โตโยต้าเชิญพบกับการเปิดงาน ”Hilux Generation” ตอกย้ำความเป็นรถเคียงข้างคนไทยมายาวนาน ครอบคลุมทุกการใช้งาน พร้อมแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 มาพร้อมกับเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5
โตโยต้าเชิญพบกับการเปิดงาน ”Hilux Generation” พร้อมแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยนางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ร่วมเปิดงาน “Hilux Generation” ตอกย้ำการเป็นรถกระบะมหาชนครองใจคนไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล เมื่อวันที่ 20 มีนาคมนี้ ที่ TOYOTA ALIVE บางนา
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า“นับตั้งแต่เปิดตัว IMV รุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้มีการส่งมอบรถ IMV ให้กับลูกค้าชาวไทยแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านคัน ซึ่งนอกจากประสบความสำเร็จด้วยการขายภายในประเทศแล้ว เราได้ส่งออกรถในโครงการ IMV กว่า 4 ล้านคัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่น ๆ กว่า 120 ประเทศ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนการผลิตภายในประเทศ เป็นการตอกย้ำว่าโครงการ IMV มีส่วนช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานให้แก่คนไทย “ผมเชื่อว่า ด้วยความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยในโครงการ IMV และ แบรนด์โตโยต้า พร้อมด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนโครงการ IMV ถูกขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน”
ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประสบความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้ภาพรวมตลาดลดลง 9% โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่มียอดขายลดลงถึง 32% อย่างไรก็ตาม รถกระบะ HILUX REVO กลับมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ทำให้ภาพรวมของส่วนแบ่งการตลาดของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากที่ HILUX CHAMP ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้ปีนี้ โตโยต้ายังได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถกระบะและสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 47% ในช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นใจของคนไทยในรถกระบะ HILUX และแบรนด์โตโยต้า แต่ในขณะเดียวกัน เราจะไม่หยุดลงทุนเพื่อพัฒนา และมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าชาวไทย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานรถกระบะที่สามารถตอบโจทย์ ตั้งแต่กลุ่มขนส่งหนักขนส่งเบา และกลุ่มที่ใช้เป็นรถส่วนบุคคล”
HILUX REVO รุ่นปรับปรุงใหม่ ตอกย้ำความเป็นรถกระบะขวัญใจมหาชน
1. Hilux Revo Z Edition ทั้งรุ่น Double cab และ Smart cab ด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ ไฟตัดหมอก ไฟหน้ารมดำ และวัสดุภายนอกสีดำเมทัลลิกในรุ่น MID ภายนอกโฉบเฉี่ยว ดุดัน ตามคำเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ ให้มีสไตล์ เท่ เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเพื่อคนไทย ทั้ง VSC และ HAC ในทั้งสองรุ่นย่อย
2. Hilux Revo Smart Cab Pre-runner & 4×4 ปรับโฉมตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ที่ชอบการออกแบบกระจังหน้าแบบ REVO-D ช่วยเสริมภาพลักษณ์รถกระบะใช้งานส่วนบุคคล และระบบช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมือง
3. Hilux Revo GR-Sport 4×4 นิยามความแกร่ง สปอร์ตพรีเมี่ยม กระบะสายพันธ์แกร่งรุ่นเรือธงที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่งออฟโรดแรลลี่ ด้วยสมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศกับเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ 224 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร ปรับจูนช่วงล่าง เพิ่มความกว้างฐานล้อ (wide tread) ด้านหน้าขึ้นอีก 140 มม ด้านหลัง 155 มม และเปลี่ยนเบรกหลังเป็นดิสก์เบรก ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น
นอกจากปรับการออกแบบภายนอกแล้ว ยังเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
มร.ยามาชิตะ กล่าวย้ำว่า “HILUX REVO ทุกรุ่น ได้ปรับปรุงให้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ระดับยูโร 5) ที่ช่วยลดการปล่อยละออง PM2.5 อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า HILUX REVO ใหม่ และ HILUX CHAMP จะเป็นรถที่ครองใจคนไทย และได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นที่ผ่านมา ทั้งสามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่สูงยิ่งขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้น เรามุ่งหวังว่า HILUX จะยังคงเป็นรถที่สร้างรอยยิ้มไปพร้อมๆกับช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สมกับที่ได้การขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน”
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “Hilux Generation เกิดขึ้นจากการที่รถกระบะ HILUX ของเราอยู่เคียงข้างและครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน และครอบคลุมทุกการใช้งานของคนไทย ด้วยยอดจำหน่ายรถกระบะของโตโยต้ากว่า 14,233 คัน คิดเป็น 46.8% ในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ของส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถกระบะ สะท้อนให้เห็นว่าโตโยต้านั้นยังเป็นคำตอบสำหรับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มการเน้นการใช้งานบรรทุกหนักจากรุ่น HILUX CHAMP ที่ได้เปิดตัวล่าสุดไปเมื่อปลายปี 2566 เพื่อเน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างรุ่น HILUX REVO Pre-runner รวมทั้งรุ่น HILUX REVO Z Edition กระบะตัวเตี้ยใช้งานได้หลากหลาย หรือตกแต่งตามกระแสนิยมไปจนถึงการใช้งานระดับ high performance กับรุ่น HILUX REVO GR-Sport
กระบะ HILUX ได้รับความไว้วางใจและการขนานนามจากกลุ่มลูกค้ามาอย่างสม่ำเสมอว่าเป็น King of off-road ด้วยชื่อเสียงจากสมรรถนะอันเป็นเลิศของระบบการขับเคลื่อน 4×4 ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีพลกำลังและเทคโนโลยีในการขับขี่รอบด้าน ทำให้กระบะ HILUX มีความทนทานพร้อมรับทุกความท้าทายจากทุกวิถีแห่งการใช้งาน และในครั้งนี้ โตโยต้าได้แนะนำ รถกระบะ Hilux Revo GR-Sport 4×4 ใหม่เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ชื่อชอบการใช้งานกระบะสมรรถนะสูง และ ตอกย้ำว่าโตโยต้าเป็นเจ้าตลาดด้านการพัฒนารถกระบะมาอย่างต่อเนื่อง”
นายศุภกร เล่าถึงเรื่องราวของการปรับปรุงรุ่น Prerunner ว่า “เราได้ตอกย้ำจุดขายกระบะไลฟ์สไลต์คนเมือง สำหรับออกไปทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมสื่อสารเรื่องช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบายเพราะถูกปรับมาให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง เพื่อเป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานของรถกระบะยกสูงซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานเป็นรถในชีวิตประจำวัน ขับอยู่ในเมือง และมองหารถใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ขับขี่สะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นแบบพรีเมียม และสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตเชิงไลฟ์สไตล์ได้ เช่น การท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “ให้คุณใช้ชีวิตได้มากกว่า” ซึ่งเราเน้นการสื่อสารแบบใช้งานจริงผ่านทุกช่องทาง เช่น อินฟลูเอนเซอร์ และออนไลน์คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นว่ารถกระบะนั้นก็สามารถใช้งานเป็นรถยนต์นั่งส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบายและช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่หรูหราได้เช่นกัน”
คุณอัญญารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการปรับปรุงรุ่น Smart Cab และรุ่น Z Edition ว่า“เราเห็นถึงความสำเร็จในดีไซน์ของรุ่น Hilux REVO-D ยกสูงที่มีรูปลักษณ์พรีเมี่ยม เป็นที่ถูกใจลูกค้าชาวไทยกลุ่มใช้งานส่วนบุคคล และจากการที่โตโยต้าลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ใช้จริงทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่องนั้น เราได้รับเสียงเรียกร้องจากลูกค้าในรุ่นสมาร์ทแค็บยกสูง ว่าอยากได้รูปลักษณ์แบบ REVO-D ยกสูง เราจึงขยายดีไซน์ลงมาในสมาร์ทแค็บยกสูงทุกเกรด เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์มีความเป็นใช้งานส่วนบุคคุลมากขึ้น และสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของมากขึ้น
ส่วนในตระกูล Z Edition เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีเอกลักษณ์การใช้งานกระบะขับเคลื่อนสองล้อที่ไม่เหมือนใครในตลาดโซนเอเชียซึ่งเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยลูกค้าคนไทยนั้นนิยมใช้งานเพื่อการขับขี่เป็นรถส่วนตัว ความต้องการเรื่องเอกลักษณ์ของรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นลูกค้าวัยรุ่น ยังมีความชื่นชอบในการตกแต่ง ปรับจูนรถ เพื่อทำให้รถตอบสนองการความต้องการ และ แสดงตัวตนผ่านการตกแต่งรถด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่มีในท้องตลาด ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทางทีมออกแบบและพัฒนาจึงได้ทำให้รถกระบะเพื่อการใช้งานกลายเป็นรถกระบะสปอร์ตที่ผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยว แต่ดูเรียบหรู ด้วยราคาที่จับต้องได้ และพร้อมที่จะต่อยอดตกแต่งเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และ แสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าแต่ละท่าน ยิ่งไปกว่านั้น เราได้เพิ่มสเปคเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟตัดหมอกในรุ่นMID และ ระบบ VSC ที่มาพร้อมกับ HAC ในทุกรุ่นของ Z Edition อีกด้วย”
พร้อมแนะนำ Hilux REVO GR Sport 4×4 สุดยอดแห่งรถกระบะสมรรถนะสูง
คุณอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดการปรับปรุงใหม่ของ HILUX REVO GR-Sport Wide Tread ว่า “HILUX REVO GR Sport 4×4 เป็นรถที่ออกแบบและพัฒนา ภายใต้วิสัยทัศน์ “Making Ever-better Motorsports-bred Cars” ด้วยความมุ่งหวังให้เป็นมากกว่าแค่รถกระบะเพื่อการใช้งาน แต่เป็นรถที่จะร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่และการผจญภัย Hilux REVO GR Sport 4×4 จะเพิ่มความสนุกในการขับขี ทีมพัฒนาได้เพิ่มขีดจำกัดในการขับขี่ ทั้งบนถนนทางเรียบ (ออนโรด) และ ทางขรุขระที่มีอุปสรรคธรรมชาติ (ออฟโรด)
Hilux REVO GR Sport 4×4 ถูกพัฒนา มีการปรับความสูงและความกว้างของรถ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการข้ามผ่านอุปสรรคบนถนนออฟโรด และยังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่บนถนนทางเรียบ อีกทั้งเครื่องยนต์ได้ถูกพัฒนาเพิ่มกำลังเพื่อเพิ่มความสนุกและการตอบสนองในการขับขี่ ในส่วนของดีไซน์ Hilux REVO GR Sport 4×4 มาพร้อมกับการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง rally และ รูปลักษณ์ที่สปอร์ตทั้งภายนอก และ ภายในตามคอนเซปต์ของ Gazoo Racing ที่มาคู่กับความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์”
Highlight ของ Hilux REVO GR Sport 4×4
- ดีไซน์ภายนอก Hilux REVO GR Sport 4×4 ได้รับการออกแบบให้มีความเป็นรถกระบะออฟโรด DAKAR Rally ออกแบบให้มีทั้งการป้องกันในการก้าวข้ามอุปสรรค ในขณะเดียวกันก็จัดการเรื่องอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดี จุดเด่นคือดีไซน์ใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมตัวถังขนาดกว้างขึ้นและสูงขึ้น มิติองศาด้านหน้าเชิดขึ้น 20 มิลลิเมตร ก้าวข้ามขีดจำกัดในเส้นทางออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น
- สมรรถนะเครื่องยนต์ Hilux REVO GR Sport 4×4 ใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.8 ปรับจูนใหม่ แรงขึ้น 10% กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 550 นิวตัน/เมตร พร้อมเกียร์ที่ตอบสนองได้เร็วขึ้น สอดรับกับกำลังเครื่องยนต์เป็นอย่างดี พร้อมโหมดสปอร์ตที่ปรับจูนมาเฉพาะรุ่น
Hilux REVO GR Sport 4×4 รีดกำลังเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ขับสนุกได้ทุกเส้นทาง - ระบบช่วงล่าง มีการปรับปรุงให้มีระยะฐานล้อหน้ากว้างขึ้น 140 มิลลิเมตร ด้านหลัง 155 มิลลิเมตร ช่วยให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ความสูงจากพื้นเพิ่มขึ้น 37 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบโช้คอัพหน้ากระบอกเดี่ยว (Monotube) พร้อมปรับจูนคอยน์สปริง ระบบโช้คอัพหลังพร้อมแหนบแบบนุ่ม เบรกหลังพัฒนาจากดรัมเบรคเป็นดิสเบรก ตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์สีแดง เพิ่มความสปอร์ตให้
กับรถ ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว มาพร้อมกับยาง BF Goodrich All terrain 265/65R17 - ดีไซน์ภายใน อัพเกรดให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น ในห้องโดยสารที่มีธีมสีดำทั้งคัน เบาะวัสดุหนังกลับ (Suede) กระชับตัวผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น ดีไซน์สอดรับกับสมรรถนะความเป็นรถแข่ง โทนสีดำภายในตัดด้วย เซนเซอร์มาร์กและเข็มขัดนิรภัยสีแดง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบาย อาทิ จอกลางคอนโซลขนาด 10.25 นิ้ว พร้อม Wireless Apple Carplay & Android Auto แท่นชาร์ตโทรศัพท์แบบไร้สาย
พร้อมแนะนำชุดแต่ง ตอบรับกลุ่มแฟนคลับในการแต่งรถ
นายศุภกรฯ กล่าวแนะนำแนวคิดการพัฒนา HILUX ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งรถ ว่า “ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นลูกค้าใช้งานโดยมีความสร้างสรรค์เป็นเอกลักษณ์ และมีความชื่นชอบในการปรับแต่งรถยนต์ ทั้งภายนอก ภายใน และ เครื่องยนต์ เพื่อรองรับแนวโน้มที่จะมีการแต่งรถเพิ่มมากขึ้น โตโยต้าเตรียมชุดแต่งไว้รองรับ หรือ นำเสนอไอเดียการแต่งเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าเห็นไม่ว่าจะเป็น Hilux Revo-D Z Edition พร้อมชุดแต่ง Z-runner ซึ่งเป็นรถคอนเซ็ปต์ที่คิดขึ้นมาโดยทีมงานโตโยต้าของเราเอง เป็นสไตล์แข็งแกร่ง ใช้งานง่ายขึ้น ที่นำรถตัวเตี้ยมาเสริมด้านข้างและยกให้สูงขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีการร่วมงานกับ 2 อู่ดัง ได้แก่ เม้ง-การยาง และน้าแจ่ม AZC ในประเทศเพื่อสร้างต้นแบบการแต่งรถ Z Edition คันแรกๆ ในประเทศ”
เปิดประสบการณ์แห่งความประทับใจกับกิจกรรมจาก รถกระบะมหาชน มากมายตลอดทั้งปี
นายศุภกร กล่าวเพิ่มเติมว่า“ในปีนี้โตโยต้ามีกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้มาทดลองการขับขี่จริงอย่างเต็มระบบ อาทิ กิจกรรม Off-road experience day ซึ่งเราต้องการให้ลูกค้าได้รู้จักและใช้งานรถได้อย่างเต็มศักยภาพที่มี นอกจากนี้ยังมีการร่วมจัดรายการแข่งขันรถยนต์ออฟโรด โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 10 เซียนประจัญบาน ที่สนาม Grand Prix Motor Park จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในงานผู้เข้าร่วมสามารถทดลองขับไฮลักซ์ รีโว่ แบบออฟโรดในสนามจริง พร้อมชมการแข่งกันออฟโรดมืออาชีพ แต่หากลูกค้าท่านใดที่สนใจทดสอบรถกับสนามที่ได้มาตรฐานในกรุงเทพฯ ก็สามารถมาได้ที่ Toyota Alive บางนา โดยมีสถานีออฟโรดให้ลูกค้าได้ทดลองรถแบบครบวงจร และที่สำคัญทดลองฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย”
“นอกจากนี้ ในปัจจุบันเราเล็งเห็นว่ามีอู่ตกแต่งรถที่มีชื่อเสียงมากมายเกิดขึ้น เราจึงมีความตั้งใจและพยายามจะเชื่อมกระชับสังคมลูกค้าและอู่ต่าง ๆ ผ่านกิจกรรม Racing mania ที่เราจัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ รวม 5 สนามในหลายจังหวัด และการแข่งขันมีตั้งแต่รุ่นสมัครเล่นไปจนถึงรุ่นโปรที่ใช้ชื่อว่า Super Revo ที่มีอู่ดังมากมายมาเข้าร่วมการแข่งขัน จึงขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบมาร่วมชม และเข้าร่วมการแข่งขันแดรกแบบมาตรฐานและถูกต้องในสนามปิด อีกทั้งเรายังมีอู่ชั้นนำ พาร์ทเนอร์ รวมถึงร้านอาหาร ร้านค้ามากมาย มาเข้าร่วมออกบูธ ลด แลก แจก แถม ภายในงาน ถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐระดับภูมิภาคอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานได้ที่ Facebook Racing Mania
อีกหนึ่งกิจกรรมคือ กิจกรรมอาชีวะ ท้า แต่ง แซด ที่เกิดขึ้นเพราะโตโยต้าตั้งใจส่งเสริมทักษะและ ศักยภาพของน้องๆอาชีวะ เปลี่ยนความชอบให้เป็นอาชีพ เพื่อให้สามารถต่อยอดได้ในอนาคต โดยเราได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมอาชีวะศึกษา เชิญชวนน้องๆ ชาวอาชีวะมาสร้างไอเดียการตกแต่งกระบะ REVO Z Edition ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา เราได้ทดลองจัดการแข่งขันในเขตจ.ชลบุรี ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และในปีนี้การแข่งขัน อาชีวะ ท้า แต่ง แซด ปี2 เราจะขยายการแข่งขันให้เป็นระดับประเทศ ซึ่งจะเปิดรับสมัครช่วงกลางปี 2567 นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัคร ได้ที่ Facebook Hilux Revo Thailand”
โดยในงานนี้ โตโยต้ายังได้เปิดตัวหนังโฆษณาตัวใหม่สำหรับ Revo Z Edition ภายใต้ธีม “อารยธรรมแสบ แซดให้โลกเห็น” เพื่อเจาะกลุ่มชาวกระบะตัวเตี้ยที่มักจะรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น รวมถึงการแนะนำ พรีเซ็นเตอร์-แบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่สามารถเป็นตัวแทนกลุ่มของลูกค้า ทางบริษัทฯ ได้เลือกคุณเก้า จิรายุ ละอองมณี ร็อกเกอร์ และ นักแสดงตัวแทนชาวแซด เจนแสบ พร้อมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ อีกสองท่าน ประกอบไปด้วย ดี เจอร์ราร์ด ศิลปินสุดเท่ มาดแสบ ที่มีเพลงดังเช่น Galaxy 249 ล้านวิว หรือเพลงใหม่ที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้เช่น รถไฟฟ้า (Galaxy Express) ที่มีผู้ชมรวมกว่า 51 ล้านวิว และ คุณแอน อรดี ซุปตาร์หมอลำลีลาแสบแซด ที่มีเพลงฮิตติดหูอย่างเช่น ป๋าเมียมาเลย และ ลืมฮูดซิบ ซึ่งศิลปินทั้งสามท่านถือเป็นตัวแทนความนิยมในแต่ละด้านเพื่อสื่อสารกับลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งศิลปินทั้งสามท่านจะร่วมแสดงในหนังโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ให้มากที่สุด”
นายศุภกรฯ กล่าวเสริมถึงกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานรถกระบะเพื่อการพาณิชย์และการตลาดของ “HILUX CHAMP” ว่า “การใช้งานของรถกระบะเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มขนส่งหนัก กลุ่มขนส่งเบา และกลุ่มที่นำรถไปดัดแปลงเพื่อตอบโจทย์ Mobility Business ต่าง ๆ (Foodtruck รถ Kiosk หรือรถร้านค้า) ซึ่งเป็นที่ทราบโดยส่วนใหญ่ว่า โตโยต้ามีกระบะแสตนดาร์ดแค็ป ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมด้วยเครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 ซึ่งได้ผ่านการพิสูจน์เรื่องความทนทาน และสมรรถนะจากผู้ใช้จริงมาหลายปี ทำให้เราสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดมาโดยตลอด ในปีนี้เราได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย VSC และ HAC ในตลาด 4×4 เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ขนส่งระยะไกล โดยในปีนี้ เราจะเน้นการทำตลาดในเครื่องใหญ่อย่าง 2.8 ที่โดดเด่นเรื่องการออกตัว มีสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร เหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มกระบะต่อคอกที่ขนหนัก
และด้วยความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีกับ HILUX CHAMPทำให้เราได้รับยอดจองมากกว่า 5,000 คัน ตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งจากการสำรวจตลาดช่วงแรกนี้ เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มลูกค้าที่สนใจ HILUX CHAMP กว่า 80% เป็นเจ้าของธุรกิจ เน้นขนส่งเบา และบางส่วนก็นิยมดัดแปลงรถ เพื่อเป็น Mobility Business และลูกค้ากลุ่มที่นำไปดัดแปลงแต่งเพื่อความสวยงาม และดัดแปลงตามไลฟ์สไตล์ต่างๆ ซึ่งพบเป็นจำนวนมากหลังจากที่รถได้เปิดตัวออกไปการมาของ Hilux Champ ในครั้งนี้ จึงถือว่าเราได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ๆ และสามารถสร้างสีสันในธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่ง ตลาดดัดแปลง และสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ หรืออู่แต่งรถท้องถิ่นได้อย่างดี”
ราคาอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (รวม VAT และเครื่องปรับอากาศ)
โดย Hilux Revo รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2567
B-cab | ราคา เริ่มต้น 584,000 – 801,000 บาท |
Z Edition | ราคา เริ่มต้น 669,000 – 862,000 บาท |
Pre-runner | ราคา เริ่มต้น 775,000 – 1,072,000 บาท |
4×4 | ราคา เริ่มต้น 944,000 – 1,252,000 บาท |
Rocco | ราคา เริ่มต้น 1,006,000 – 1,326,000 บาท |
GR-Sport | ราคา เริ่มต้น 934,000 – 1,499,000 บาท |
หมายเหตุ:
1.ราคาขายข้างต้น อ้างอิงจากราคาสีรถแบบเมทัลลิค
2.ราคาขายสำหรับรุ่น Rocco และ GR Sport ข้างต้น เป็นราคารวมอุปกรณ์ตกแต่งที่ติดตั้งโดยบริษัท ไทย ออโต้ คอนเวอร์ชั่น จำกัด
โดยมี 8 สี ให้เลือกดังนี้
Super White [ลด 7,000 บาท]
Platinum White Pearl [เพิ่ม 10,000 บาท]
Silver MetallicDark Grey MetallicAttitude
Black Mica
Dark Blue Mica
Oxide Bronze Metallic
Emotional Red [เพิ่ม 10,000 บาท]
พิเศษสุด!! สำหรับลูกค้า ไฮลักซ์ รีโว่ ดับเบิ้ลแค็บ 2×4 รุ่นปรับปรุง ปี 2567
ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์25% ผ่อน 48 งวด) + ประกันภัยชั้น1 Toyota Care PHYD
ทางเลือกที่ 2 : ผ่อนเริ่มต้น 8,585 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.09%) พร้อมประกันภัย
ชั้น1 Toyota Care PHYD
พร้อมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพจาก 3 ปีเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมทั้งฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม.