Yokohama ทุ่มกว่า 260 ล้าน เปิดสนามทดสอบเฟสใหม่ (TTCA) ใหญ่สุดในเอเชีย
Yokohama ทุ่มกว่า 260 ล้าน เปิดสนามทดสอบเฟสใหม่ (TTCA) ใหญ่สุดในเอเชีย ยกระดับเป็นศูนย์ฯ ระดับโลก-รองรับ AEC ลั่นได้ฤกษ์เจาะตลาดยางรถทุกเซกเมนต์
Yokohama ทุ่มกว่า 260 ล้านบาท เปิดสนามทดสอบเฟสใหม่ ภายใน “Yokohama Tire Test Center of Asia” (TTCA) จังหวัดระยอง ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการคิดค้นวิจัยและพัฒนายางรถยนต์ระดับโลก และเป็นฐานผลิตที่สำคัญในอาเซียน รองรับการเปิด (AEC) ในปี 2558 ประกาศลั่นได้เวลาโหมกลยุทธ์การตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งเปิดตลาดยางให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และเดินหน้าเจาะตลาด OEM กับค่ายรถยนต์ในไทย
มร.คุนิฮิโคะ คาคิกิ (Mr.Kunihiko Kakigi) รองประธาน (ฝ่ายบริหาร) บริษัท โยโกฮามา ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดดำเนินการ “Yokohama Tire Test Center of Asia” (TTCA) จังหวัดระยอง ในปี 2552 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการคิดค้นวิจัยและพัฒนายางรถยนต์ Yokohama ก่อนจะนำยางที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดไปผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก ล่าสุดได้เปิดสนามทดสอบเฟสใหม่ ที่มีมูลค่าการก่อสร้างมากกว่า 260 ล้านบาท (หรือมากกว่า 800 ล้านเยนญี่ปุ่น) ส่งผลให้ศูนย์ฯ แห่งนี้ มีมูลค่าการลงทุนแล้วมากกว่า 1,500 ล้านบาท
สนามทดสอบเฟสใหม่ ภายใน “Yokohama Tire Test Center of Asia” (TTCA) แห่งนี้ ประกอบด้วยพื้นผิวถนนแห้งที่ใช้ทดสอบการยึดเกาะถนนของยาง และเนื้อยางคอมปาวด์ที่คิดค้นวิจัยพัฒนาขึ้น บริเวณพื้นที่ตรงกลางสนาม สร้างเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งสปริงเกอร์ฉีดน้ำ เพื่อใช้ทดสอบการยึดเกาะถนนของยาง เมื่อต้องขับขี่บนพื้นผิวถนนเปียกและมีความโค้งมากๆ นอกจากนี้ยังมีแอ่งน้ำไฮโดรแพลนนิ่ง เพื่อใช้ทดสอบและเก็บค่ายางรถยนต์ที่ถูกออกแบบดอกยางให้มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำ ส่งผลให้ (TTCA) แห่งนี้ มีขีดความสามารถในการทดสอบยางรถยนต์และการใช้งานของยางรถยนต์ประเภทต่างๆ ครอบคลุมหลากหลายรุ่น ทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุก และรถโดยสารขนาดใหญ่ ที่ผลิตจากโรงงานกลุ่มบริษัทโยโกฮามา รับเบอร์ ในประเทศญี่ปุ่น เอเชีย และสหรัฐอเมริกา
“ประเทศไทยมีศักยภาพความพร้อมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ บุคลากรมีทักษะฝีมือแรงงานสูง ระบบโลจิสติกส์และการคมนาคมเชื่อมโยงกับทุกชาติในอาเซียนได้สะดวก อีกทั้งในปี 2558 ภูมิภาคนี้จะเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน หรือ (AEC) จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ โยโกฮามา รับเบอร์ ประเทศญี่ปุ่น เล็งเห็นความสำคัญในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาคนี้ นอกเหนือจากการมีสภาพภูมิอากาศคงที่ เหมาะต่อการคิดค้นวิจัยเพื่อผลิตยางรถยนต์ที่ตอบสนองต่อตลาดในภูมิภาคเขตร้อนชื้น ซึ่งทำให้การเก็บฐานข้อมูลได้ความคงที่ และช่วยให้การพัฒนายางทำได้เร็วกว่าปกติ ซึ่งต่างจากสภาพอากาศในประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน Yokohama มีมาตรฐานการคิดค้นวิจัยและผลิตยางในทุกขั้นตอน ซึ่งเรารักษามาตรฐานนี้มาอย่างเข้มข้นโดยตลอด หากทดสอบแล้วยางให้ประสิทธิภาพไม่ดี จะไม่อนุมัติให้ผ่านไปสู่ผู้บริโภคอย่างเด็ดขาด” มร.คุนิฮิโคะ คาคิกิ กล่าวและเปิดเผยต่อว่า “ในอนาคตมีแผนจะพัฒนาความโค้งของสนามแห่งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทดสอบยางรถยนต์สมรรถนะสูง โดยจะปรับความเอียงทางโค้งให้มากกว่า 11 องศาในปัจจุบัน มาเป็น 40 องศา มากกว่าสนาม DPRAC ของโยโกฮาม่าในประเทศญี่ปุ่น ที่มีความโค้ง 25 องศา ทำให้สนามแห่งนี้รองรับการทำความเร็วได้กว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะเร่งสร้างสนามทดสอบให้รองรับทุกรูปแบบการทดสอบเพื่อฉลอง ครบรอบ100 ปีของ Yokohama ในปี 2560”
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา (Mr.Yutaka Furukawa) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวเสริมว่า การขยายสนามทดสอบ “Yokohama Tire Test Center of Asia” เฟสใหม่ในครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพความพร้อมที่เหนือระดับไปอีกขั้น ซึ่งจะช่วยเติมเต็มในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
“การที่บริษัทมีความพร้อมที่สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในส่วนของโรงงานผลิตยางรถยนต์ ศูนย์วิจัยและพัฒนายางรถยนต์ระดับโลก ที่มีสนามทดสอบยางใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย รองรับการทดสอบยางหลากหลายรุ่น และมีบริษัทที่รับผิดชอบการทำตลาด ย่อมทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น นับจากนี้ไป Yokohama จะทวีความเข้มข้นในการบุกเบิกเปิดตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยให้ครอบคลุมกลุ่มยางรถยนต์ในทุกเซกเมนต์ มิใช่เฉพาะยางรถยนต์สมรรถนะสูงที่ Yokohama มีชื่อเสียง และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกแล้วเท่านั้น และถือเป็นจุดเริ่มต้นการทำตลาด OEM กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยอย่างจริงจังอีกด้วย” มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวในท้ายสุด
{gallery}Yokohama TTCA{/gallery}