โหลดรถกระบะ ยังไง ให้มีสมรรถนะที่ดี ไม่เสียรถ
การตกแต่งรถกระบะแนวโหลดเตี้ย นับว่าเป็นการโหลดรถกระบะที่มีมานาน ส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่น(รุ่นรถ) เลยก็ว่าได้ ทีนี้การโหลดมีอยู่หลากหลายแบบ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพอใจของคนใช้เป็นหลัก แต่ถ้าหากอยากจะโหลดแบบเอาแค่สวยงามและเพิ่มสมรรถนะจริงๆโดยไม่เสียรถ สมัยนี้ก็มีชุดโหลดแบบเทพๆออกมาให้ใช้กันแล้ว
เริ่มกันที่การโหลดในด้านหน้าของรถกระบะ โดยส่วนมากกระบะในเมืองไทย จะมีการทำงานของระบบช่วงล่างอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบคอล์ยสปริง และอีกแบบหนึ่งคือ ระบบช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบาร์ โดยระบบช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบาร์นั้นจะทำร่วมกับช็อคอัพ เพื่อช่วยในการขับแรงกระแทกอีกที
ซึ่งการโหลดของช่วงล่างแบบนี้นั้น ทำได้โดยการ คลายน็อตทอร์ชั่นบาร์ที่อยู่บริเวณใต้ท้องรถ อยู่ 2 ฝั่งด้วยกัน ซ้าย – ขวา ให้คลายน็อตลงมาให้ได้ความเตี้ยตามความต้องการและเมื่อได้ความเตี้ยมาแล้วก็ต้องจัดชุดช็อคอัพแต่ง พร้อมการเปลี่ยนยางกันกระแทกแบบซิ่งที่ปัจจุบันมีเป็นแบบของแต่งตรงรุ่น
มาถึงช่วงล่างด้านหน้าแบบคอล์ยสปริงกันบ้าง การโหลดในช่วงล่างแบบนี้ให้มีสมรรถนะที่ดีนั้นก็ตองใส่วิธีเปลี่ยนสปริงแต่ง หรือชุดช็อคอัพหน้าที่มีการปรับแต่งด้วยการเลื่อนฐานรองสปริงให้ต่ำลงมาให้แล้ว
การโหลดในด้านหลัง ซึ่งรถกระบะทุกรุ่นในบ้านเราจะมีระบบรองรับการสั่นสะเทือนเหมือนกันหมดก็คือ การใช้ชุดแหนบร่วมกันช็อคอัพ และมีอยู่ 3 วิธีนั่นก็คือ ชักแหนบ ดัดแหนบ รองแหนบ แต่วิธีที่แนะนำจะเป็นแค่ การชักแหนบ กับ การรองแหนบ เท่านั้น
การชัก
การชักที่พูดถึงนี้ก็คือ การชักแผ่นแหนบออกจากเดิมที่มีอยู่เดิมชุดละประมาณ 5 – 6 แผ่น โดยจะชักแหนบบรรทุกออก ก็คือแผ่นที่สั้นที่สุด เพราะถ้าไม่ถอดออกจะกระด้างมาก
การรองแหนบ
เมื่อทำการ ชักแหนบ ที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป โดยจะรองด้วยเหล็กรอง ซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความสูงตามขนาดที่ต้องการ คือ 1 – 3 นิ้ว โดยเหล็กรองนี้ จะใช้รองอยู่กึ่งกลางระหว่างชุดแหนบกับชุดเพลาท้าย เมื่อทำการรองแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนชุดสาแหรกด้วย 4 ตัว โดยให้มีความยาวเท่ากับความสูงของกล่องที่รองเข้าไป พร้อมกับการจัดชุดช็อคอัพซิ่งอีกชุดเพื่อสมรรถที่ดี จากนั้นก็ต้องทำการตั้งศูนย์ถ่วงล้อกันใหม่ เพื่อให้ล้อทั้ง 2 ข้าง มีความบาลานซ์กัน และ ลดปัญหาพวงมาลัยกิน ซ้าย – ขวา หรือพวงมาลัยสั่น