Nissan เดินหน้ายกระดับด้านคุณภาพงานบริการและงานขาย
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ประกาศรายชื่อ 13 ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี 2559 พร้อมเดินหน้ายกระดับด้านคุณภาพงานบริการและงานขายอย่างต่อเนื่อง เผยผลสำรวจคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้นทุกด้าน
Nissan เดินหน้ายกระดับด้านคุณภาพงานบริการและงานขาย
มร.คะซุทากะ นัมบุ ประธาน Nissan Motor Thailand กล่าวว่า Nissan มีนโยบายเชิงรุก ในการสร้างและเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าของนิสสันอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการบริการทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขาย โดยหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีคือการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี ซึ่งในปีนี้มีโชว์รูมและศูนย์บริการได้รับรางวัลรวม 13 แห่ง
“ผู้จำหน่ายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์นิสสันในประเทศไทย ที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตด้านการขายและส่วนแบ่งการตลาดอย่างยั่งยืน และสนับสนุนคำมั่นสัญญาของนิสสัน ที่มีต่อลูกค้า นิสสันจึงมีนโยบายให้ความสำคัญกับการทำงานกับผู้จำหน่ายอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการตลาด การขาย และการพัฒนาคุณภาพโชว์รูมและศูนย์บริการ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าของและผู้บริหารโชว์รูม และศูนย์บริการทุกแห่ง เพื่อร่วมกันดูแล และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม จวบจนการดูแลบริการหลังการขาย”
เกณฑ์พิจารณามอบรางวัลผู้จำหน่ายนิสสันยอดเยี่ยม
สำหรับเกณฑ์พิจารณามอบรางวัลผู้จำหน่ายนิสสันยอดเยี่ยม หรือ Nissan Best Dealer Award ประเมินจากผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี ทั้งด้านการขาย ส่วนแบ่งทางการตลาด คุณภาพงานขายและการบริการหลังการขายในด้านต่างๆ ดัชนีวัดความพึงพอใจต่อประสบการณ์การซื้อ หรือ Sales Satisfaction Index (SSI) และดัชนีวัดความพึงพอใจของผู้บริโภคของการบริการหลังการขาย หรือ Customer Satisfaction Index (CSI)
ทั้งนี้ ซึ่งจากผลการดำเนินงานในปี 2558 มีโชว์รูมและศูนย์บริการนิสสันที่มีคะแนนสูงสุดและได้รับรางวัล ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมจำนวน 13 แห่ง ได้แก่
ภาคเหนือ: แองเจิลเวย์ (สำนักงานใหญ่) จ. เชียงราย, แองเจิลเวย์ (สาขาสี่แยกแม่กรณ์) จ.เชียงราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: สยามนิสสัน ร้อยเอ็ด (สำนักงานใหญ่), เคเคที ขอนแก่น (สำนักงานใหญ่)
ภาคกลางและตะวันออก: สยามนิสสัน ราชบุรีมอเตอร์ (สำนักงานใหญ่), สยามนิสสัน บูรพาปราจีน (สาขากบินทร์บุรี) จ.ปราจีนบุรี, สยามนิสสัน ตะวันออก (สาขาถนนสุขุมวิท) จ.ระยอง
ภาคใต้: หาดใหญ่ มอเตอร์ (สำนักงานใหญ่) จ.สงขลา, สยามนิสสัน ประจวบคีรีขันธ์ (สำนักงานใหญ่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
กรุงเทพฯ และปริมณฑล: สยามนิสสันเซลส์ (สาขาพระประแดง) จ.สมุทรปราการ, นิวตัน เซอร์วิส เซ็นเตอร์(สำนักงานใหญ่) จ. กรุงเทพฯ, เอส.เอ็ม.ที. ลิสซิ่ง (สำนักงานใหญ่), จ. กรุงเทพฯ, สยามนิสสัน มหานคร (สาขาตลาดไท) จ.ปทุมธานี
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีและขอบคุณ ผู้จำหน่ายนิสสันทุกแห่ง ที่ให้ความร่วมมือกับนิสสันมาอย่างดี และมีความพร้อมที่จะช่วยกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ทั้งนี้จากการทำงานร่วมกันกับ ผู้จำหน่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันยกระดับพัฒนาคุณภาพทั้งด้านงานขายและบริการหลังการขาย ตลอดจนให้การอบรม เพิ่มพูนทักษะของบุคลากรทั้งส่วนการขาย ช่างเทคนิค และส่วนบริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก และพึงพอใจ ส่งผลทำให้นิสสันมีระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่สูงขึ้นจากการวัดผลของดัชนีวัดความพึงพอใจของผู้บริโภคของการบริการหลังการขาย หรือ CSI ซึ่งจัดทำขึ้นโดย JD Power ในปี 2558”
ด้าน นายเชษฐพงศ์ ชัยคณารักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามนิสสัน ร้อยเอ็ด (สำนักงานใหญ่) จำกัด 1 ใน 13 ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี 2559 ซึ่งได้รับรางวัล สุดยอดผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม Best of the Best Nissan Global Award กล่าวว่า “หัวใจหลักในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตั้งแต่ลูกค้าก้าวเข้ามาในศูนย์บริการ ก็คือคน หรือ บุคลากร ที่เราจะต้องสร้างให้เขามีความมุ่งมั่น มีความสุขในการทำงาน และมีความยินดีที่จะใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกๆ จุดสัมผัสกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้มีรอยยิ้ม มีความสบายใจมากที่สุด ผมจึงยินดีลงทุนกับการพัฒนาบุคลากรทุกคนและทุกระดับ รวมถึงมีการสื่อสารกับบุคลากรให้ชัดเจน ให้ทุกคนได้เข้าใจเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน ที่จะมุ่งให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ มีความไว้วางใจ ตลอดจนสร้างให้พนักงานทุกคนมีความภาคภูมิใจ มีกำลังใจในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนขององค์กร และมีความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉงในการที่จะร่วมแรงร่วมใจกันทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันดูแลสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้า อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา”
นิสสัน มีโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์นิสสันครบทั้ง 77 จังหวัด ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ๆ มากกว่า 210 แห่งทั่วประเทศ มีศูนย์บริการซ่อมแซมสีและตัวถังกว่า 90 แห่ง เพื่อให้รองรับและครอบคลุมพื้นที่การให้บริการมากยิ่งขึ้น