‘ซูซูกิ’อวดโฉมรถรุ่นพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ 2023 “SUZUKI SWIFT GL NEXT” และ “SUZUKI CELERIO GL UP” แคมเปญเด็ด จองรถทุกรุ่น ดอกเบี้ย 0% หรือ ช่วยผ่อนนาน 10 เดือน เปิดจองสิทธิ์ซื้อ SUZUKI JIMNY !!! จำนวนจำกัด
“SUZUKI SWIFT GL NEXT” และ “SUZUKI CELERIO GL UP” แคมเปญเด็ด จองรถทุกรุ่น เปิดจองสิทธิ์ซื้อ SUZUKI JIMNY !!! จำนวนจำกัด
นายมิโนรุ อามาโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเริ่มกลับมาคึกคักและเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ หลังจากผ่านวิกฤติในหลายด้านตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่กำลังจะถูกจัดขึ้นในช่วงวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่เข้ามาช่วยกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยกลับมามีบรรยากาศการซื้อ-ขายที่ดีและมีการเติบโตขึ้นอีกครั้ง
ในปีนี้ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “COLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” สื่อสารถึงการสร้างประสบการณ์อันหลากหลาย ผ่านเทคโนโลยีแห่งโลกยานยนต์ที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด สอดคล้องกับแนวคิดของซูซูกิที่ต้องการนำเสนอความหลากหลายและแตกต่าง ผ่านตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีความสดใหม่เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่จะเข้าร่วมชมงาน
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังคงนำรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นเข้าร่วมแสดงโดยต้องการสื่อสารให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้สัมผัสและเข้าถึง DNA อันโดดเด่นของซูซูกิ ผลิตภัณฑ์ที่มอบดีไซน์โดดเด่น มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างคล่องตัวในสไตล์ CITY CAR สะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองไม่ว่าจะขับแบบเดิมๆ หรือนำไปตกแต่งเพื่อสร้างความแตกต่าง ได้อย่างมีสไตล์ในทุกรุ่นทุกคัน
สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ บริษัทฯ นำกองทัพยนตรกรรมของซูซูกิทุกรุ่นเข้าร่วมจัดแสดงอย่างคับคั่ง ไฮไลต์สำคัญ นำโดยรถยนต์ 2 รุ่นยอดนิยม ซึ่งถูกอัพเกรดความโดดเด่น ด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน คือ “SUZUKI SWIFT GL NEXT – NEXT to the edge ขับสนุกเต็มขั้น เร้าใจเกินพิกัด” มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสนุกเร้าใจในการขับขี่แบบเต็มพิกัด และ “SUZUKI CELERIO GL UP สนุกอย่างมีสไตล์ สบายกับความคุ้มค่า” รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มากไปด้วยความคุ้มค่าอย่างครบครัน ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นอื่นๆ อีกมากมาย
นายอามาโนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีที่ผ่านมาโดยรวมจะมีแนวโน้มที่ยากลำบาก แต่ด้วยกลยุทธ์สำคัญคือ การนำเสนอรถยนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าให้สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยได้อย่างมีความสุข แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบรับต่อการดำเนินชีวิตของลูกค้า ซึ่งในปี 2565 ซูซูกิมียอดขายตัวเลขอยู่ที่ 20,083 คัน โดยการเข้าร่วมงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ด้วยสถานการณ์หลายอย่างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบรรยากาศที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถในช่วงนี้ จะมีส่วนช่วยผลักดันเพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขายรวมของซูซูกิในปีนี้ที่ 27,000 คัน นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงาน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ผู้เข้าชมงานทุกท่านจะได้พบกับรถยนต์ของซูซูกิทุกรุ่น พร้อมด้วยการสร้างเซอร์ไพรซ์ กับการเปิดจองรถยนต์รุ่นพิเศษภายในงาน
ไฮไลต์สำคัญ คือ การแนะนำ “SUZUKI SWIFT GL NEXT” รถซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก SUZUKI SWIFT GL ที่เป็นพื้นฐานความสำเร็จของรุ่นตกแต่งพิเศษหลายเวอร์ชั่น และได้รับความนิยมจนสร้างยอดขายให้ซูซูกิได้เป็นอย่างดี กับแนวคิด “NEXT to the edge ขับสนุกเต็มขั้น เร้าใจเกินพิกัด” พิเศษด้วยชุดแต่งรอบคันที่ถูกออกแบบมาเพื่อลูกค้าซูซูกิโดยเฉพาะ
“SUZUKI SWIFT GL NEXT – NEXT to the edge ขับสนุกเต็มขั้น เร้าใจเกินพิกัด” ตกแต่งด้วยชุดแต่ง GL NEXT ดีไซน์ใหม่ ชุดสเกิร์ตรอบคัน บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วยชุดสติกเกอร์ลายใหม่ GL NEXT Sticker Set ที่จะถ่ายทอดทุกความเร้าใจให้คุณสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
ดีไซน์ภายในการตกแต่งใหม่ด้วยลายเคฟลาร์ ตรงบริเวณคอนโซลและแผงประตูด้านข้าง พร้อมปรับใหม่ จอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุที่สามารถรองรับการเล่นไฟล์ MP3, WMA เติมเต็มความบันเทิงในการขับขี่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooh และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อตลอดการเดินทาง โดยจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 582,000 บาท
“SUZUKI CELERIO GL UP สนุกอย่างมีสไตล์ สบายกับความคุ้มค่า” คือ อีกหนึ่งรุ่นที่จะกลับมาสร้างกระแสความคุ้มค่าอีกครั้ง กับความโดดเด่นทุกด้านในสไตล์ CITY CAR จึงพร้อมนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดเล็กคุณภาพเกินตัวคันนี้ให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานที่แสนคุ้มค่า และตอกย้ำความแตกต่างอย่างมีสไตล์ ด้วยชุดแต่งพิเศษ GL UP เติมเต็มความสปอร์ต ด้วยชุดสเกิร์ตรอบคัน พร้อมด้วยสปอยเลอร์หลัง และชุดสติกเกอร์ GL UP โดยจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 423,000 บาท
ด้วยความเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสูงสุด ส่งผลให้ฐานลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงแค่วัยรุ่นและวัยทำงาน แต่ยังเป็นหนึ่งในรถทางเลือกของครอบครัวขนาดเล็ก สำหรับดีไซน์ภายในจึงปรับปรุงใหม่ให้ตอบรับกับการใช้งานที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ใน SUZUKI CELERIO GX ด้วยจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นวิทยุที่รองรับการเล่นไฟล์ MP3 และ WMA ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ Apple Carplay และ Android Auto ราคาจำหน่าย 451,000 บาท
SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัวให้กำลังและความคล่องตัวสูง มีสมรรถนะการขับที่ดี ในขณะที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีสีที่จำหน่ายเป็น สีขาว สีแดง สีเทาและสีดำ
นอกจากนั้น ยังคับคั่งไปด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพรุ่นยอดนิยมจากซูซูกิ ประกอบไปด้วย “SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID -The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” รถอเนกประสงค์ MPV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ SMART HYBRID ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ SHVS จากซูซูกิ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร เสริมประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวล โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 134 กรัม/กิโลเมตร การบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล เพราะรับประกันอายุแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 783,000 บาท
SUZUKI CIAZ พรีเมียมอีโคคาร์ซีดานที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสดใหม่ ชูความสปอร์ตเร้าใจและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 528,000 บาท
SUZUKI XL7 รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง รถยนต์สำหรับครอบครัว ที่มีมิติรถขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,450 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร ความสูง 1,710 มิลลิเมตร และความสูงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร มอบวิสัยทัศน์และสมรรถนะในการขับขี่ ทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า 814,000 บาท
SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่พร้อมจะนำไปดัดแปลงและพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับทุกแนวทางของการดำเนินชีวิต โดยนับจากนี้ SUZUKI CARRY จะไม่ได้ถูกจดจำในฐานะ “Food Truck” ธุรกิจติดล้อเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น Goods Truck ที่สามารถต่อยอดในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงการปรับใช้ส่วนตัวเพื่อให้กลายเป็นถขนส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝัน เป็นเสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ราคาจำหน่ายเพียง 395,000 บาท
โซน Customized ทางซูซูกิยังคงนำรถหลากหลายรุ่นมาร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ในครั้งนี้ซูซูกิภูมิใจเสนอ การนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่ง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการคนมีฝันโดยจุดประกายทางใหม่ให้อาชีพร้านขายผลไม้ ด้วยการยกร้านขึ้นรถ ขับเคลื่อนความสด อร่อย พร้อมรับประทาน ไปสู่ผู้บริโภคได้ในทุกที่ จึงออกแบบตัวรถให้มีพื้นที่บรรทุกผลไม้สด และมีพื้นที่สำหรับจัดวางผลไม้พร้อมรับประทานที่ยังคงความสดใหม่เหมือนจากสวนส่งตรงถึงมือลูกค้าได้ทันที สามารถขับเคลื่อนไปเสิร์ฟความอร่อยตามสถานที่ต่างๆ หรือตลาดนัดได้สะดวกยิ่งขึ้น
นี่คืออีกครั้งหนึ่งที่ SUZUKI CARRY ฉายให้เห็นภาพการต่อยอดทุกๆ ความฝันให้เป็นไปได้ ตอกย้ำแนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนรถกระบะบรรทุกให้เป็นรถขนส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝันทั้งในด้านธุรกิจและส่วนตัว รวมถึงการช่วยเหลือสังคมเหมาะสมกับการเป็นรถที่ครองใจผู้ประกอบการตัวจริง
ความพิเศษในงานครั้งนี้ ยังสร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับผู้ที่รอคอยอีกครั้ง หลังจากการเปิดตัว “SUZUKI JIMNY” อย่างเป็นทางการ ไปในช่วงเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมสร้างปรากฎการณ์ “จิมนี่ ฟีเวอร์!” ด้วยการเปิดจองรถผ่านช่องทางออนไลน์ และมีลูกค้าแสดงความจำนงค์เพื่อจับจองรถยนต์รุ่นนี้จนเต็มโควต้าการขายล็อตแรกในประเทศไทยจำนวน 90 คัน ภายในเวลา 6 วัน
ล่าสุด ซูซูกิยังกลับมาสร้างปรากฎการณ์ จิมนี่ ฟีเวอร์! รถยนต์สไตล์ออฟโรดขนาดเล็กอีกครั้ง ด้วยการเปิดจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI JIMNY อย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,760,000 บาท และคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจซื้อเกินกว่าจำนวนโควต้าที่บริษัทฯ ได้รับ ดังนั้น บริษัทฯ จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ ลงทะเบียนจองเพื่อลุ้นรับสิทธิ์ซื้อรถยนต์ SUZUKI JIMNY ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2566 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ถึงวันที่ 2 เมษายน 2566 เวลา 22.00 น. โดยผู้ลงทะเบียนยังไม่ต้องชำระเงินจองให้กับซูซูกิ ในกรณีที่มีผู้สนใจลงทะเบียนจองเกิน 50 คัน บริษัทฯ จะทำการรวบรวมรายชื่อที่ลงทะเบียนตรงตามเงื่อนไขตามวันและเวลาที่กำหนด นำไปจับฉลากเพื่อคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์ในการซื้อรถยนต์ SUZUKI JIMNY จำนวน 50 ท่าน พร้อมประกาศผลในวันที่ 5 เมษายน 2566 ผ่านเว็บไซต์ www.suzuki.co.th ทั้งนี้ทุกท่านสามารถสอบถามรายละเอียดได้ทั้งที่ในงานนี้ และที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
ซูซูกิ ยังเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านเพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นได้ง่ายยิ่งขึ้น! ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 กับมอบแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SMART DEAL ดีลสุดสมาร์ทที่พลาดไม่ได้” โดยลูกค้าทุกท่านที่จองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี เลือกรับดอกเบี้ย 0% หรือข้อเสนอซูซูกิช่วยผ่อน นานสูงสุด 10 เดือน พิเศษสุดสำหรับลูกค้า SUZUKI CELERIO ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท
นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลาย เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้าและงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็งพร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศเข้ามาร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟลีสซิ่ง ช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายและช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับซูซูกิ ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
อย่างไรก็ตาม ซูซูกิมีความต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย เราจึงไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจคู่เคียงข้างคนไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”
ช่องทางการติดต่อ
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900