บทพิสูจน์ความ “คุ้ม” แบบเบาๆ … บนเส้นทางกรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา ด้วย All New Suzuki Carry
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดส่งเซอร์ไพรส์สุดคุ้มด้วยการเปิดตัว All New Suzuki Carry เจนเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้แนวคิด “Carry Your Dream … เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ในงาน Big Motor Sale Thailand 2019 ไปไม่นาน หมายเชิญการทดสอบเพื่อพิสูจน์ความประหยัดก็ถูกร่อนทันที บนเส้นทางกรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา เบาๆ แบบ One Day Trip
All New Suzuki Carry อัพเกรดความคุ้มค่า สู่เจนเนอเรชั่นที่ 2
การอัพเกรด Suzuki Carry เจนเนอเรชั่นที่ 2 เริ่มต้นตั้งแต่งานดีไซน์ที่ภายนอกใหม่ เพิ่มความคุ้มค่าด้วยขนาดตัวถังความยาว 4,195 มม. (เพิ่มขึ้น 40 มม.) ความกว้าง 1,765 มม. (เพิ่มขึ้น 85 มม.) และความสูง 1,910 มม. วางตัวบนความยาวฐานล้อ 2,205 มม. พร้อมกับยกระดับเสถียรภาพการทรงตัวด้วยแทรคล้อด้านหน้า (เพิ่มขึ้น 30 มม.) เป็น 1,465 มม. และด้านหลัง (เพิ่มขึ้น 25 มม.) เป็น 1,460 มม.
โดยมีจุดเด่นอยู่ในพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังแบบเรียบ ซึ่งผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลป์วาไนซ์ที่มีคุณสมบัติป้องกันสนิม และการสึกกร่อน พร้อมคุณสมบัติอันโดดเด่น เช่น กระบะท้ายที่เปิดได้ 3 ด้าน และมีการปรับให้ใหญ่ขึ้นราว 15% กับความยาวที่เพิ่มขึ้น 365 มม. เป็น 2,565 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 75 มม. เป็น 1,660 มม. และสามารถแบกน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้ถึง 945 กก.
ส่วนงานดีไซน์รูปลักษณ์นำเสนอความแข็งแกร่ง และทันสมัยด้วยเส้นสายตรง เสริมความโดดเด่นในมุมมองด้านหน้า ชุดกระจัง และโคมไฟหน้าสไตล์ใหม่ พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารมากับโทนสีเทาดำออกแบบใหม่ และมีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับได้ 2 ที่นั่ง ตลอดจนสามารถเลื่อนสไลด์ได้ถึง 105 มม. เพื่อให้ขับขี่ได้สบายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และความบันเทิงครบมาให้แบบครบครัน เช่น ช่องเก็บของด้านหน้า, เครื่องเสียงแบบวิทยุ/MP3 ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ AUX และ USB
ขุมพลังใหม่ ยกระดับสู่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
K15B คือ รหัสของเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ของ Suzuki Carry ขนาด 1.5 ลิตร ที่ลดลงจากเดิม 1.6 ลิตร ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นใหม่ จนกำลังสูงสุดเพิ่มจากเดิม 68 แรงม้าเป็น 71 แรงม้า รวมถึงแรงบิดสูงสุดที่เพิ่มจาก 127 นิวตันเมตร เป็น 135 นิวตันเมตร ส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ส่วนหน้าที่การควบคุมเป็นชุดพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าแร็คแอนด์พิเนี่ยน รองรับด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง และด้านหลังแบบคานแข็ง พร้อมแหนบ เสริมด้วยความปลอดภัยจากชุดเบรกแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม พร้อมระบบ ABS ตลอดจนการติดตั้งระบบ Engine Drag Control เพื่อทำหน้าที่รักษาความเร็วของล้อหน้า และล้อหลังให้สมดุลกัน ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถล และสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ในสถานการณ์ขับขี่บนพื้นเปียก หรือพื้นถนนลื่น
ลองของจริง วิ่งพร้อมน้ำหนักบรรทุก (เบาๆ)
ในส่วนของการทดสอบ เริ่มต้นจากจุดสตาร์ทการออกแบบใหม่ที่ทำให้ด้านหน้ารถเป็นกล่องมากขึ้น ช่วยสร้างความสะดวกในการขับขี่ได้ดี โดยเฉพาะกับสถานที่แคบๆ เช่น ตรอก, ซอกซอย หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนเลนบนท้องถนนในช่วงที่การจราจรแน่นหนา ขณะที่ห้องโดยสารเรียบง่าย เน้นการใช้งาน แต่ก็ยังพอมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาจรรโลงใจ เช่น เครื่องเสียง และช่องจ่ายไฟ 12V ไว้ให้ชาร์จโทรศัพท์ ที่สำคัญก็คือ “เบาะนั่งเลื่อนได้” ที่รองรับสรีระผู้ขับขี่ได้มากขึ้น
ทางด้านขุมพลังเรียกได้ว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” สไตล์รถเครื่องเล็ก ที่มีอัตราทดเกียร์ค่อนข้างจัด เพื่อให้มีกำลังฉุดลาก โดยระดับความเร็วที่มั่นใจได้ดีควรจะอยู่ที่ 80-120 กม./ชม. แต่ด้วยทรงรถที่ค่อนข้างต้านลม กับการซิ่งแบบมีน้ำหนักบรรทุกเบาๆ ราว 100 กก. ด้านหลัง บนเส้นทางมอเตอร์เวย์ทั้งขาเข้า และขาออก บางจังหวะอาจรู้สึกหวั่นไหวเล็กๆ ซึ่งหากไม่ใช่คนใจร้อน หรือต้องส่งของแบบเร่งด่วนล่ะก็ การใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ด้านระบบช่วงล่างชัดเจนกับความเป็นรถสำหรับการบรรทุกที่รองรับได้สูงสุดถึง 945 กก. แต่กับน้ำหนักเบาๆ ท้ายรถในการทดลองขับ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกถึงความกระด้างเป็นเรื่องปกติ เพราะด้วยตำแหน่งของตัวรถ Carry ที่เน้นการบรรทุกเพื่อการพานิชย์ ทำให้การออกแบบน่าจะต้องคำนวณเผื่อน้ำหนักบรรทุกด้านหลัง ถึงจะพบเจอกับความนิ่มนวลมากขึ้น
สรุปส่งท้าย All New Suzuki Carry เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการต่อยอดธุรกิจ สำหรับผู้ที่ต้องการรถ ซึ่งมากไปด้วยความคุ้มค่า โดยเฉพาะใช้งานเพื่อการพาณิชย์ ด้วยราคาที่เปิดมาเพียง 385,000 บาทเท่านั้น
ราคารถใหม่
All New Suzuki Carry ราคา 385,000 บาท