Page 49 - iamcar75

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ววิธีป้องกันสนิมไม่ใช่เรื่องยาก แค่อย่าให้เหล็กเจอ กับน�้าหรือออกซิเจนเท่านั้น จัดการหาอะไรมาเคลือบทับผิวเหล็กเอา ไว้ ทางบริษัทผู้ผลิตรถลงทุน และลงแรงไปไม่น้อย เพื่อให้มีผลในการ ต้องพ่นกันสนิมกันอยู่ไหม ปกป้องสนิมสูงที่สุด ซึ่งมีวิธีการ และขั้นตอนหลายอย่าง เรื่องของราย ละเอียดและเทคโนโลยีก็แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ส�าหรับส่วนใหญ่ เมื่อก่อนสัก 5 ปีที่ผ่านมาเวลาซื้อรถใหม่ทางโชว์รูมต้องมีโปรโมชั่นแถมพ่นกันสนิมมาให้ด้วยตลอด แล้วโดยทั่วไปมักจะมีขั้นตอนแบบนี้ เริ่มจากก�าจัดสิ่งสกปรก น�้ามัน จากชิ้นส่วนของตัวรถ โดยจุ่มลงไปในบ่อน�้ายาเคมี ซึ่งจะมีอุณหภูมิ แต่มาช่วงหลังเวลาซื้อรถใหม่ไม่เห็นมีแถมเลย หรือตัวตัวถังรถสมัยใหม่ไม่จ�าเป็นต้องพ่นกันแล้ว ประมาณ 35-60 องศาเซลเซียส เพื่อช�าระล้างสิ่งสกปรกและคราบ เดี๋ยวเราไปหาค�าตอบด้วยกันครับ น�้ามันต่าง ๆ ออกให้หมด น�าไปท�าความสะอาดอีกครั้งด้วยน�้าบริสุทธิ์ สาเหตุที่รถรุ่นใหม่ๆ ไม่จ�าเป็นต้องพ่นกันสนิมเป็นเพราะมีขบวนการป้องกันสนิมที่ดีขึ้นมากๆ เพื่อเป็นการล้างน�้ายาเคมีที่ติดผิวงานมา และท�าการชุบกัลวาไนซ์ ครับ สามารถรักษาให้รถปลอดสนิมได้เป็นเวลานาน ซึ่งถ้าไม่มีการชนหรือมีรอยขีดข่วนที่ลึกถึงเนื้อ ล�าดับต่อไปเป็นการส่งไปชุบสารฟอสเฟต ซึ่งมีคุณสมบัติจับตัวเป็นผลึก เหล็กซะก่อน ก็มักจะไม่มีปัญหาเรื่องถูกสนิมถามหาแน่ๆ สนิมที่เกิดจากปฏิกิริยาทางไฟฟ้าเคมี ซึ่ง เคลือบบนผิวเหล็กอย่างแน่นหนา ช่วยให้เนื้อสีเกาะตัวดียิ่งขึ้น และช่วย เกิดขึ้นจากการรวมตัวของออกซิเจนกับเหล็ก โดยมีความชื้นเป็นตัวน�าหยดน�้าสัมผัสกับเนื้อเหล็ก ปกป้องการเกิดอ๊อกไซด์ของเหล็กหรือเกิดสนิมบนผิวเหล็ก เมื่อผสมกับออกซิเจนที่ปะปนอยู่ในน�้ากับเหล็กจะเริ่มรวมตัวกัน ก่อให้เกิดเป็นอ๊อกไซด์ของ เหล็กหยดน�้าจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง พอหยดน�้ามีการระเหยหายไปกับอากาศ จะ หลงเหลือเป็นคราบสีแดงติดค้างอยู่บนผิวเหล็ก ต่อจากนั้นเจ้าสนิมจะขยายตัว ลามต่อไปเรื่อย ๆ แม้ตอนนั้นจะไม่มีความชื้นเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้วก็ตาม ด้วยคุณภาพที่ดีในการป้องกันสนิมจากโรงงานยุค ใหม่ คนใช้รถแบบเราจึงไม่ต้องกังวลในส่วนนี้มาก นัก แต่ถ้ารถมีการเกิดอุบัติเหตุมาล่ะก็ ควรจะตรวจ เช็คสนิมดูบ้างนะครับ