญ ซึ่งต่างก็หลงใหลในจุดเด่นที่เป็น “เอกลักษณ์” มาอย่างยาวนาน ชนิดที่ไม่ต้องมีแคมเปญมากระหน่ำความอยาก ก็สามารถ “ควัก” เงินซื้อกันได้ง่ายๆ ถ้า “ใจชอบ” หากไม่ใช่กลุ่ม “ลูกค้าใหม่” ที่ต้องการขยับไปครอบครองเป็นเจ้าของรถยุโรปคันแรกในชีวิต และต้องการที่จะจ่ายเงิน เพื่อแลกรับในสิ่งที่ต้อง “คุ้มค่า” ที่สุด