นาทีวิกฤติ เมื่อรถจมอยู่ใต้น้ำ
ในกรณีรถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำหรือลำคลอง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวของคนใช้รถเหลือเกิน แต่จริงๆแล้วไม่เป็นแบบนั้นหรอกครับ เพราะในชีวิตผมมีรถขับมา 20 ปี ตกน้ำไป 2 ครั้งแล้ว แล้ว และในแต่ละครั้งก็เป็นเหตุการณ์แบบตั้งตัวไม่ทัน ทั้งๆที่ผมเคยผ่านการอบรมเทคนิคขับรถมาทุกรูปแบบแล้ว ยังไม่รอดจากเหตุการณ์แบบนี้เลยครับ ดังนั้นผมจึงนำเทคนิคและวิธีการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นมาฝากทุกคนครับ
รถเวลาตกลงไปในน้ำจะไม่จมทันทีเหมือนหินตกน้ำ แต่จะค่อยๆ จมลงทีละนิดจนกว่าจะถึงพื้นล่าง และในนาทีวิกฤตนี้เอง ควรตั้งสติให้ดีก่อนเป็นอย่างแรกและปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดันในรถและนอกรถให้เท่ากัน มิฉะนั้นท่านจะเปิดประตูรถไม่ออกเพราะน้ำจาภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้ แต่ถ้ารถคุณเป็นกระจกไฟฟ้าให้กดกระจกไฟฟ้าลงทุกบานเป็นอย่างแรกก่อน ปลด SAFETY BELT
6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของรถได้
7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้
ในกรณีนี้หากน้ำลึกมากๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำเพราะอาจจะว่ายไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ กรณีเช่นนี้ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าปากดูว่าฟองอากาศลอยไปในทิศทางใดให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มีอาการหลงน้ำ นอกจากนั้นก่อนออกจากรถหากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆ นั้นออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตของคุณปลอดภัยได้ในยามคับขัน