CEO Tata Motor ประกาศตั้งเป้าติด Top 3 ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ภายใน 3 ปี
Tata Motor ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ตั้งเป้าหมายเป็นหนึ่งใน 3 ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของโลก และเป็น Top 3 ของผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในอินเดีย ภายในปี 2019 (พ.ศ. 2562) หลังจากการเข้ารับตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ Tata Motor ของ มร.กุนเทอร์ บุทส์เช็ค ผู้บริหารชาวเยอรมัน ที่ออกมาประกาศถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในวิสัยทัศน์และพันธกิจใหม่ของ Tata Motor ภายใต้แนวคิด “ฟิวเจอเรดี้” (Futuready)
Tata Motor ตั้งเป้าติด Top 3 ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
“เราได้วางทิศทางการเติบโตของเราสำหรับในอีก 3 ปี ข้างหน้า จนถึงปี 2019 โดยเราได้กำหนดเป้าหมายอันท้าทายความสามารถ และต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ซึ่งเรามั่นใจว่าหากเราใช้ประสิทธิภาพที่แท้จริงอย่างเต็มความสามารถ จะสามารถบรรลุผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในทุกๆ ปีงบประมาณระหว่าง 3 ปี นี้” มร.กุนเทอร์ บุทส์เช็ค กล่าว
ตามรายงานประจำปี Tata Motor เป็นหนึ่งในสิบของผู้นำตลาดโลกในด้านผู้ผลิตรถบรรทุกและรถโดยสาร ในขณะที่ ทาทา มอเตอร์ส อยู่อันดับ 4 ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของอินเดีย จากยอดจำหน่ายในระหว่างปีงบประมาณ 2016 นี้
มร.กุนเทอร์ บุทส์เช็ค กล่าวต่อไปอีกว่า “ Tata Motor จะต้องเป็นหนึ่งในท็อปทรีของโลก สำหรับตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งต้องขึ้นไปเป็นท็อปทรีของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในอินเดีย”
ส่วนอีก 2 เป้าหมายที่ซีอีโอคนใหม่ของ Tata Motor วางไว้นั้นคือ การรักษาสถานภาพทางการเงินให้มั่นคงอย่างยั่งยืน และการคิดค้นนวัตกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจออกมาสู่ตลาด
มร.กุนเทอร์ บุทส์เช็ค ได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส จำกัด มาตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากบริหารงานในตลาดอินเดียแล้ว มร.บุทส์เช็คยังเป็นผู้กำหนดทิศทางธุรกิจของ ทาทา มอเตอร์ส ในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก รวมทั้งใน สาธารณรัฐเกาหลี ไทย อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้
มร.บุทส์เช็ค ยังกล่าวอีกว่า “การที่จะสร้างให้บริษัทมีความพร้อมสำหรับอนาคต ตามแนวคิด ‘Futuready’ เราต้องประเมินตัวเองแล้วเปรียบเทียบกับมาตรฐานของตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง เพราะเราไม่สามารถพึงพอใจอยู่กับเพียงมาตรฐานในอินเดียเท่านั้น เราต้องการจะจารึกชื่อไว้ในตลาดโลก ซึ่งทางที่จะเป็นไปได้มากที่สุดคือ การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา”