Nissan Navara เวอร์ชั่นใหม่ … “สไตล์คุ้นตา เน้นการอัพเกรดสมรรถนะ และฟังค์ชั่น”
Nissan เผยรายละเอียดของปิคอัพประจำค่ายอย่าง Nissan Navara เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งมาพร้อมการยกระดับมาตรฐานขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในเรื่องของ “สมรรถนะ” และฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดล้ำ … ซึ่งชาวไทยจะมีโอกาสได้ “ลุ้น” หรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไป
Nissan Navara … “ซ่อน” ความล้ำ ใต้รูปลักษณ์อันคุ้นเคย
โดยเริ่มตั้งแต่ในเรื่องของ “สมรรถนะ” ที่โดดเด่นด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีดลูกใหม่ ซึ่งพัฒนาให้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้ง่าย โดยมีอัตราทดที่ปรับมาใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตลอดจนลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ ขณะที่ชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด นั้นถูกอัพเกรดให้ถ่ายทอดกำลังได้อย่างนุ่มนวล และตอบสนองได้ดีขึ้น
ส่วนขุมพลังนั้นเร้าใจด้วยตัวช่วยอย่างระบบอัดอากาศ Twin Turbo ซึ่งมีระดับกำลังให้เลือก 2 สไตล์ คือ 163 แรงม้า และ 190 แรงม้า โดยมีไฮไลต์อยู่ที่รุ่น Entry Level ขนาด 163 แรงม้า ที่มีการอัพเกรดแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 22 นิวตันเมตร ขยับเป็น 425 นิวตันเมตร เพื่อเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ และความสามารถในการใช้งานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามด้วยการพัฒนาในส่วนของระบบช่วงล่างด้านหลัง ซึ่งก้าวสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของพื้นฐานแบบ 5-Link พร้อมคอยล์สปริงแบบ 2 ชั่น และการปรับความสูงเพิ่มขึ้นอีก 25 มม. ตามด้วยการปรับแต่งเพื่อสร้างสัมผัสการขับขี่ที่นุ่มนวลสไตล์รถอเนกประสงค์ SUV รวมถึงการเพิ่มขนาดจานเบรกคู่หน้าจากเดิม 296 มม. เป็น 320 มม. และจานเบรกหลังขนาด 308 มม. ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกได้เพิ่มขึ้นอีกราวๆ 40%
เสริมด้วยตัวช่วยอัจฉริยะล่าสุดอย่างระบบ Intelligent Trailer Sway Assist สำหรับช่วยป้องกันอาการ “ส่าย” ของตัวรถ, ระบบ Intelligent Emergency Braking สำหรับการช่วยเบรกแบบฉุกเฉิน รวมถึงระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Hill Descent Control ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องมองภาพรอบทิศทาง
ต่อเนื่องด้วยจุดเด่นใหม่ กับการเสริมฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร เช่น ฟังค์ชั่น NissanConnect Infotainment System ที่สามารถควบคุมได้จากหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto สำหรับใช้ระบบ NissanConnect Services App เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยฟังค์ชั่นต่างๆ เช่น ควบคุมการใช้สัญญาณเสียง, สัญญาณไฟ ตลอดจนสามารถค้นหายานพหนะ และส่งสัญญาณปลายทางไปยังระบบนำทางอัตโนมัติก่อนเดิน เพื่อหาเส้นทางที่สามารถขับขี่ได้อย่างสบายที่สุด
สำหรับในส่วนของรูปลักษณ์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดต่างๆ เล็กน้อย เช่น ความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้น ตามด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ และขนาดที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม 17 นิ้วเป็น 18 นิ้ว โดยในรุ่นที่เป็นระดับ High Grade จะมาพร้อมกับชุดไฟหน้าแบบ LED และเน้นความสปอร์ตด้วยโคมสีดำเงา High Gloss Black