Take Care Tire With Goodyear
Click มาถึง Page นี้แล้วคงจะไม่ค่อยคุ้นกับ Take Care Car ที่หน้าตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะหลังจากที่ผมรับ Email มากมายจากท่านผู้อ่าน ถามคำถามเปลี่ยนกับตัวเลขบนยาง แล้วก็มีปัญหาว่าไปซื้อยางมาแล้ว เป็นของเก่าเก็บ ปีผลิตเก่ามาก เอามาใช้แล้วยางหมดสภาพ แข็งกรอบ ผมเลยไปกราบเรียนเชิญ “คุณสุทธิพงษ์ วรรณวานิช Marketing Director Goodyear Thailand” มาไขข้อสงสัยให้ทุกท่านพร้อมกับเคล็ดลับดี..ดี ของการเลือกใช้ยาง งั้นผมขอยกหน้าที่ของคอลัมน์นี้ให้คุณสุทธิพงษ์ เลยนะครับ
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน iAMCAR VARIETY E-MAGAZINE ทุกท่าน วันนี้ผมและGoodyear Thailand ขออนุญาตมาแนะนำเรื่องราวดี..ดี เกี่ยวกับยางรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรถยนต์เพราะเป็นชิ้นส่วนชนิดเดียวที่สัมผัสพื้นผิวถนน เราจึงควรเลือกที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยของคุณและเพื่อนรวมทาง
ก่อนอื่นมาไขข้อข้องใจของตัวเลข และ สัญลักษณ์บนยางก่อนนะครับ ว่ามีความหมายว่าอย่างไร เช่น 195/50R16 คืออะไร?
195 = ความกว้างของยาง (มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร)
50 = ความสูงของแก้มยาง คิดเป็น % ของความกว้างหน้ายาง (กรณีนี้ความสูงของแก้มยางคือ 50 % ของ 195 มิลลิเมตร= 97.5 มิลลิเมตร)
R = โครงสร้างยางแบบเรเดียล
16 = เส้นผ่านศูนย์กลางกระทะล้อ (มีหน่วยเป็นนิ้ว)
เป็นยังครับไม่ยากไปใช่ไหมครับกับการดูตัวเลขและสัญลักษณ์บนยาง คราวนี้มารู้จักวิธีการดูปีผลิตของยางรถยนต์ จะทราบได้อย่างไรว่าไม่ใช่เป็นยางเก่าเก็บจากร้านค้า?
ให้ท่านหาอักษรคำว่า DOT ให้พบก่อน
จากนั้นด้านหลัง คำว่า DOT จะมี ตัวเลขและตัวอักษร 4 ตัว มีด้วยกันอยู่ 3 ชุด
ให้ดูตัวเลข 4 ตัวชุดสุดท้าย
ตัวเลข 2 ตัวแรก คือ สัปดาห์ที่ผลิต เช่น 40 คือ ผลิตสัปดาห์ที่ 40 (1เดือน มี 4 สัปดาห์) เอา 4 หารจะได้เท่ากับ ผลิตเดือน 10 หรือเดือน ต.ค.
ตัวเลข 2 ตัวหลัง คือ ปีที่ผลิต เช่น 02 คือ ปี ค.ศ.2002
สำหรับกู๊ดเยียร์ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพยางจากกู๊ดเยียร์ ไม่ว่าจะผลิตในปีใดก็ตาม กู๊ดเยียร์ให้การรับประกันคุณภาพยางเป็นเวลา 4 ปี นับจากวันที่ซื้อจากร้านค้าของเรา
จากข้อมูลเรื่องอายุการเก็บยางตามมาตรฐาน เราสามารถเก็บยางที่ยังคงรักษาคุณภาพของยางได้ เป็นอย่างดี (โดยการตั้งยางบนชั้นวางยางที่ถูกต้องและเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม) แล้วนำมาใช้งานได้ตามปกติ
คุณผู้อ่านหลายๆท่าน ได้ทำการสอบถามมาเกี่ยวกับคุณภาพของยาง โดยกู๊ดเยียร์พบว่ายังมีความเข้าใจหรือความเชื่อว่า ยางที่มีปีผลิตใหม่ จะมีคุณภาพดีกว่ายางที่ปีผลิตเก่า
เราจึงอยากจะนำเสนอผลการทดสอบประสิทธิภาพยางรถยนต์ที่มีสัปดาห์และปีการผลิตต่างกัน เพื่อพิสูจน์ว่าเมื่อนำมาใช้งานจะมีคุณภาพต่างกันหรือไม่ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อข้อสงสัยที่ว่า “ยางที่ผลิตปีที่ใหม่กว่า กับยางปีผลิตปีเก่ากว่า มีความต่างกันหรือไม่”
วิธีการทดสอบ สถาบันยานยนต์แห่งประเทศไทย ได้ทำการทดสอบคุณภาพยางรถยนต์ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน โดยทำการเปรียบเทียบยางใน 2 ช่วงอายุ คือ ยางที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน และ 24 เดือนจากวันที่ทำการผลิต โดยทดสอบตามมาตรฐานของ มอก. แต่เพิ่มน้ำหนักบรรทุก ความเร็ว และระยะเวลาในการวิ่งที่สูงกว่าการทดสอบตามมาตรฐาน มอก.* และสูงกว่าการใช้งานปกติ
ผลการทดสอบปรากฏว่า ประสิทธิภาพของยางไม่มีความแตกต่างกันเลย ทั้งในด้านคุณภาพยาง โครงสร้างยาง และความแข็งแรงทนทาน (ข้อมูลจาก กรมการค้าภายใน)
ดังนั้น หากคุณผู้อ่านท่านใดที่กำลังจะเปลี่ยนยางรถยนต์ กู๊ดเยียร์ขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ยาง โดยพิจารณาจาก ความต้องการในการใช้งาน ลักษณะการขับขี่ สภาพการใช้งานจริงเป็นหลัก ซึ่งคุณจะได้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมและดีกับคุณที่สุด แทนการเลือกยางจากปีผลิต ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
การเลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับตัวคุณ
หากคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนยางชุดใหม่ให้กับรถคันโปรดของคุณ การเลือกยางชุดใหม่นั้นควรเลือกใช้โดยพิจารณาจาก ความต้องการในการใช้งาน ลักษณะนิสัยในการขับขี่ของคุณ รวมถึงสภาพถนนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้เลือกใช้ยางที่ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการขับขี่ ความคุ้มค่าและความปลอดภัย
คงไม่มียางใดที่เหมาะสมกับตัวคุณได้ดีไปกว่ายางที่คุณตัดสินใจเลือกด้วยตนเอง เพราะคุณจะได้ยางที่มีสมรรถนะตรงตามความต้องการ ให้ความคุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไปและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่คุณ ดังนั้นกู๊ดเยียร์ขอแนะนำประเภทยางรถยนต์เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ดังนี้
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
Goodyear Duraplus (ดูราพลัส) ยางสำหรับรถยนต์นั่งขนาดกลางและเล็ก รายแรกและรายเดียวที่วิ่งได้ไกล 100,000 กิโลเมตรบนถนนจริงในเมืองไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยางสำหรับการเดินทางในระยะทางไกลเป็นประจำ หรือใช้รถทุกวัน ได้ทั้งความประหยัดและความปลอดภัยสูงสุด คุ้มค่าในราคาสบายๆ
Goodyear Assurance (แอชชัวรัน) ยางสำหรับรถยนต์นั่งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่ต้องการทั้งสมรรถนะและความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการใช้เส้นใย Kevlar ซึ่งมีความแข็งแกร่งกว่าเหล็กถึง 5 เท่า ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า มาทดแทนเส้นใยเหล็กบนโครงสร้างหน้ายาง เหมาะสำหรับคุณๆที่ต้องการยางที่ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าทั้งด้านความปลอดภัย การเกาะถนน การรีดน้ำ และประหยัดน้ำมัน เพื่อความมั่นใจได้ทุกเส้นทาง
Goodyear Eagle F1 Asymmetric ยางสปอร์ตสมรรถนะสูงจากกู๊ดเยียร์ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก เป็นยางที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารรถยนต์ชั้นนำของโลก ให้เป็นยางความเร็วสูงที่ดีที่สุดในโลก เป็นหนึ่งเรื่องความเร็ว การเข้าโค้ง การเกาะถนน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ความแรง การแต่งรถ และต้องการให้รถยนต์ของคุณไปได้สุดพลัง
รถ SUV / Pick Up
Goodyear Wrangler HP All Weather (แรงเลอร์ เอชพี ออลเวทเธ่อร์) ยางสมรรถนะสูงสำหรับรถ SUV ด้วยดอกยาง Smart Tread ที่สามารถปรับพื้นผิวสัมผัสของหน้ายางให้เข้ากับทุกสภาพถนน ในทุกสภาพภูมิอากาศได้เป็นอย่างดี เพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน มีเส้นใย Kevlar เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างหน้ายาง ให้ความเงียบ นุ่มสบาย ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งทนทาน
Goodyear Wrangler AT/SA (All Terrain Silent Armor แรงเลอร์ เอที เอสเอ) ยางสมรรถนะสูงสำหรับการใช้งานกึ่งออฟโรด เด่นด้วยเส้นใย Kevlar เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างหน้ายาง เพิ่มความแข็งแกร่งทนทาน และให้ประสิทธิภาพด้านการดูดซับเสียง พร้อมเทคโนโลยีแก้มยางแบบ Durawall ที่ทนทานต่อการบาดและทิ่มต่ำจากหินหรือขอบทาง ใหม่ล่าสุดด้วยการพัฒนาเนื้อยางสูตรพิเศษ ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งานของดอกยางเพิ่มขึ้นถึง 20%
Goodyear DuraSport Aquatread (ดูราสปอร์ต อะควาเทรด) ยางสมรรถนะสูงสำหรับรถปิกอัพไลฟ์สไตล์ จากการเป็นผู้นำเทคโนโลยียางรีดน้ำของโลก กู๊ดเยียร์ได้พัฒนายางสำหรับรถปิกอัพด้วยเทคโนโลยี Aquatraction เพื่อให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำได้มากถึง 22 ลิตรต่อวินาที เป็นยางรถปิกอัพรายเดียวที่ออกแบบลายดอกยางแบบ Directional ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง เกาะถนน ความปลอดภัย ในภูมิอากาศและสภาพถนนของประเทศไทย
วิธีการดูแลรักษายางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคุณ
1.หมั่นตรวจวัดลมยางอย่างสม่ำเสมอ และรักษาระดับลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด เพราะลมยางที่น้อยไป ก็จะส่งผลให้เกิดการกินน้ำมันที่มากขึ้น และดอกยางจะสึกหรอบริเวณไหล่ยาง พวงมาลัยก็จะหนักขึ้น จากแรงต้านการหมุนที่เพิ่มขึ้น หรือถ้าเราเติมลมยางมากเกินไป ดอกยางก็จะสึกหรอมากบริเวณตรงกลางหน้ายาง ดังนั้น คุณจึงควรเติมลมยางให้เหมาะสม โดยอ้างอิงจากแรงดันลมยางที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด ซึ่งคุณสามารถดูได้ที่แผ่นสติ๊กเกอร์ตรงข้างประตูคนขับหรือที่สมุดคู่มือประจำรถ
2.ตรวจสอบหน้ายางและแก้มยางว่ามีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นหรือไม่เช่น รอยบาด การบวม มีรอยทิ่มแทงของตะปู ถ้ามีแผลที่แก้มยางไม่ควรซ่อม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพราะแก้มยางจะทำหน้าที่รับน้ำหนัก และมีการบิดตัวไปมาขณะรถยนต์เคลื่อนที่ อาจเกิดอันตรายแก่คุณได้
3.สลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น และมีการสึกหรอที่ดอกยางเท่ากันทุกเส้น
4.ตรวจสอบศูนย์ล้อ และช่วงล่างตามระยะที่กำหนด ปรับแก้กรณีพบปัญหา เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อประสิทธิภาพและอายุของยาง