บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดแสดงยนตรกรรม 11 รุ่น นำโดย 5 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ทั้ง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ , ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ , แจ๊ซ ใหม่ , โมบิลิโอ ใหม่ และ ซิตี้ ใหม่ ในงาน Fast Auto Show Thailand 2017

ฮอนด้า ขนทัพยนตรกรรมรวม 11 รุ่น นำโดย 5 รุ่นที่เปิดตัวในปีนี้ 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดแสดงยนตรกรรม 11 รุ่น นำโดย 5 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ทั้ง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่, ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่, แจ๊ซ ใหม่, โมบิลิโอ ใหม่ และ ซิตี้ ใหม่ ในงาน Fast Auto Show Thailand 2017 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเปิดงาน

โดยได้รับเกียรติจาก ดร. พิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานเปิดงาน ร่วมด้วยนายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน Fast Auto Show Thailand 2017 และนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด เข้าเยี่ยมชมบูธฮอนด้า ให้การต้อนรับโดยนายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

 

Honda - Fast Auto Show 2017

Honda Automobile (Thailand) ประกาศความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในประเทศไทย ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 (มกราคม-มิถุนายน) จำนวนทั้งสิ้น 53,952 คัน (นับรวม Honda CR-V , HR-V , BR-V) จากยอดจำหน่ายตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งสิ้น 152,619 คัน (นับรวมรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ที่เสียภาษีในอัตราเดียวกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล) ทำให้ฮอนด้าครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 35.4%

Honda ผู้นำตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในประเทศไทย

ในขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวมมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 366,373 คัน ลดลง 0.7% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดจำหน่ายรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 (369,109 คัน) ส่วนยอดจำหน่ายในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง 12% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (173,757 คัน) สำหรับ Honda ยังคงรักษายอดจำหน่ายให้อยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2558 (54,793 คัน) และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 31.5% ในปี 2558 เป็น 35.4% ในปีนี้ ทั้งนี้ เป็นผลจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือ BR-V , Accord  และล่าสุด All New Civic ที่ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมาก ด้วยยอดจองรวมกว่า 15,000 คัน ภายในระยะเวลา 4 เดือน หลังการเปิดตัว และส่งมอบไปแล้วกว่า 10,000 คัน

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล  (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ และเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นนำเสนอยนตรกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นของฮอนด้า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาสำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ฮอนด้ายังมีอีก 1 รุ่น ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ คือ New Honda Accord Hybrid  ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี Hybrid ใหม่ล่าสุดจาก Honda”

สำหรับ New Honda Accord Hybrid เป็นยนตรกรรมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Hybrid อันล้ำสมัย ที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม มาพร้อมมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย เพื่อความความมั่นใจในทุกการเดินทางกับ Honda SENSING โดยมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งเรียกรถยนต์เพิ่มเติมในประเทศไทย  เพื่อเข้ารับบริการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมด้านหน้าฝั่งคนขับของทาคาตะ ซึ่งเป็นมาตรการเชิงป้องกันและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้า โดยการแจ้งเรียกรถยนต์เพิ่มเติมในครั้งนี้ มีรถยนต์ที่เข้าข่ายจำนวน 234,819 คัน ที่ต้องเข้ารับบริการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วน ที่ศูนย์บริการฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

Honda แจ้งเรียกรถยนต์เพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบระบบถุงลมนิรภัย

Honda แจ้งเรียกรถยนต์เพิ่มเติมในครั้งนี้ จากกรณีปัญหาของชุดสร้างแรงดันก๊าซในชุดถุงลมด้านหน้าฝั่งคนขับของทาคาตะ ที่อาจสร้างแรงดันสูงผิดปกติในขณะที่ชุดถุงลมทำงานในบางกรณี ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจทำให้ชุดถุงลมแตกออก และก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารได้ การแจ้งเรียกรถยนต์เพิ่มเติมในครั้งนี้

มีรุ่นรถยนต์ที่เข้าข่ายการเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมด้านหน้าฝั่งคนขับของทาคาตะ ได้แก่

Honda City  รุ่นปี 2012-2013

Honda City CNG รุ่นปี 2012

Honda Jazz รุ่นปี 2012-2013

Honda Jazz Hybrid รุ่นปี 2013

• Honda Jazz (นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น) รุ่นปี 2012:

Honda CR-V รุ่นปี 2011

ฮอนด้าอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมชิ้นส่วน เพื่อให้รองรับการเปลี่ยนในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด ซึ่งในลำดับต่อไปทาง บริษัทฯ จะจัดส่งจดหมายไปยังลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้นำรถเข้ามาตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว จึงขอให้ลูกค้าที่ได้รับจดหมาย โทรศัพท์ติดต่อที่ศูนย์บริการฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อนัดหมายเข้ารับบริการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

การเรียกกลับมารับบริการในครั้งนี้เป็นกรณีเพิ่มเติมจากการเรียกเข้ารับบริการครั้งก่อนหน้านี้ ที่ทางฮอนด้าได้ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าไปแล้ว จึงขอให้ลูกค้าที่ยังไม่ได้เข้ารับบริการติดต่อศูนย์บริการฮอนด้า เพื่อนำรถยนต์เข้ารับบริการเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมด้านหน้าของทาคาตะ โดยมีรายละเอียดการส่งจดหมายแจ้งลูกค้าที่ผ่านมาสรุปดังนี้

รุ่นรถยนต์ (เฉพาะรุ่นที่มีถุงลม) ที่เข้าข่ายการเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมด้านหน้าฝั่งคนขับของทาคาตะ ได้แก่

Honda Brio รุ่นปี 2012 -2014

Honda Brio Amaze รุ่นปี 2014

• Honda City รุ่นปี 2003-2011

• Honda Jazz รุ่นปี 2009-2011

Honda Civic รุ่นปี 2006-2011 และ รุ่นปี 2013-2014

Honda Accord รุ่นปี 2004-2007

• Honda CR-V รุ่นปี 2007-2010 และ รุ่นปี 2013

รุ่นรถยนต์ (เฉพาะรุ่นที่มีถุงลม) ที่เข้าข่ายการเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารของทาคาตะ ได้แก่

• Honda City รุ่นปี 2003-2009

• Honda Jazz รุ่นปี 2004-2009

• Honda Civic รุ่นปี 2001-2009

• Honda Accord รุ่นปี 2003

• Honda CR-V รุ่นปี 2002-2009

• Honda Stream รุ่นปี 2002-2004

สำหรับกรณีของลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เข้าข่ายการเรียกเข้ารับบริการดังกล่าว แต่ไม่ได้รับจดหมายแจ้งเนื่องจากมีการเปลี่ยนที่อยู่ หรือมีการเปลี่ยนเจ้าของรถใหม่ และในกรณีที่ลูกค้าท่านใดสงสัยว่ารถอยู่ในข่ายที่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนในชุดถุงลมหรือไม่ สามารถนำหมายเลขตัวถัง ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้หลายช่องทาง ดังนี้

• เข้าเว็บไซต์ www.honda.co.th/vinsearch

• โทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ โดยสามารถค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์บริการฮอนด้าได้ที่

http://www.honda.co.th/th/dealer

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Honda Call Center โทร 02 341 7777

บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้าทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และต้องขอชี้แจงว่าการเรียกเข้ารับบริการในครั้งนี้ เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้าทุกท่าน

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดการส่งออกรถยนต์ฮอนด้าและชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในปี 2558 มีมูลค่าทั้งสิ้น 83,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2557 เนื่องจากความนิยมในรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ( Honda City )ในประเทศเม็กซิโก และ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ( Honda HR-V )ในประเทศออสเตรเลียที่เพิ่มสูงขึ้น การส่งออกที่เติบโตในปี 2558 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในระดับโลกของรถยนต์ฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย

การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของฮอนด้า ปี 2558

ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของฮอนด้าตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2558 เติบโตขึ้น 44% ด้วยมูลค่า 37,994 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2557 ปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ คือ ความต้องการในตลาดประเทศต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ประเทศออสเตรเลียและเม็กซิโก โดยรถยนต์รุ่นที่มีการส่งออกสูงสุด ได้แก่ รถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ( Honda City ) ฮอนด้า เอชอาร์-วี ( Honda HR-V )และ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ( Honda CR-V )รวมคิดเป็นประมาณ 70% ของจำนวนรถยนต์ส่งออกทั้งหมด

การส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์

สำหรับการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์นั้น ฮอนด้ามียอดเพิ่มขึ้น 5% คิดเป็นมูลค่า 40,450 ล้านบาท เนื่องจากมีความต้องการชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์สำหรับการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของโรงงานฮอนด้าในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย

การส่งออกรถยนต์ฮอนด้าและชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทย

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยอดการส่งออกรถยนต์ฮอนด้าและชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยประจำปี 2558 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของรถยนต์ฮอนด้าหลายรุ่น เช่น ฮอนด้า เอชอาร์-วี ( Honda HR-V )และ ฮอนด้า แจ๊ซ ( Honda Jazz )รวมถึงความสำเร็จด้านยอดขายในแต่ละประเทศที่นำเข้ารถยนต์ฮอนด้าไปจำหน่ายอีกด้วย”

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์ สำหรับสายการผลิตรถยนต์อีกด้วย โดยมียอดการส่งออกเติบโตขึ้น 30% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,422 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศมาเลเซีย ออสเตรเลีย และอินเดีย

“ปัจจุบัน ฮอนด้ามีการผลิตรถยนต์เพื่อรองรับตลาดในประเทศและการส่งออก ณ โรงงานผลิตรถยนต์ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภายในปีนี้ ฮอนด้าจะเริ่มเดินสายการผลิต ณ โรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยโรงงานแห่งนี้สามารถรองรับการดำเนินงานด้านการผลิตและการส่งออก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกในอนาคต” นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติม

ภาพบรรยากาศ

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในประเทศไทยประจำปี 2558 ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงสุด (มกราคม-ธันวาคม 2558) จำนวนทั้งสิ้น 112,178 คัน นับรวมฮอนด้า ซีอาร์-วี ( Honda CR-V )และ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ( Honda HR-V ) และครองส่วนแบ่งตลาด 31.5% จากยอดจำหน่ายตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งสิ้น 356,052 คัน (นับรวมรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ที่เสียภาษีในอัตราเดียวกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล) และเมื่อเปรียบเทียบกับยอดจำหน่ายของฮอนด้าในปี 2557 (106,482 คัน) ฮอนด้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5.3% ในขณะที่ยอดจำหน่ายตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราลดลง 13.5% ซึ่งทำให้ฮอนด้าสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประจำปี 2558

ยอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวม

ในขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวมมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 799,612 คัน และเมื่อเปรียบเทียบกับยอดจำหน่ายรวมของปี 2557 (881,832 คัน) ตลาดรวมมีอัตราลดลงถึง 9.3% สำหรับฮอนด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาด 14% อยู่อันดับสามในตลาดรวม (ซึ่งรวมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล)

รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award)

นอกจากนี้ ในปี 2558 ฮอนด้ายังได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award) ด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ จากงานมหกรรมยานยนต์ เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน (2555-2558) นับเป็นรางวัลที่สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ เสมอมา

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ท่ามกลางเศรษฐกิจ และภาพรวมตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัว แต่ยอดขายของฮอนด้ากลับเติบโตขึ้น สวนทางกับทิศทางตลาดรถยนต์ และครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประจำปี 2558 นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของฮอนด้าในปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อมั่นจากลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮอนด้า เอชอาร์-วี ( Honda HR-V )ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม และฮอนด้ายังได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือถึง 4 ปีซ้อน บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้ามาโดยตลอด

เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่

สำหรับในปี 2559 นี้ ฮอนด้าจะยังคงมุ่งมั่นยกระดับการบริการ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการนำเสนอยนตรกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด โดยฮอนด้ามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ อาทิ ฮอนด้า บีอาร์-วี ( Honda BR-V )ที่จะเข้ามาเติมเต็มตลาดรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ และ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นใหม่ ( All New Honda Civic 2016 ) ซึ่งเป็นรุ่นที่มีลูกค้ารอคอยเป็นจำนวนมาก การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ จะมีส่วนช่วยในการสร้างความคึกคักให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย”

“แปซิฟิค มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 18 เปิดฉากคึกคัก เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 1 พฤศจิกายน 2558 ณ ศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา จังหวัดชลบุรี 22 ค่ายยานยนต์ไม่น้อยหน้า ร่วมแรงร่วมใจจัดเต็ม เทโปรโมชั่นแรงที่มีเฉพาะในงานรับไฮซีซั่น หวังให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ฮือฮาสุดๆ สาวเซ็กซี่ “นิกกี้ พริตตี้เงินล้าน” และโชว์ Sexy Bike Wash ช่วยเติมสีสันผู้ชมแห่ชมล้นงาน
 

Continue reading “แปซิฟิค มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 18 เปิดฉากคึกคัก ค่ายยานยนต์จัดเต็มเทแคมเปญเด็ดรับไฮซีซั่น”

honda

บริษัท ฮอนด้าแอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนียจำกัด ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้นในอนาคตหลังเร่งทำการตลาดสร้างแบรนด์อุปกรณ์ตกแต่ง “โมดูโล่” เพื่อสนับสนุนผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้า บริษัทฯ พัฒนานวัตกรรมใหม่โฉบเฉี่ยว สวยงาม คุณภาพเยี่ยม ในราคาเหมาะสม สร้างแรงจูงใจให้คนหันมาสนใจแต่งรถเพิ่ม บริษัทฯ มั่นใจว่างานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล  ออโต ซาลอน 2013 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20- 30 มิ.ย.นี้ สามารถทำให้ลูกค้าได้ชมและสัมผัสชุดแต่งโมดูโล่แบบเต็มรูปแบบ ฮอนด้าเตรียมนำเสนอผลงานชุดแต่งรถยนต์ต้นแบบใหม่ล่าสุดในฮอนด้าซีอาร์วี แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด บริโอ้ และ บริโอ้ อเมซ บนพื้นที่ถึง 500 ตารางเมตร เชื่อปีนี้กระแสตอบรับเยี่ยมเหมือนปีที่ผ่านมา

Continue reading ““ฮอนด้า โมดูโล่” โชว์นวัตกรรมชุดแต่งรถใหม่ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2013”