ปรับเทคนิคการขับขี่ เมื่อ “BABY” อยู่ในท้อง

ตั้งแต่ต้นปีจนมาถึงกลางปีที่ผ่านมา สาวๆ หลายคนรอบตัวต่างชิงจังหวะ ออกตัวแรงแต่งงานกันไปหมด อีกไม่นานก็คงจะมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้อง ด้วยความเป็นห่วงผมจึงอยากแนะนำเทคนิคการขับขี่รถยนต์สำหรับ “คนท้อง” เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นทั้งคุณแม่และคุณลูกครับ

“รู้จักประเมิน ความเสี่ยง” ในการขับรถตระหนักไว้เสมอว่ามีความเสี่ยงตลอดเวลา เมื่อคุณตั้งครรภ์ความเสี่ยงก็จะตกอยู่กับลูกของคุณด้วย คุณมีโอกาสแท้งลูก 3 เท่า และ เลือดตกในถึง 2 เท่า หากเกิดอุบัติเหตุในขณะขับขี่หรือแม้จะชนไม่แรง ก็ยังมีโอกาสแท้งลูก 5% แต่จากการศึกษาล่าสุด พบว่า ในจำนวนดังกล่าวนั้นมีกว่า 68% ที่ไม่ยอมคาดเข็มขัดในขณะขับขี่ และปรับท่านั่งไม่ถูกต้อง ดังนั้น แม้คุณจะรู้สึกอึดอัดสักหน่อย แต่ควรคาดเข็มขัดไว้ตลอดเวลา เวลาขับรถพยายามห่างคันหน้าให้มากกว่าเดิม ความเร็วที่ใช้พยายามอย่าให้เกิน 90 กม./ชม. เวลาเปลี่ยนเลนต้องมั่นใจจริงๆ ว่าไม่มีรถ อย่าประมาทเป็นเด็ดขาด
 

“ ปรับเปลี่ยนท่านั่ง” คุณต้องปรับเบาะนั่งถอยหลังจากเดิมห่างพวงมาลัยมากขึ้นราวๆ 10 เซนติเมตร ห้ามนั่งใกล้พวงมาลัย และปรับเบาะเอนเล็กน้อย รวมถึงปรับพวงมาลัยให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้ Air Bag นั้นกระแทกเข้าท้อง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญในการปรับทั้งหมดนั้นคุณยังต้องให้สามารถควบคุมคันเร่ง เบรค พวงมาลัยได้ใกล้เคียงของเดิม
 

“คาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกวิธี” คุณก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย อย่าเอาความรู้สึกว่ามันจะอึดอัดคับพุงมาเป็นข้ออ้า ง เพราะ เข็มขัดนิรภัยนี้ช่วยคุณและลูกไม่ให้กระแทกกับพวงมาลัย ยามเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อคุณท้องใหญ่ขึ้นจากเดิม คงจะยากที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย แต่วิธีคาดนั้นก็ไม่ยาก ให้เว้นสามเหลี่ยมระหว่างช่วงท้อง โดยสายบนนั้นควรอยู่ช่วงราวนมและคอ ส่วนสายล่างปรับไม่ให้ตึงมากและวางไว้ใต้พุง
 

“อย่าใช้ความเร็วสูง” สำคัญที่สุดคุณต้องขับรถไม่เร็วเกินไปส่วนหนึ่ง คือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น อีกส่วนหนึ่ง คือ ลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งการใช้ความเร็วไม่มากนัก ทำให้คุณลดความเสี่ยงการแท้งลูก แต่ยังสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยด้วย
 

ข้อปฎิบัติง่ายๆ เพียงเท่านี้น่าจะช่วยให้คุณสามารถขับรถช่วยตัวเองได้ แต่จากคำแนะนำของแพทย์เรื่องสูตินารีเวชเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 7 หรือ 12 สัปดาห์ก่อนคลอดนั้น ควรงดกิจกรรมขับรถเพื่อความปลอดภัย ถ้าจำเป็นคงต้องเรียกคุณสามีมาขับให้จะดีกว่าครับ
 

 


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |